logo-heading

นับเป็นข่าวดีสำหรับๆ แฟนบอลอังกฤษ ที่ได้เห็นอีกหนึ่งตำนานดังหวนคืนสู่เวที พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ตอบรับข้อเสนอเข้ามารับงานเป็นกุนซือคนใหม่

แต่สำหรับเหล่าสาวก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ความรู้สึกของพวกเขากลับกลายเป็นในทิศทางตรงกันข้าม ว่ากันว่ามันหนักหนาสาหัสจนถึงสาปแช่งขอให้ชีวิตพบเจอแต่ความตกต่ำกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าได้กลายเป็นจอมวายร้ายไปแล้ว ณ ตอนนี้สำหรับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถ้าจะถามว่าทำไมแฟนบอลของ เรนเจอร์ส ถึงรู้สึกแบบนั้นก็ไปติดตามคอนเทนต์จากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลยครับ Aston Villa confirm Steven Gerrard as new manager as he leaves Rangers | Aston  Villa | The Guardian สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผ่านการคุมทีม ลิเวอร์พูล ชุด ยู-18 และได้ประสบการณ์การคุมทีมแบบจริงๆ จัง ก็ตอนย้ายมา ไอบรอกซ์ สเตเดี้ยม เมื่อปี 2018 ในฐานะกุนซือใหญ่ของ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส และก็เริ่มต้นได้ค่อนข้างดี เพราะปีแรกจบด้วยการเป็นรองแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังอยู่ใต้ร่มเงาของ กลาสโกว์ เซลติก ที่ยังครองมหาอำนาจเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของ สกอตแลนด์ ฤดูกาล 2019-20 ปีที่ 2 ของ "สตีวี่จี" เขามีส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับ เรนเจอร์ส ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เรื่องของความสำเร็จก็จัดว่ามีความหวังมากขึ้น โดยในถ้วย สกอตติช เอฟเอ คัพ ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วน สกอตติช ลีก คัพ จากรอบรองฯ ในปีก่อนก็ตีตั๋วไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่เวที ยูฟ่า ยูโรปา ลีก จากที่จอดป้ายในรอบแบ่งกลุ่มพอมาปีนั้น เรนเจอร์ส ก็ไปได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงแม้ในการลุ้นแชมป์ลีกจะยังอยู่ห่างไกลจากคู่อริตลอดกาลอย่าง เซลติก ด้วยช่องว่างระหว่างคะแนนที่แตะหลัก 10 กว่าแต้ม แต่มันก็มีสัญญาณดีๆ ให้เห็นนั่นก็คือการพา เรนเจอร์ส บุกไปทุบ เซลติก 2-1 พร้อมกับสร้างสถิติเป็นชัยชนะนัดแรกในศึก โอลด์ เฟิร์ม ดาร์บี้ ที่โม่แข่งกันที่ เซลติก พาร์ค ในรอบ 9 ปี แน่นอนว่าเป้าหมายเดียวที่ เรนเจอร์ส และแฟนบอลกระสันมากที่สุดก็คือการโค่นบัลลังก์และแย่งชิงความเป็น นัมเบอร์ วัน มาจาก เซลติก ให้จงได้ และมันก็เกิดขึ้นจริงในฤดูกาล 2020-21 เพราะในการเจอกับคู่อริตลอด 4 นัด สตีเว่น เจอร์ราร์ด พา เรนเจอร์ส เก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด เสมอ 1 นัด และไม่แพ้เลยแม้แต่นัดเดียว บวกกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมคงเส้นคงวามันก็ทำให้ เรนเจอร์ส ได้โอกาสเถลิงบัลลังก์แชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในรอบ 10 ปี เป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 55 บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร และที่พีคสุดๆ ก็คือนี่คือการคว้าแชมป์ในชนิดที่ไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งซีซั่น การประกาศศักดาพา เรนเจอร์ส สปานาตัวเองขึ้นเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของ สกอตแลนด์ ทำให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้รับคำชื่นชมจากผู้คนในวงการเรื่องถึงฝีไม้ลายมือ แน่นอนว่าสำหรับเหล่าสาวกก็เคารพรักและเชิดชูผู้ชายคนนี้แบบสุดหัวใจเหมือนกัน การต่อสัญญาใหม่ออกไปจนถึงปี 2024 เป็นเครื่องยืนยันการันตีว่า เจอร์ราร์ด จะอยู่สร้างความสุขโอบล้อม ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม ไปจนครบสัญญา ไม่ว่าจะมีข่าวกับทีมไหนๆ ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ รู้สึกหวั่นใจเลยสักนิด เพราะทุกคนรู้ดีว่าความฝันสูงสุดของผู้ชายตนนี้ก็คือการได้กลับไปยังทีมรัก ลิเวอร์พูล อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม โดยถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจะได้กลับไปรับช่วงต่อจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะหมดสัญญาในปี 2024 เช่นกัน Steven Gerrard the manager - what Rangers can expect from the Liverpool  legend | Goal.com ฤดูกาล 2021-22 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดี แรงดีไม่มีตก เขาพาทีมกำชัยมาได้ในนัดแรกของศึก โอลด์ เฟิร์ม ดาร์บี้ ที่เชือด เซลติก ไป 1-0 พร้อมกับครองจ่าฝูงบนตารางคะแนน สกอตติช พรีเมียร์ลีก ส่วนในเกมบอลถ้วยตอนนี้ ลีก คัพ ไปถึงรอบตัดเชือกแล้ว โดยในเวที ยูโรปา ลีก ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ดีสำหรับการตีตั๋วไปเล่นรอบน็อคเอาท์ เจอร์ราร์ด ตกเป็นข่าวพัวพันกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังได้เจ้าของทีมคนใหม่ซึ่งกำลังตามหาตัวแทนของ สตีฟ บรูซ แต่ก็ดูเงียบๆ ไป ทางแฟนบอลเองก็รู้สึกเฉยๆ และมันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอ แอสตัน วิลล่า ได้จัดการสั่งปลด ดีน สมิธ เซ่นผลงานอันห่วยแตกหลังพาทีมแพ้รวด 5 เกมติด สื่อต่างประเทศก็เริ่มโหมหนักเรื่อง เจอร์ราร์ด กลับ อังกฤษ มันมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแว่วๆ มาว่า เจอร์ราร์ด เองก็สนใจในงานนี้ ถึงขั้นเดินทางไปเจรจาถึง ลอนดอน ด้วยตัวเองเพื่อเจรจาเรื่องเงื่อนไขและสัญญา ตอนนั้นแหละที่แฟนๆ เรนเจอร์ส เริ่มร้อนใจ อยู่ไม่สุข และท้ายที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ตอบตกลงเข้ามารับงานอาสาเค้นฟอร์มเก่งให้แก่ทัพ "สิงห์ผงาด" แบบดื้อๆ การประกาศอย่างเป็นทางการจากสโมสร แอสตัน วิลล่า ได้ทำให้ความรู้สึกของแฟนบอล เรนเจอร์ส เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากรักก็กลายเป็นเกลียดชังเข้ากระดูกดำ เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทั้งที่ตอนนี้ก็กำลังทำผลงานได้ดีซึ่งเป็นตัวจุดประกายความหวังว่าปีนี้ยังไงก็เอื้อมถึงแน่นอนสำหรับแชมป์ลีกสมัยที่ 2 ติดต่อกัน การตัดสินใจมาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้กลางคันแบบนี้เป็นสิ่งที่แฟนบอล เรนเจอร์ส เกินจะทำใจรับไหว ยิ่งเขาได้รับความรักมากเท่าไหร่ตอนนี้ก็จะได้ความเกลียดชังกลับคืนไปเป็นทวีคูณ การโดนทิ้งไปกลางทางแบบนี้ว่าเจ็บแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆ เรนเจอร์ส รู้สึกเจ็บช้ำไปมากกว่านั้นก็คือ การตั้งข้อสงสัยในเรื่องศักยภาพของ เรนเจอร์ส ว่ามันด้อยกว่า แอสตัน วิลล่า ตรงไหน เพราะนี่คือทีมที่การันตีเรื่องล่าความสำเร็จซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างให้โปรไฟล์ของเขาดูดีขึ้นกว่านี้ได้ แต่ เจอร์ราร์ด กลับตัดสินใจเลือกไปทำงานกับทีมที่ระส่ำหนักต้องดิ้นรนหนีตกชั้น Gerrard's Rangers complete Invincible season with Aberdeen win สำหรับ "สตีวี่จี" อาจมองว่าเป็นก้าวครั้งสำคัญและเป็นการชิมลางและเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเวที พรีเมียร์ลีก ก่อนถึงวันที่ได้เป็นนายใหญ่ที่ แอนฟิลด์ แต่จริงๆ แฟนๆ เรนเจอร์ส ก็คงไม่ต้องมารู้สึก แค้น เคือง โกรธ แบบนี้ถ้า เจอร์ราร์ด เลือกที่จะสู้และเคียงข้างไปจนจบซีซั่น ไม่ว่าผลมันจะออกมาแบบไหน จะสมหวังหรือผิดหวังชอกช้ำยังไงก็ช่าง เชื่อได้เลยว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะได้รับการอำลาอย่างสมเกียรติและถูกจดจำในฐานะผู้ขีดเขียนประวัติศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง แต่นี่แหละคือฟุตบอล ! เมื่อแฟนบอล เรนเจอร์ส ต่างก็ตราหน้าว่าเป็นไอ้งูพิษ เป็นไอ้คนเห็นแก่ตัว เป็นไอ้จอมหักหลัง ขอสาปแช่งให้ตกชั้น มันไม่มีทางที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะกลับมาเป็นที่รักของพวกเขาได้อีกต่อไป ถ้าเขาประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มันก็ดีไป มันก็คงจะมีคำชมกลับมาอยู่บ้าง แต่ถ้าล้มเหลวหรือพลาดพลั้งเมื่อไหร่ตอนนั้นแหละมันจะมีแต่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยและคำด่ามากยิ่งกว่าหลายเท่า

HaMu Dos Santos

logoline