logo-heading

ถ้าจะพูดถึงนักเตะดาวรุ่งสักคนที่ชั่วโมงนี้แววดีน่าจับตามองมากๆ ในวงการฟุตบอลอังกฤษก็คงต้องยกให้ เอมิล สมิธ-โรว์ จากค่าย "ปืนใหญ่" 

ในเมื่อตอนนี้ไอ้หมอนี่ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของ อาร์เซน่อล และเพิ่งได้ประเดิมสนามให้ ทีมชาติอังกฤษ ไปหมาดๆ ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ ให้มากขึ้นกว่านี้กันครับ ประวัติ เอมิล สมิธ โรว์ แข้งดาวรุ่ง มิดฟิลด์มากพรสวรรค์ เบอร์ 10 คนใหม่  ทัพปืนโต| SBOBET บริการแทงบอลออนไลน์ สโบเบ็ต ที่ดีที่สุด

ประวัติพอสังเขป

เอมิล สมิธ-โรว์ เกิดวันที่ 28 กรกฏาคม ปี 2000 ที่ ครอยดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 21 ปี เป็นชาวผู้ดีแท้ๆ 100 เปอร์เซนต์ ส่วนสูง 6 ฟุต 182 เซนติเมตร ถนัดเท้าข้างขวา ประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ปัจจุบันสังกัดอยู่กับ อาร์เซน่อล และได้สวมเสื้อเบอร์ 10

เส้นทางค้าแข้ง

เอมิล สมิธ-โรว์ เป็นผลผลิตของ "ไอ้ปืนใหญ่" มาตั้งแต่แรกเริ่ม เขาย้ายมาปักหลักและปลุกปั้นฝึกปรือฝีเท้าที่ เฮล เอนด์ ตอนปี 2010 เมื่ออายุราวๆ 10 ขวบ ก่อนจะได้โอกาสประเดิมสนามนัดแรกกับทีมชุด ยู-21 เมื่ออายุ 16 ปี และด้วยพัฒนาการที่อย่างต่อเนื่องมันก็ทำให้เขาได้ก้าวไปต่อกับ อาร์เซน่อล ชุด ยู-23 เมื่อฤดูกาล 2017-18 ได้ลงเล่นไป 10 นัด ทำไป 2 แอสซิสต์ และกดไป 1 ประตูด้วยกัน ก่อนจะได้รับสัญญาอาชีพจากต้นสังกัดในวันที่ 31 กรกฏาคม ปี 2017 ไอ้หนู สมิธ-โรว์ ได้โอกาสประเดิมสนามเปิดตัวในสีเสื้อ อาร์เซน่อล ชุดใหญ่นัดแรกช่วงกรกฏาคมปี 2018 ในยุตของ อูไน เอเมรี่ หลังจากได้สัญญาฉบับใหม่ โดยเกิดขึ้นในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่เจอกับ วอร์สกล้า โปลตาว่า สร้างสถิติเป็นผู้เล่นอาชีพคนแรกของ อาร์เซน่อล ที่เกิดขึ้นในยุค 2000 กับการได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ เท่านั้นยังไม่พอเพราะ เอมิล สมิธ-โรว์ ยังเปิดซิงประตูประตูแรกได้ทันทีในเกมที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกในวันที่ถล่ม คาราบัก ไป 3-0 พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้เล่น "ปืนใหญ่" อายุน้อยที่ยิงประตูได้ในรายการนี้นับตั้งแต่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำไว้ตอนปี 2011 แถมยังเป็นผู้เล่นที่เกิดยุค 2000 คนแรกที่ยิงประตูในสโมสรในลอนดอนด้วย ก่อนที่จากนั้นไม่นานก็สามารถทำประตูแรกที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้ ในเกม ลีก คัพ ที่อัด แบล็คพูล ไป 2-1

