logo-heading

ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไม เชลซี ถึงเป็นตัวเต็งท็อปทรี ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ เพราะการได้ โรเมลู ลูกากู กลับมา มันสร้างความน่ากลัวให้พวกเขามากขึ้นหลายขุมจริงๆ ซึ่งเกมเปิดบ้านถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 ก็จัดไปเหนาะๆอีก 2 ตุง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ พี่ตู้ คนเดียว ที่พาทีมเก็บ 3 แต้ม ยังมีอีกหลายคนที่ต้องพูดถึง และ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องการประเดิมของ ซาอูล ญีเกซ กับ สิงห์บลูส์ ดังนั้นเกมถล่ม สิงห์ผงาด 3-0 เราได้เห็นอะไรสำคัญๆบ้างในแมตช์นี้ที่ต้องพูดถึง ไปติดตามกันครับ

- การประเดิมของ ซาอูล ญีเกซ

เกมนี้ ซาอูล ญีเกซ ได้รับความไว้วางใจจาก โธมัส ทูเคิ่ล ให้ลงเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง แบบเซอร์ไพรส์เหมือนกัน เนื่องจาก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มีอาการบาดเจ็บ ยังไม่ฟิตพร้อมลงสนาม ส่วน จอร์จินโญ่ ก็เพิ่งกรำศึกหนักจากการไปรับใช้ทีมชาติอิตาลี จากผลงานของ ซาอูล  45 นาทีแรก ดูแล้วยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกเยอะกับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงต้องปรับให้เข้ากับสไตล์บอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อีกด้วย เพราะ มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่หลายจุด  เวลาที่ ซาอูล ครองบอล เหมือนพร้อมจะโดนฉกตลอดเวลา เล่นเอาแฟนบอล เชลซี ถึงกับหวาดเสียว ด้วยสไตล์บอลอังกฤษที่ค่อนข้างไว เมื่อเจ้าตัวยัง คิดช้าทำช้า วนไปวนมา จึงโดนฉกบอลจากเท้าไป 2-3 ครั้ง และ เกือบทำเสียประตูด้วย แต่ทว่าโชคดีที่ ติอาโก้ ซิลวา ช่วยสกัดบอลได้บนเส้นแบบหวุดหวิด อีกทั้งมีจังหวะจ่ายบอลสั้นๆ ง่ายๆ ไปให้ฝั่งนักเตะ แอสตัน วิลล่า ที่ยืนอยู่เฉยๆซะอย่างนั้น  ซึ่งตลอดครึ่งแรก แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย นอกจาก วิ่งแปะไป แปะมา แถมยังดูเกร็งๆ และ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนเกมครึ่งหลังจะเริ่มขึ้น เรียกว่าเป็นนัดแรกที่สอบไม่ผ่าน แต่แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากเขาอยู่กับ ตราหมี เล่นในศึก ลา ลีกา สเปน มาตลอด ดังนั้นคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักระยะ

- ความเป็น "เพชฌฆาต" ของพี่ตู้

นับตั้งแต่ที่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีม ต้องบอกว่าการต่อบอลบนภาคพื้นดินของ เชลซี มีประสิทธิภาพมากขึ้นเหลือเกิน โดยเฉพาะการเซ็ตเกมจากแนวหลัง ซึ่งในเกมที่เจอกับ แอสตัน วิลล่า ทีเด็ดจากลูกนี้แหละครับ ที่สามารถสร้างประตูให้กับ สิงห์บลูส์ ต้องชมความนิ่ง และ ความเข้าใจกันของนักเตะ เชลซี ที่ต่อให้จะโดนเพรสซิ่ง แต่ก็เล่นชิ่งเหมือนลิงชิงบอล ก่อนที่ มาเตโอ โควาซิช จะโชว์ความสามารถกระชากหนีตัวประกบ และ จ่ายแบบคิลเลอร์พาส ไกลกว่าครึ่งสนาม ไปให้กับ โรเมลู ลูกากู ที่วิ่งตัดแนวรับหลุดเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตู บอกตามตรง นึกภาพไม่ออกเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเป็น ติโม แวร์เนอร์ เขาจะทำผิดพลาดอีกหรือไม่ แต่กับ พี่ตู้ เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า ความเป็น "เพชฌฆาต" มันต้องเยือกเย็นขนาดไหน เพราะ ลูกากู เลือกจบสกอร์ ด้วยการเลือกหลอกกองหลัง วิลล่า 1 จังหวะ ก่อนจะแต่งเข้าขวาซัดเสียบมุมแบบเฉียบขาด เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ เชลซี ซึ่งมันเริ่มมาจากการเซ็ตบอลแดนหลัง และ จบสกอร์อันคมกริบ เท่านั้นยังไม่พอครับ พี่ตู้ มาโชว์ความเป็นหัวหอกระดับท็อปของโลก ด้วยการตะบันด้วยซ้าย ตรงกลางเส้นกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเป็นจรวด ชนิดยังทองแทบไม่ทัน ยิงปิดเกมให้ เชลซี ถล่ม วิลล่า 3-0 โดยแมตช์นี้ถือว่าเป็นประตูที่ ลูกากู สามารถซัดได้ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นครั้งแรกเสียที นับตั้งแต่ที่เขาเคยย้ายมาเมื่อปี 2011 และ ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเขาเลือกปลดแอก ด้วยการจูบตราสโมสร เพื่อบ่งบอกว่า "เป้าหมายนี้ ทำสำเร็จแล้ว"

