logo-heading

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวอร์ชั่นไร้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถกลับมาเก็บชัยชนะได้แล้ว หลังบุกไปล้างแค้นเอาชนะ บียาร์เรอัล 2-0 เป็นการเปิดซิงคุมทีมของ ไมเคิ่ล คาร์ริค กุนซือขัดตาทัพ อันยอดเยี่ยม การันตีผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แล้ว

หลายๆอย่างเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะระบบการเล่น และ นักเตะที่ถูกส่งลงสนาม ประเด็นแมตช์นี้มีอะไรต้องพูดถึงกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ

- นัดแรกของ ไมเคิ่ล คาร์ริค

คุณก็มีทีมที่รักในแบบของคุณ ผมก็มีทีมที่รักในแบบของผม ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยว่าทำไม ไมเคิ่ล คาร์ริค ถึงจัดตัวในแบบฉบับที่แปลกตาออกไป สมัย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังกุมบังเหียน ทั้งๆที่เขาก็เคยเป็นมือขวา น้าลูกอม มาก่อน แต่เรื่องของระบบ และ ตัวผู้เล่นกลับแตกต่างออกไป เกมแรกของ คาร์ริค ในการขึ้นมาเป็นกุนซือขัดตาทัพ หลังจากสโมสรแยกทางกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งเขาเหมือนจะใช้แผน 4-2-3-1 แต่กลับใช้ระบบ 4-3-3 มากกว่า ซึ่งอาจไม่ได้แปลกตาเท่าไหร่ และ เป็นแผนการเล่นยอดฮิตของทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ด้วยซ้ำ แต่ตัวผู้เล่นที่เลือกใช้ นับว่าเซอร์ไพรส์เหมือนกัน เพราะส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก .. ใช้ จาดอน ซานโช่ เป็นปีกขวา และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นปีกซ้าย โดยเลือกดรอป บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวสำรอง ซึ่งครึ่งแรกอึดอัดมากๆ ดูทรงบอลแล้วยังไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มี ดาบิด เด เคอา คอยช่วยเอาไว้ ก็คงแย่เหมือนกัน แต่เมื่อเข้าถึงครึ่งหลัง ในช่วง 30 นาทีสุดท้าย นับว่าผลงานดีมากๆ จนสามารถคว้า 3 แต้ม ได้สำเร็จ จากการกำชัยเหนือคู่แข่ง ทำให้ ไมเคิ่ล คาร์ริค กลายเป็นโค้ชชาวอังกฤษคนแรก ที่พา "ปีศาจแดง" คว้าชัยทันที ในนัดประเดิมสนามคุมทีม นับตั้งแต่ วอลเตอร์ คริกเมอร์ เคยทำไว้เมื่อเดือน พ.ย. 1931 หรือกว่า 90 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ คาร์ริค ยังสามารถทำในสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำไม่ได้ คือการที่ ปีศาจแดง ไม่เสึยประตูใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้

- การันตีเข้าสู่รอบ น็อคเอาท์

ผลงานอาจจะกระท่อนกระแท่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แพ้มา 2 นัดติดต่อกัน รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไม่แน่ไม่นอน หลังจากเสมอกับ อตาลันต้า มา 2-2 ในนัดที่ 4 ทำให้นัดที่ต้องพบกับ บียาร์เรอัล ถือเป็นแมตช์ชี้ะชะตาเลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังมีโอกาสผ่านเข้าไปเล่น รอบน็อคเอาท์ได้มากน้อยแค่ไหน แต่กระนั้นถึงแม้รูปเกมจะอึดอัด แต่การฉกฉวยโอกาส คว้า 3 คะแนนได้สำเร็จ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การันตีการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แน่นอนแล้ว พร้อมกับการการันตีเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มทันที หลังจาก อตาลันต้า ทำได้เพียงเสมอกับ ยัง บอยส์ 3-3 ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่านัดสุดท้าย ปีศาจแดง จะจัดตัวเต็มเพื่อล้างแค้น ยัง บอยส์ มากขนาดไหน จากการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ยูซีแอล ในฐานะอันดับ 1 ก็คงทำให้พวกเขามีความมั่นใจ และ มีแรงจูงใจเพิ่มมากขึ้น ในการกลับมาสู่เส้นทางที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยเฉพาะเกมต่อไปที่ต้องบุกไปเยือน เชลซี จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากก่อนหน้านี้ ผลงานไม่ได้เป็นดั่งที่หวังมากนัก 