ประสบการณ์กับทีมอื่น

RB Leipzig's Emile Smith Rowe: "I just can't wait to get fit and play" |  Bundesliga ถึงจะฉายแววได้ดีแต่สำหรับผู้เล่นดาวรุ่งแล้วการย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมอื่นๆ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็เลยทำให้ อาร์เซน่อล ตัดสินใจปล่อย เอมิล สมิธ โรว์ ไปฟาร์มเก็บเลเวลกับ ไลป์ซิก แบบยืมตัวช่วงต้นปี 2019 แต่เผอิญช่วงนั้นต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานก็เลยทำให้ไอ้หมอนี่ไม่มีคุณสมบัติที่พร้อมภายใต้บัลลังก์ของ ราล์ฟ รังนิค โดยได้ลงเล่นไปแค่ 28 นาทีจากการเป็นตัวสำอง 3 นัด มกราคมปี 2020 ไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ ได้โอกาสแก้ตัวใหม่กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เขาได้โอกาสลงอย่างต่อเนื่องที่ 19 นัด กดไป 2 ประตูและทำไปอีก 3 แอสซิสต์ ในยุคของ แดนนี่ โคว์ลี่ย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประตูชัยกับเกมในบ้านนัดสุดท้ายของซีซั่นที่ช่วยให้ทีมเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 พร้อมกับช่วยให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ รอดตกชั้นอยู่ยืนหยัดบนเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้ต่อไป ซึ่งนั่นก็ทำให้เหล่าบรรดาแฟนบอลต่างยกให้เด็กคนนี้เป็นขวัญใจคนใหม่และเรียกร้องให้สโมสรคว้าตัว เอมิล สมิธ โรว์ มาร่วมทีมแบบถาวร แต่ทาง อาร์เซน่อล เองก็หวงนักหวงหนาไม่คิดจะปล่อยเด็กคนนี้ให้ใครทั้งนั้น

กำลังสำคัญของ "ปืนใหญ่"

พอเก็บข้าวข้าวกลับมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ช่วงต้นซีซั่น 2020-21 ถ้ายังจำกันได้นั่นคือช่วงที่ "ไอ้ปืนใหญ่" กำลังขาลงสุดๆ ผลงานไม่เอาไหน แพ้มารัวๆ จนเกิดสถิติอันเลวร้ายที่ออกสตาร์ทในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ย่ำแย่ที่สุดรอบในทศวรรษ แต่พอ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจมอบบทบาทให้ เอมิล สมิธ-โรว์ ก้าวขึ้นมารับบทบาทผู้เล่นเบอร์ 10 แทนที่ วิลเลี่ยน ทุกๆ สิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เขาคือส่วนสำคัญทีช่วยให้ อาร์เซน่อล เอาชนะ เชลซี ได้ 3-1 ในช่วง บ็อกซิ่ง เดย์ พร้อมหยุดสถิติผลงานอันย่ำแย่ที่เนิ่นนานไว้แค่นั้น แถมยังเป็นการช่วยเซฟให้ขาเก้าอี้กุนซือของ อาร์เตต้า แข็งขึ้นด้วย ก่อนที่อีก 5 เกมนัดถัดมาไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ จะมีผลงานที่เฉิดฉายจากการกดไป 3 แอสซิสต์ และทำได้อีก 1 ประตูในเกม เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 14 มีนาคม ปี 2021 ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่น่าจดจำของ เอมิล สมิธ-โรว์ เพราะนั่นคือครั้งแรกในชีวิตที่พี่แกได้ลงสนามทำศึกสงคราม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ และก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นช่วยให้ อาร์เซน่อล เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไป 2-1 พร้อมกับคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มาครอง เบ็ดเสร็จแล้วในฤดูกาล 2020-21 เอมิล สมิธ-โรว์ ได้โอกาสลงสนามไปทั้งหมด 33 นัด ยิงได้ 4 ประตู และกดไปอีก 7 แอสซิสต์ ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในประตูที่น่าจดจำก็คงเป็นประตูชัยที่พา อาร์เซน่อล บุกไปเชือด เชลซี 1-0 เพราะนั่นคือชัยชนะนัดแรกที่ เดอะ บริดจ์ ในรอบเกือบๆ 10 ปี อีกทั้งยังเป็นการชนะ "สิงห์บลูส์" ได้ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2004 อีกต่างหาก

