logo-heading

เกมที่ อังกฤษ บุกไปไล่ถล่ม ฮังการี ถึงถิ่น 4-0 ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ไว้ลายเจ้าของรองแชมป์ ยูโร 2020 แต่กระนั้นไฮไลท์สำคัญ กลับไม่ใช่เรื่องผลการแข่งขันอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมันมีเรื่องการเหยียดผิว และ การตอบโต้อันแสบสันของบรรดาขุนพล "สิงโตคำราม" ด้วยการ ดื่มน้ำ สะท้านทรวง

เหตุการณ์นี้ กลายเป็นแฟนบอล ฮังการี โดนด่าไปทั่วทุกสารทิศ ถึงขนาด บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ประณามถึงการกระทำดังกล่าว เรื่องราวมันเป็นมายังไง จะพาไปย้อนไปดูต้นสายปลายเหตุกันครับ

- ก่อนเริ่มเกม แฟนบอล ฮังการี ก็เริ่มออกลูกเกเร

หลังจากที่ฟุตบอลได้มีแคมเปญ คุกเข่าก่อนการแข่งขัน เพื่อเป็นการต่อต้านเรื่องเหยียดผิว ก็เริ่มมีทีมที่มองว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีสามารถหยุดเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน แต่กระนั้นสำหรับทีมชาติอังกฤษ ยืนยันว่าพวกเขาจะยังคงสืบธรรมเนียม "คุกเข่าต้านเหยียดผิว" ต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขัน ระหว่าง ฮังการี กับ อังกฤษ จะเริ่มขึ้น มีช่วงที่นักเตะ "สิงโตคำราม" กำลังนั่งคุกเข่า ทันใดนั้น "เหล่านักรบแมกยาร์" บางกลุ่ม ก็ส่งเสียงโห่ขึ้นมา ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องต่อต้านการเหยียดผิวแต่อย่างใด และ นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกระหว่างเกม เดี๋ยวพวกเอ็งเจอหนักยิ่งกว่านี้

- อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0

เป้าของการเหยียดผิวในเกมนี้ แฟนบอล ฮังการี พุ่งโจมตีมาที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ จู๊ด เบลลิงแฮม 2 นักเตะผิวสีทีมชาติอังกฤษ ถึงแม้ว่า น้องจู๊ด จะไม่ได้ลงสนาม แต่การวิ่งวอร์มของเขา ก็ถูกส่งเสียงล้อเลียนว่าเหมือน "ลิง" อย่างโจ๋งครึ่ม แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนได้เห็นพฤติกรรมของฮูลิแกนเจ้าบ้าน ก็คือนาที 55 ของเกม แฟนบอลฮังการี เข้ามาเต็มความจุ เกือบๆ 6 หมื่นคน อารมณ์มืดฟ้ามัวดิน เหมือนตอนที่ทำเซอร์ไพรส์ใส่ ทีมชาติฝรั่งเศส ในศึก ยูโร 2020 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่พฤติกรรมพวกเขายังคงก้าวร้าว ล้อเลียน สเตอร์ลิ่ง ไม่เลิกรา และ มีมาเป็นระยะทุกครั้งที่เขาจับบอล สุดท้ายความไม่มีน้ำใจนักกีฬาก็แสดงออกมาให้เห็นทั่วโลก ตอนที่ อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 หลังจาก เจ้าลิ่ง ซัดให้ สิงโตคำราม ขึ้นนำ เจ้าตัวก็วิ่งถอดเสื้อเพื่อให้เห็นข้อความด้านใน ที่มีตัวอักษรแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ สเตฟฟี่ เกร็ก เพื่อนซี้ของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากภาวะโรคแทรกซ้อนหลังติดเชื้อโควิด-19 ทว่าแฟนบอล ฮังการี กลับโชว์พฤติกรรมถ่อยๆออกมา ด้วยการเอาแก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือ รุมปาใส่ สเตอร์ลิ่ง อย่างไม่เกรงกลัวความผิดแต่อย่างใด ถึงแม้ว่ามันจะไม่โดนตัวนักเตะ แต่ถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเหยียดผิวด้วยซ้ำ