- เมนดี้ คนสำคัญ

ถ้าครึ่งแรก ไม่มี เอดูอาร์ เมนดี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า รูปเกมของ เชลซี จะไปในทิศทางไหน เพราะถ้าเสียประตู โดนขึ้นนำไปก่อน ทุกอย่างมันอาจจะพลิกไปมากกว่านี้  อย่างเช่นครึ่งแรกนี่ต้องเอาพวงมาลัยมากราบไหว้ เมนดี้ เลยล่ะครับ เพราะเขาโชว์เซฟสำคัญช่วยให้ทีมรอดพ้นโดนตีเสมอ จากจังหวะที่ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ตัดเข้าในแล้วซัดด้วยขวาบอลกำลังจะเสียบเสาแรก แต่ เมนดี้ พุ่งเซฟออกหลังไปได้  ส่วนอีกช็อตสำคัญที่ต้องพูดถึง คือจังหวะที่โชว์ซูเปอร์เซฟ 2 ช็อตเน้นๆ โดยดอกแรก แนวรับของเชลซี สกัดบอลมาเข้าทาง ไทรอน มิงส์ หวดเต็มข้อ แต่ เมนดี้ พุ่งปัดเอาไว้ได้ และ บอลกระดอนเข้าทาง เอซรี่ คอนซ่า ยิงซ้ำอีกครั้ง แต่ เมนดี้ ยังปฏิกิริยาไว บินมาผวาปัดบอลออกไปได้อีกอย่างน่าเหลือเชื่อ คิดดูซิครับ ถ้าไม่มี เมนดี้ รูปเกมอาจเปลี่ยนไปอีกอย่าง เพราะต้องให้เครดิตแนวรุก วิลล่า ที่มาดีมากๆ ส่วนครึ่งหลัง อาจจะไม่ต้องออกแรงเยอะ แต่ก็มีช็อตช่วยให้ เชลซี เก็บคลีนชีตได้สำเร็จ

- ความเขี้ยวของ ทูเคิ่ล

ทูเคิ่ล ไม่ใช่แค่โค้ชที่เล่นแต่เกมบุก แต่เกมรับก็เป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ เชลซี ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยตอนที่ เชลซี นำ 2-0 จะเห็นเลยว่า รูปเกมของ สิงห์บลูส์ ไม่ได้เหนือกว่า วิลล่า แม้แต่น้อย อีกทั้งถูก วิลล่า ครองบอลทำเกมบุกเข้าใส่ด้วยซ้ำ และ จวนเจียนจะโดนตีไข่แตกอยู่เหมือนกัน ทันใดนั้นความเขี้ยวของ ทูเคิ่ล ก็เริ่มขึ้น เพราะเขาตัดสินใจ คิดเร็ว ทำเร็ว ด้วยการเปลี่ยนตัวรุกอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกจากสนามในนาที 64 และ ส่ง เซซาร์ อัซปลิกวยต้า ลงไปเล่นแทน และ ขยับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ขึ้นไปช่วยแดนหน้า เพาะถ้าเป็นเรื่องเกมรับ ยังไง พี่เดฟ ก็ดูดีกว่าอยู่แล้ว เรียกว่าขอแพ็คเกมรับให้แน่นไว้ก่อน อาจจะมีช็อตที่ เชลซี โดนส่องอยู่บ้าง หวาดเสียวจะโดนตีไข่แตกอยู่บ้าง แต่กระนั้นการเปลี่ยนตัวก็ถือว่าทำให้แฟนบอลอุ่นใจมากขึ้น และ มีตัวรับเยอะมากขึ้น อย่างน้อยก็ช่วยกันสกัดกั้นจังหวะอันตราย และ สุดท้ายก็เก็บคลีนชีตได้สำเร็จ

- โควาซิช รับบทเป็นผู้ปิดทองหลังพระ

ถ้าจะหาว่าใครเป็นนักเตะตัวปิดทองหลังพระของ เชลซี .. มาเตโอ โควาซิช คือคนนั้นครับ เพราะท่ามกลางสปอร์ตไลท์ ที่ฉายไปหา ลูกากู จากการยิง 2 ประตู แต่ โควาซิช คือผู้เล่นที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมเก็บ 3 แต้ม เพราะ โควาซิช คือคนที่ทำแอสซิสต์ให้กับ ลูกากู ยิงขึ้นนำ 1-0 แต่จุดเด่นที่เขาสร้างขึ้นมาในวันนี้คือ "มิดฟิลด์พลังไดนาโม" วิ่งพล่านไปทั่วสนาม แบบไม่รู้จักเหน็ด จักเหนื่อย ทำหน้าที่ทั้งช่วยตัดเกม และ เชื่อมบอลขึ้นสู่แดนหน้า สุดท้ายความขยันของ โควาซิช ก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อเขาวิ่งไล่เพรสซิ่งนักเตะ วิลล่า ตั้งแต่แดนหน้า จนคู่แข่งจ่ายบอลคืนหลังพลาดกันเอง ก่อนจะเป็นมิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย รายนี้ ไปฉกบอล กระดกข้ามตัวผู้รักษาประตูเข้าไป ให้ทีมขึ้นนำ 2-0 เรียกว่า ยิง 1 จ่าย 1 เป็นคนสำคัญที่พาทีมเก็บ 3 แต้ม ตัวจริงเสียงจริง

ฮาย ฮาวดี้

logoline