สยบข่าวย้ายทีม

Emile Smith Rowe signs long-term Arsenal contract and takes number 10 shirt  - Birdiefootball ซัมเมอร์ ปี 2021 เหล่าแฟนบอล "เดอะ กันเนอร์ส" รวมถึงต้นสังกัด อาร์เซน่อล ก็รู้สึกใจหวิวๆ เหมือนกัน เพราะด้วยผลงานที่โดดเด่นเข้าตากรรมการสุดๆ มันก็ทำให้หลายๆ ทีมต่างต้องการได้ตัว เอมิล สมิธ-โรว์ ไปครอบครองทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า, ลิเวอร์พูล รวมไปถึงคู่อริเบอร์ 1 อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็อดใจไม่ไหวเหมือนกัน อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ ก็สยบทุกข่าวลือด้วยการสะบัดหมึกบนสัญญาใหม่ อาร์เซน่อล ออกไปอีก 5 ปี พร้อมกับได้สวมเสื้อหมายเลข 10 แทนที่ เมซุต โอซิล ถึง "ปืนใหญ่" จะฟอร์มออกทะเลไปบ้างในช่วงต้นซีซั่น แต่สำหรับ เอมิล สมิธ-โรว์ ผลงานส่วนตัวก็จัดว่ายังยอดเยี่ยมกระเทียมดองเหมือนเคย โดยยิงไป 4 ประตู และทำ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่น 11 นัด ในเกม พรีเมียร์ลีก  พี่แกทำได้ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ในเกมที่ทุบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 ก่อนจะมาซัลโวได้อีก 3 นัดติดต่อกันที่เจอกับ แอสตัน วิลล่า, เลสเตอร์ ซิตี้ และ วัตฟอร์ด ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล กลายเป็นหนังคนละม้วนกับช่วงต้นฤดูกาล เพราะตอนนี้พวกเขาชนะไป 6 จาก 8 เกมหลังสุด และไม่แพ้ใครเลย พร้อมกับรั้งอยู่อันดับ 5 บนตาราง พรีเมียร์ลีก มี 20 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง เชลซี อยู่แค่ 6 แต้ม

สไตล์การเล่น

เอมิล สมิธ โรว์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหรือผู้เล่นเบอร์ 10 มีความโดดเด่นในเรื่องของการขับเคลื่อนพาบอลไปข้างหน้า มีวิสัยทัศน์และเซนส์บอลที่ดีเยี่ยม มีเอเนอจี้และพลังงานล้นเหลือ เขาเป็นนักเตะที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักและสร้างจังหวะให้เพื่อนฝูงได้ดีด้วยการจับบอล แต่งจังหวะและการเคลื่อนอันชาญฉลาดที่เป็นจุดเด่น จากสิ่งที่เอ่ยมีหลายคนที่การันตีว่านี่คือเรื่องนี้ไล่ตั้งแต่ สตีฟ มอร์โรว์ อดีตหัวหน้าทีมอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ก็ชื่นชมเด็กคนนี้ว่า สมาธิอยู่ที่บอลและมองไปที่เป้าหมายข้างหน้าเสมอ เคลื่อนที่ได้ดี จับบอลเยี่ยม และก็เล่นได้ฉลาดสุดๆ ยามมีบอลอยู่กับตัว ทัศนคติดีเหมือนกับเกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอลจริงๆ  ส่วน มาร์ค ฮัดสัน อดีตทีมโค้ชของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ก็บอกว่า ถึง เอมิล สมิธ โรว์ จะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีความเร็วเป็นจุดเด่น แต่กลับเป็นนักเตะที่เอาตัวรอดได้ดียามโดนประกบ สามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ไปได้อย่างหน้าตาเฉย เวลาออกตัวหรือออกบอลให้เพื่อนก็มักจะทำให้เพื่อนเล่นง่ายและทีมดูได้เปรียบเสมอ

