ไขประเด็นทำไม เมสซี่ ยังไม่ปังในช่วงเริ่มต้นกับ เปแอสเช
และแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ ก็ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส เกมแรกเรียบร้อยแล้ว ในนัดล่าสุดที่ เปแอสเช เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ โอลิมปิก ลียง 2-1 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ทว่าสิ่งที่แฟนบอลรอคอยอย่างใจจดใจจ่ออย่างการทำประตู เมสซี่ ยังไม่อาจประเดิมเปิดซิงได้สำเร็จ ซึ่งจากภาพรวมที่เราเห็นดูแล้ว เมสซี่ ยังคงต้องปรับตัวกับอีกหลายๆ อย่างที่มันยังไม่ลงล็อคมากเท่าไหร่นัก
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปไขข้อสงสัยว่าทำไมในช่วงเริ่มต้นของ เมสซี่ กับ เปแอสเช อาจจะยังไม่ค่อยราบรื่นมากเท่าไหร่นัก ทั้งเรื่องการยิงประตู และผลงานโดยรวม ซึ่งจะมีประเด็นอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
ยังไม่คุ้นกับลีก เอิง
เปิดประเดิมกับประเด็นแรกที่ต้องบอกว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้มากพอสมควร ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าชีวิตนักฟุตบอลของ เมสซี่ นับตั้งแต่เริ่มเปิดซิงนัดแรกกับ บาร์เซโลน่า ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา เขาค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับศึกลาลีกา สเปน มาโดยตลอด ได้ปะทะฝีเท้ากับคู่แข่งที่วนเวียนกับหน้าเดิมๆ ในทุกฤดูกาล
แน่นอนว่าเมื่อต้องโยกย้ายมาค้าแข้งในลีกที่แตกต่างจากความคุ้นเคยที่ได้สัมผัสมาตลอดทุกสัปดาห์ จังหวะฟุตบอลต่างๆ มันต้องใช้เวลาในการปรับจูนเพื่อให้เข้าใจ แม้ เมสซี่ จะขึ้นชื่อว่าเป็นแข้งหมายเลข 1 ของโลก แต่เขาเองก็คงหนีไม่พ้นกับสถานการณ์ในรูปแบบนี้เช่นกัน
ฉะนั้นแล้วกับช่วงเริ่มต้นที่เพิ่งมีโอกาสลงสนามเพียง 2 นัด และในรูปแบบที่ยังไม่ครบ 90 นาทีเต็มสักเกม มันก็ยังคงต้องให้เวลาอีกชั่วครู่ในการให้ เมสซี่ ใช้เวลาปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ คู่แข่งใหม่ๆ และแนวทางใหม่ๆ ซึ่งคาดว่าถ้าวันไหนปรับตัวได้แล้ว เรียนรู้ได้แล้วว่าเป็นอย่างไร ความกระฉูดแตก และภาพกระหน่ำประตูที่คุ้นตาน่าจะกลับมาให้แฟนบอลได้เห็นกันอีกครั้ง
เพื่อนร่วมทีม
สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวนอกจากลีกใหม่ที่ เมสซี่ จะต้องพบเจอ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเพื่อนร่วมทีมที่ต้องปรับใหม่แบบยกชุด เรียนรู้กับวัฒนธรรมของทีม และความเข้าใจใหม่ทั้งหมด
ย้อนกลับไปสมัย เมสซี่ ยังคงสวมใส่เครื่องแบบของทัพ "อาซูลกราน่า" เขาไม่ต่างอะไรกับจุดศูนย์กลางของทีม เป็นทุกอย่างในแผนกเกมรุกการเปิดเกมบุกแต่ละครั้งของ บาร์เซโลน่า ต้องมี เมสซี่ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการแอสซิสต์ หรือทำประตู
อีกอย่างคือการที่เพื่อนรอบข้างรู้อยู่แก่ใจว่า เมสซี่ จะพาตัวเองไปอยู่จุดไหน รวมไปถึงตัวของเขาเองก็รู้ว่าจังหวะต่อไปเพื่อนจะไปตรงไหน ควรจ่ายอย่างไร มันจึงเป็นเอกลักษณ์ของ บาร์เซโลน่า เองที่ทุกคนในทีมซึมซับจนรู้แนวทางของตัวเองว่าต้องเคลื่อนที่แบบไหน เคลื่อนที่อย่างไรเมื่อมี เมสซี่ ยืนเคียงข้างอยู่ในสนาม
แต่กับ เปแอสเช ในปัจจุบัน เมสซี่ เองยังคงต้องใช้เวลาในการปรับจูนกับเพื่อนรอบข้างอีกสักหน่อยแม้จะมี เนย์มาร์ ที่เคยเล่นร่วมกันที่ บาร์ซ่า หรือ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เล่นร่วมกันมาตลอดในสีเสื้ออาร์เจนติน่า แต่ทว่ากับฟุตบอลระดับสโมสรก็ยังคงต้องมาเรียนรู้กันใหม่ เพราะเท่าที่ผ่านมายังมีจังหวะขาดๆ เกินๆ ไม่ได้เนียนตามากเท่าไหร่
