logo-heading

ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็สะกดคำว่าแพ้เป็นแล้วในซีซั่นนี้ หลังจากบุกไปแพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 นับเป็นผลงานที่ไม่ดีเอาเสียเลย สำหรับลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยต้องชื่นชม เดวิด มอยส์ กุนซือ ขุนค้อน ที่วางหมากมาจัดการกับ หงส์แดง ได้อย่างยอดเยี่ยม และ มีแท็คติคปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งเสียกระบวน ฉะนั้นไปดูกันหลังจบเกมนี้ มีประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามกันครับ

- VAR พาแฟนบอล หงส์แดง หัวเสีย

เชื่อว่า เมื่อคลิปวีดีโอนี้กำลังเล่นอยู่ ประเด็นถกเถียงเรื่องการตัดสินของกรรมการ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ VAR ก็ยังคงไม่จบไม่สิ้น เพราะแฟนบอล ลิเวอร์พูล ไม่พอใจแน่นอน กับการที่ทีมรักเสียประตูแรก แบบน่ากังขา เนื่องจากมองว่า อลิสซอน โดนก่อกวนในกรอบเขตโทษ 6 หลา ทั้งโดนเบียด จังหวะขึ้นปัดก็โดนกระแทก ซึ่งควรจะได้รับการป้องกันจากผู้ตัดสิน เพราะจังหวะที่ ลิเวอร์พูล เสียประตูแรก อลิสซอน โดน มิคาอิล อันโตนิโอ ก่อกวนจากด้านหลัง ส่วนจังหวะขึ้นเพื่อชกบอลทิ้ง ก็โดน อันเจโล่ อ็อกบอนน่า ขึ้นเบียดด้านหน้า ในความเห็นของฝั่ง เดอะ ค็อป มองว่ายังไงก็ต้องเป็นลูกฟาวล์ชัดๆ  แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็มองว่า อลิสซอน ออกมาพลาดเอง และ อลิสซอน ไม่ได้ยืนปักหลักว่าจะได้เปรียบในการเล่น อีกทั้ง นักเตะ เวสต์แฮม ก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง แค่ขึ้นแย่งโหม่งจากลูกเตะมุมเท่านั้น สุดท้าย VAR ให้เป็นประตูของ ขุนค้อน ทำเอาแฟนบอล หงส์แดง หัวเสียไปตามๆกัน โดยยังมีอีกหนึ่งจังหวะที่ ลิเวอร์พูล มองว่านักเตะ เวสต์แฮม ควรจะต้องโดนไล่ออก หลังมีจังหวะที่ อารอน เครสส์เวลล์ ไปเปิดปุ่มเสียบใส่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จนเกือบถึงหัวเข่า แต่ผู้ตัดสินดู VAR และ ไม่ให้อะไรทั้งสิ้น ทำเอา เดอะ ค็อป หัวร้อนจัด แต่อีกฝ่ายก็มีข้อโต้แย้งว่า เครสส์เวลล์ พยายามจะเล่นบอล และ จังหวะเสียบมันโดนบอลก่อน และ ขากระเด้งไปโดน เฮนโด้ แบบไม่ได้ตั้งใจมากกว่า จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ตัดสิน ไม่ได้ให้ใบแดงกับแบ็กซ้าย ขุนค้อน แต่อย่างใด

- เสียเตะมุม เหมือนเสียจุดโทษ

ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปีก่อน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เข้ามาเป็นป้อมปราการหลักให้กับทีม ทาง หงส์แดง มักจะมีวลีที่โดนล้อเลียนบ่อยๆว่า "เสียเตะมุม เหมือนเสียจุดโทษ" เพราะโดนลูกคอร์เนอร์เมื่อไหร่ มักจะเสียประตูเมื่อนั้น วลีเหล่านั้น ค่อยๆเลือนลางหายไป เมื่อมี บิ๊กเฟอร์จิล เข้ามา แต่กระนั้นในเกมนี้ เวสต์แฮม ทำให้สาวก เดอะ ค็อป ต้องกลับไปสู่วังวนเดิมๆ เพราะพวกเขาใช้ลูกตั้งเตะเล่นงาน หงส์แดง จนทำได้ถึง 2 ประตูด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในแท็คติคสำคัญก็คือการเอา มิคาอิล อันโตนิโอ ไปป่วน อลิสซอน เบียดๆถูๆ จนลมปราณแตกซ่าน ปั่นหัวจนเสียสมาธิ ลูกแรกอาจจะยังคาใจสำหรับแฟนบอล หงส์แดง ว่ามันควรฟาวล์หรือเปล่า แต่ประตูที่ 3 ที่ ลิเวอร์พูล เสียนั้น ชัดเจนเลยว่า การป่วน อลิสซอน ของ อันโตนิโอ จากลูกเตะมุมมันได้ผลสุดๆ เพราะ อลิสซอน ไม่อาจออกมาตัดบอลได้ เพราะต้องพะวงอยู่กับคู่แข่งที่อยู่ตรงไหน ขณะที่การประกบตัวของนักเตะ ลิเวอร์พูล ก็แย่มาก ปล่อยให้ผู้เล่น เวสต์แฮม ขึ้นโหม่งได้ง่ายๆ โดยเกมนี้นับว่า ลิเวอร์พูล เสียประตูจากลูกเตะมุมถึง 2 ประตู เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2017 อย่างลูก 3 ชัดเจนเลยว่า เคิร์ท ซูม่า หนีตัวประกบ ลิเวอร์พูล อย่างง่ายดาย ขึ้นเทคโขกคนเดียวแบบเต็มหัว ซึ่งจังหวะนั้น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เพราะไปยืนขาตาย ได้แต่มองตาปริบปล่อยให้ ซูม่า โหม่งอย่างง่ายดาย นับเป็นการเสียประตูที่ต้องโทษกองหลังอย่างเดียวเท่านั้น