เส้นทางระดับนานาชาติ

Emile Smith Rowe: Arsenal midfielder says England call-up 'a dream come  true' after whirlwind 18 months | Football News | Sky Sports เอมิล สมิธ-โรว์ ได้โอกาสรับใช้ ทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16, 17, 18 และ 19 ปี ตั้งแต่ช่วงที่อยู่กับอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ถ้าจะพูดถึงความทรงจำที่ดีโมเมนต์หนึ่งก็คงเป็นช่วงตุลาคมปี 2017 ที่พี่แกมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลของ อังกฤษ ชุดยู-17 ที่คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก เขาทำประตูได้ในเกมที่เจอกับ อิรัก รอบแบ่งกลุ่ม และก็ทำอีก 1 แอสซิสต์ในเกมรอบรองชนะเลิศที่เอาชนะ บราซิล  ช่วงต้นปี 2021 ที่ผ่านมานั่นคือครั้งแรกที่ เอมิล สมิธ-โรว์ ได้โอกาสติดธงทัพ "สิงโตคำราม" ชุด ยู-21 และก็มีชื่อเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญชุดทำศึก ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ยู-21 ปี แต่น่าเสียดายที่สุด อังกฤษ ทำได้แค่จอดป้ายไว้ที่รอบแบ่งกลุ่ม อย่างไรก็ตามด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดในฤดูกาล 2021-22 กับ อาร์เซน่อล นั่นก็ทำให้ เอมิล สมิธ-โรว์ เจอก้าวกระโดครั้งสำคัญในเส้นทางอาชีพนั่นก็คือการได้โอกาสจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้ขึ้นมาสัมผัสประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่ และก็ได้ประเดิมสนามไปแล้วสดๆ ร้อน ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่ถล่ม แอลเบเนีย ไป 5-0 พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้เล่นคนที่ 48 ที่ได้ประเดิมสนามให้ "ทรี ไลอ้อนส์" ในยุคของ เซาธ์เกต และเป็นผู้เล่นคนที่ 19 ที่อายุยังไม่เกิน 21 ปีด้วย

ไอดอล

England Football Signed by David Beckham - CharityStars "ถ้าจะถามถึงฮีโร่ของอังกฤษในดวงใจของผมน่ะเหรอ ? สำหรับผมคือ เดวิด เบ็คแฮม ผมต้องพูดว่า เบ็คแฮม คือ อันดับ 1 เลย ทั้งการเล่นลูกเซ็ตพีซ, ฟรีคิก และทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวกับเขา ผมต้องยกให้เขาจริงๆ " นักฟุตบอลทุกคนต่างก็เติบโตมาด้วยการมีแบบอย่างและนักฟุตบอลที่เป็นไอดอลในดวงใจทั้งนั้น และสำหรับไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ นักเตะอังกฤษที่เป็นแรงบัลดาลใจและเป็นฮีโร่ในดวงใจก็คือ เดวิด เบ็คแฮม นั่นเอง

ความรู้สึกหลังได้เสื้อเบอร์ 10

EMILE SMITH ROWE – ARSENAL #10 – SIGNS LONG-TERM DEAL – Le Grove – The  Arsenal Opinion Blog "ทุกคนรู้ดีว่าหมายเลข 10 คือหมายเลขเสื้อที่สำคัญ และมันก็เป็นตำแหน่งที่สำคัญ ดังนั้นผมขอบอกตรงๆ ว่าผมตื่นเต้นมาก ผมรอที่จะลงสนามไม่ไหวแล้ว มันเป็นอะไรที่พิเศษมาก ผมไม่สามารถหาคำมาอธิบายความรู้สึกของผมในตอนนี้ แต่ถึงจะพูดไม่ออก แต่ผมก็บอกได้ว่าผมมีความสุขมาก เหล่าตำนานที่เคยเล่นให้ที่นี่ต่างก็เคยสวมเสื้อตัวนี้" ทุกคนรู้ดีว่าบทบาทจอมทัพหรือเพลย์เมคเกอร์นั้นเป็นตำแหน่งที่สำคัญและดูโดดเด่นที่สุดในทีมถ้ามองถึงเรื่องของการสร้างสรรค์เกม แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับผิดชอบกับหน้าที่ตรงนี้ได้ แต่สำหรับ เอมิล สมิธ โรว์ ตอนนี้พี่แกได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขามีของจริงๆ และก็คู่ควรแล้วกับบทบาทนี้และเสื้อเบอร์ 10 ของ อาร์เซน่อล

HaMu Dos Santos

logoline