- นักเตะอังกฤษ ตอบโต้แบบแสบสัน

แน่นอนครับ การเหยียดผิว คือสิ่งที่วงการกีฬาไม่ยอมรับ แต่ในเมื่อแฟนบอล ฮังการี ไม่มีท่าทีลดราวาศอก ดังนั้นแก๊งเด็กนรกแตกของทีมชาติอังกฤษ จึงได้เริ่มวิธีเอาคืน เหมือนวลีที่ว่า "รสชาติของการแก้แค้นมันหอมหวานเสมอ" เพราะหลังจากที่ แฟนบอล ฮังการี ปาแก้วน้ำลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ แจ็ค กรีลิช หยิบแก้วขึ้นมาดื่มน้ำ พร้อมส่งสายตาเยาะเย้ยหันไปหาแฟนบอลเจ้าถิ่น โดยนอกจากจะเป็นการเอาคืนแบบแสบสันแล้ว ผลสกอร์ 4-0 ยังทำให้กองเชียร์ "นักรบแมกยาร์" เจ็บกระดองใจเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่ประเด็นคือ ไม่ได้มีแค่ กรีลิช คนเดียวที่ทำ เพราะ เดแคลน ไรซ์ ซึ่งยิงประตูให้กับ อังกฤษ ในนัดนี้ ก็หยิบแก้วขึ้นมาดื่ม เพื่อเอาคืนแฟนบอล ฮังการี เช่นกัน เรียกว่าเป็นการตอบโต้แบบมีคลาส ไม่ต้องเหยียดหยาม แต่พิษอารมณ์พุ่งตรงเข้าสู่หัวใจเลยทีเดียว

- พฤติกรรมเหยียดผิว ไม่ใช่ครั้งแรกของแฟนบอล ฮังการี

ว่ากันว่า คนเราอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวล แต่ไม่สามารถเปลี่ยนสันดานคนได้ เช่นเดียวกับแฟนบอล ฮังการี บางกลุ่ม ที่ยังคงแสดงพฤติกรรมเหยียดผิวใส่นักเตะคู่แข่ง ทั้งๆที่พวกเขาถูกลงโทษมาแล้วก่อนหน้านี้ ชนิดที่ไม่รู้สึกหลาบจำ ย้อนกลับไปในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ ฮังการี ได้เป็นเจ้าบ้านอยู่ 2 นัด และ ต้องบุกไปเยือน ทีมชาติเยอรมัน ทาง ยูฟ่า ได้สืบทราบว่า มีแฟนบอล ฮังการี นำป้ายผ้าที่มีการเหยียดชาติพันธุ์เข้ามาในสนาม รวมถึงการล้อเลียนด้วยเสียงลิง สุดท้าย ยูฟ่า ได้สั่งแบนห้ามให้แฟนบอล ฮังการี ห้ามเข้าชมเกม 3 นัด พร้อมปรับเงินอีก 100,000 ยูโร "ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก" เพราะ ฮังการี ก็ทำพฤติกรรมเหยียดผิวแบบเดิม และ มีโอกาสที่จะโดนแบนห้ามแฟนบอลเข้าชมเกมที่สนามสูงมาก เนื่องด้วยพวกเขายังโชคดีที่ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก มันขึ้นกับทาง ฟีฟ่า ไม่เกี่ยวกับ ยูฟ่า ทำให้กองเชียร์จึงตามเข้ามาเชียร์ได้ในเกมที่พบกับทีมชาติอังกฤษ เพราะหลังจากจบเกม ถึงขั้นที่ บอริส จอห์นสัน ผู้นำ อังกฤษ ได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่า "เรื่องที่นักเตะอังกฤษ โดนเหยียดผิว เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และ ขอให้ ฟีฟ่า ดำเนินมาตรการลงโทษสถานหนักกับแฟนบอลที่ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมที่น่าละอายเช่นนี้อีกในอนาคต" กลายเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลาย ต่อมาก็มีทั้ง แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ ทรี ไลอ้อนส์ และ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ เรียกร้องให้ ฟีฟ่า เข้ามา สอบสวนปมเหยียดผิวเป็นการด่วน ซึ่งตอนนี้ ฟีฟ่า ได้รับเรื่องและดำเนินการเรียบร้อย ดูแล้วโอกาสที่แฟนบอล ฮังการี จะรอดยากมาก ที่สำคัญมันจะทำให้ประเทศพวกเขามีภาพลักษณ์ที่แย่ลง ในสายตาแฟนบอลชาติอื่น เพราะโลกแห่งฟุตบอล การให้เกียรติและเคารพผู้อื่นสำคัญเสมอ โดยการกระทำเช่นนี้ของ ฮังการี ทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทั้งในและนอกสนาม แบบเต็มประตู

ฮาย ฮาวดี้

logoline