- หมากของ เดวิด มอยส์ ปราบ ลิเวอร์พูล

ชัยชนะในวันนี้ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เครดิตต้องยกให้กับ เดวิด มอยส์ จริงๆครับ เพราะวางหมากมาเล่นงานจน หงส์แดง ไม่สามารถเล่นในรูปแบบที่ตัวเองถนัดได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมรับอันเหนียวแน่น ซึ่งทัพ ขุนค้อน ไม่ได้ลงไปตั้งรับทั้งทีม แต่ปิดทางแนวรุก ลิเวอร์พูล ไม่ให้ทำอะไรตามอำเภอใจ เอาง่ายๆ โม ซาลาห์ พยายามจะลากฝ่ากองหลัง เหมือนที่เคยทำกับ แมนฯ ซิตี้ และ วัตฟอร์ด แต่โดนรุมจนไปไม่เป็น เมื่อเกมรับเหนียวแน่น และ พอพวกเขาตัดบอลได้ เกมโต้กลับของพวกเขา มีประสิทธิภาพมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น จาร์ร็อด โบเว่น, ซาอิด เบนราห์มา หรือ มิคาอิล อันโตนิโอ ซึ่งสามารถปั่นป่วนแนวรับ ลิเวอร์พูล ได้มากเหลือเกิน ซึ่งประตูที่ ขุนค้อน ยิงแซงขึ้นนำ 2-1 เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ในการเล่นเคาน์เตอร์แอทแทค เพราะจากการตัดบอลได้กลางสนาม เปลี่ยนเป็นการจบสกอร์จาก ปาโบล ฟอร์นัลส์ ทันที เหมือนที่ พี่แจ็คกี้ บอกเอาไว้ หลังจบเกม ถ้าจะหาว่า ลิเวอร์พูล แพ้ เวสต์แฮม ตรงไหน ก็คงต้องบอกว่าแพ้แท็คติคของ เดวิด มอยส์ จริงๆ เขาทำการบ้านมาดีมาก ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คอะไรทั้งสิ้น ที่ เวสต์แฮม ก้าวกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง แซงหน้า หงส์แดง เรียบร้อย

- ลิเวอร์พูล แพ้นัดแรกของฤดูกาล

ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ยังไม่แพ้ใคร และ สร้างสถิติไม่พ่ายให้กับทีมไหนเลยตลอด 25 นัด รวมทุกรายการ แต่กระนั้นทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ และ ในวันที่ผลงานของ หงส์แดง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก พวกเขาก็โดนเปิดซิงเรียบร้อย เท่ากับว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ จะไม่มีทีมไหนคว้าแชมป์ไร้พ่าย เหมือนกับที่ อาร์เซน่อล ยุค ดิ อินวินซิเบิ้ลส์ เคยทำเอาไว้แน่นอนแล้ว ซึ่งการพ่ายแพ้ของ ลิเวอร์พูล ทำให้พวกเขาตกมาอยู่อันดับ 4 ของตาราง โดยตามหลัง เชลซี จ่าฝูง เป็น 4 คะแนน ทั้งๆที่ สิงห์บลูส์ สะดุดให้แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำแต้มไปจี้ตูดเหลือ 1 แต้มได้

- ซาลาห์ ไม่ยิงประตู 3 นัดติดต่อกัน

ในวันที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่สามารถคลำเป้าเจอ ก็ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล เช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บังโม โชว์ผลงานร้อนแรง ด้วยการยิงประตูมา 10 นัดติดต่อกัน ทว่านับตั้งแต่ซัดแฮตทริคนัดบุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 ก็ไม่อาจยิงประตูใส่คู่แข่งได้เลย ไล่ตั้งแต่เสมอกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-2, ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-0 และ ล่าสุดก็คือแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 เท่ากับว่า 3 นัดแล้ว ที่ ซาลาห์ ไม่ยิงประตูให้กับ หงส์แดง แต่กระนั้นผิดกับ เทรนท์ อาร์โนลด์ ที่ถือว่ากำลังฟอร์มแรง แต่ต้องขีดเส้นใต้ว่า "เกมรุกเท่านั้น" เพราะเจ้าหนูคนเหล็ก ทำ 2 แอสซิสต์ ใส่ ตราหมี และ ยิงฟรีคิกสุดสวยในเกมแพ้ เวสต์แฮม ทว่าเกมรับต้องปรับปรุงอีกเยอะ เพราะนี่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของเขา เลยทีเดียว

ฮาย ฮาวดี้

logoline