ซึ่งกับประเด็นนี้เชื่อว่านักเตะระดับ เมสซี่ บวกกับความสามารถของเพื่อนร่วมทีมคงไม่ยากที่จะปรับตัวเข้าหากัน เพราะถ้าย้อนกลับไปตอนที่เป็น 3 ประสาน MSN พวกเขาก็ยังคงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันเลย ฉะนั้นแล้วขอเวลาเพียงไม่นานหรอกปรับเรดาร์หากันได้เมื่อไหร่ รับประกันถึงความสะเด่าได้แน่
ร่างกายที่ยังไม่เต็มร้อย
เรื่องนี้อาจจะมีส่วนไม่ใช่น้อยแม่ใน 2 เกมหลังสุดทั้งในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก และลีก เอิง เจ้าตัวจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้ง 2 เกม แต่ทว่าในช่วงก่อนหน้านี้เหมือนร่างกายของ เมสซี่ เองจะไม่ได้เต็มถังแบบ 100% มากนัก ตั้งแต่กรำศึกหนักเมื่อซีซั่นก่อน และมาลงสนามช่วยทัพ "ฟ้า-ขาว" คว้าแชมป์โคปา อเมริกา อีก ฉะนั้นจะเห็นว่า เมสซี่ กว่าจะได้ลงเล่นก็ปาไปเกมที่ 4 ของเกมลีกแล้ว และลงสนามเป็นตัวสำรองด้วย
รวมไปถึงเกมที่พบกับ แกลร์กมงต์ ฟุต เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ไม่ได้ลงเล่นเนื่องด้วยสภาพร่างกายที่เพิ่งกลับไปลงเล่นให้อาร์เจนติน่าในศึกคัดฟุตบอลโลก
และล่าสุดกับเกมที่พบกับ ลียง แม้ เมสซี่ จะได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง แต่ทว่าก็ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม บวกกับการให้สัมภาษณ์ของ โปเช็ตติโน่ มันอาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเขาอาจจะยังไม่ได้เต็มร้อยมากนัก และกุนซือเองก็ไม่อยากให้เขาต้องหักโหมมากเท่าที่ควรด้วย
"เราตัดสินใจถอด เมสซี่ ออกจากสนาม เพราะเขาอาจได้รับบาดเจ็บ เรามีเกมสำคัญรออยู่ และเราต้องปกป้องเขา มันคือการตัดสินใจสำหรับทีม และทุกคนรู้ว่าเรามีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมากมาย เราต้องตัดสินใจเหล่านี้ บางครั้งพวกเขาอาจถูกมองในแง่ดี แต่บางครั้งมันอาจจะน้อยกว่านั้น" คำให้การของ พอช ถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัว เมสซี่ ออกจากสนาม
ซึ่งมันเลยทำให้คิดได้ว่าในตอนนี้สภาพร่างกายของ เมสซี่ อาจจะยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุด มันเลยทำให้ผลงานในสนามอาจจะออกมาไม่ค่อยโสภาตามความต้องการของเหล่ากองเชียร์มากเท่าไหร่นัก
ความกดดัน
แม้ตัวของ เมสซี่ จะผ่านสถานการณ์ที่แตกต่างมาอย่างมากมายโดยเฉพาะความกดดัน หรือความคาดหวังในรูปแบบต่างๆ ทว่ากับการเดินทางในเส้นทางใหม่ที่เขาเองยังไม่เคยก้าวเดินบางทีมันอาจจะเป็นแรงกดดันที่เขาเองอาจจะต้องเรียนรู้ และรับมือกับมันในช่วงแรกๆ
แน่นอนการโยกย้ายมาสวมยูนิฟอร์มของ เปแอสเช เขาย่อมได้รับความสนใจแบบเต็มอัตราศึกจากทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะเป็นสื่อที่คอยติดตามทุกฝีก้าวของเขา หรือที่สำคัญคือแฟนบอลที่ตั้งความหวังไว้สูงสุดอยู่แล้วกับการที่ทีมมี เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของโลกในทีม
แน่นอนในใจของ เมสซี่ อาจจะกังวล และรู้สึกประหม่าไปบ้างตามสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คงเกาะกินหัวใจของเขาได้ไม่นาน เนื่องด้วยตัวของ เมสซี่ มักลงเล่นพร้อมกับความคาดหวังของแฟนบอลมาตลอดไม่ว่าจะสวมเครื่องแบบสโมสร หรือในนามทีมชาติ
ฉะนั้นแล้วเรื่องของความกดดันมันคงเป็นเพียงช่วงแรกๆ ของการปรับตัว ต่อจากนี้พอปลดล็อคทุกอย่างได้สำเร็จ เราคงจะได้เห็นลีลาท่วงท่าภาพเดิมๆ ที่คุ้นเคยอีกครั้ง
และเมื่อความลงตัวเข้ามาแทนที่ ปรับตัวเข้ากับทุกๆ สถานการณ์ได้ ยังไงเสีย เมสซี่ก็คือเมสซี่ ความร้อนแรงของเขาจะค่อยๆ จุติ ต่อจากนี้คงได้เริ่มนับหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสในอีกไม่ช้านี้
- Paolinho -