- ประตูเปิดซิง จาดอน ซานโช่

ถือว่าเป็นวันที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอคอยจริงๆครับ กับการที่ จาดอน ซานโช่ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และ สามารถเปิดซิงประตูแรกให้กับสโมสรได้สำเร็จ เพราะย้อนกลับไปสมัยที่เจ้าตัวสร้างชื่อกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีผลงานทั้งเรื่องของการซัลโว และ แอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ ยังไม่สามารถแผลงฤทธิ์ให้กับ ปีศาจแดง ได้เลย ครึ่งแรกอาจไม่โดดเด่นมากนัก แต่ครึ่งหลังต้องบอกว่า ซานโช่ ยิ่งเล่นยิ่งฉายแวว ปั่นป่วนแนวรับ บียาร์เรอัล ได้ดีเหลือเกิน ถึงแม้ว่ายุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อาจจะต้องนั่งเป็นสำรอง แต่หลายคนยังเชื่อว่าไอ้เด็กคนนี้มันมีของ และ ในเกมกับ บียาร์เรอัล เจ้าตัวก็ได้แผลงฤทธิ์สักที ด้วยการยิงประตูตอกฝาโรง พาทัพ ปีศาจแดง เอาชนะ เรือดำน้ำสีเหลือง ได้อย่างสะใจ 2-0 นับว่าเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้า 3 คะแนน และ ผ่านเข้าไปสู่รอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เรียกว่าน่าจับตามองเหลือเกิน เพราะ ถ้า ซานโช่ ได้ลงสนามบ่อยๆ เขาจะยิ่งปรับตัวกับทีมได้มากขึ้นเรื่อยๆ และการทำประตู รวมถึง แอสซิสต์ อาจไหลมาเทมาต่อจากนี้ก็เป็นได้ ดังนั้นในยุคของ คาร์ริค คุมทีม ซานโช่ จะได้รับโอกาสแบบเต็มเหนี่ยวแน่นอน ต้องมารอดูกันว่าเขาจะสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาใช้กับ ปีศาจแดง เหมือนตอนอยู่กับ เสือเหลือง ได้หรือไม่

- บียาร์เรอัล ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย

ว่ากันตามตรง นัดนี้ บียาร์เรอัล ไม่สมควรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยซ้ำ เพราะการวางหมากของ อูไน เอเมรี่ ทำได้ดีมากๆ แต่การผิดพลาดเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง มันกลับทำร้ายให้กับพวกเขาต้องเป็นฝ่ายปราชัยทันที โดยเฉพาะการออกบอลของ เจเรนิโม่ รูลลี่ ผู้รักษาประตู ที่เป็นต้นเหตุจ่ายบอลพลาด ทำให้ทีมต้องเสียประตูแรก ซึ่งจากความพ่ายแพ้นัดนี้ของ บียาร์เรอัล ส่งผลให้พวกเขาต้องมาลุ้นเข้ารอบกับ อตาลันต้า ในแมตช์สุดท้าย โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องชนะเพียงแค่สถานเดียวเท่านั้น เพราะพวกเขามีแต้มเป็นรองอยู่ 1 คะแนน จริงๆแล้ว สถานการณ์ของ บียาร์เรอัล ควรดีกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าหากพวกเขาไม่ทำผิดพลาด จนส่งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ เท่ากับว่านัดชี้ชะตาว่าจะได้ไปต่อ หรือ ร่วงไปเล่น ยูโรปา ลีก ต้องไปลุ้นเกมเจอกับ อตาลันต้า โดยมีข้อแม้ว่าห้ามแพ้สถานเดียว ไม่งั้นต้องหล่นไปร่วงป้องกันถ้วยเล็กของยุโรปเหมือนเดิม

- โรนัลโด้ มิสเตอร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ทว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงสถานะเป็น เดอะ แบก ของทีม อยู่เสมอ เป็นตัวความหวัง ที่ต้องพาทีมกลับมาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ซึ่งเมื่อไหร่ถึงคิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่คือรายการของเขาอย่างแท้จริง 5 นัดที่ผ่านมา ซีอาร์ 7 สามารถยิงประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทั้งหมดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ว่าจะเป็น ยัง บอยส์ เบิร์นส์, อตาลันต้า และ บียาร์เรอัล เป็นอาหารอันโอชะของ โรนัลโด้ ทั้งหมด จากผลงานอันยอดเยี่ยมของ โรนัลโด้ ทำตอนนี้เขาเพิ่มสถิติยิงประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว มากถึง 140 ประตู มากสุดตลอดกาล สมกับฉายา มิสเตอร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแท้จริง ที่สำคัญปัจจุบัน พี่โด้ ซัลโวใส่คู่แข่งมากกว่า 10 ประตู เป็นฤดูกาลที่ 17 ติดต่อกันเข้าไปแล้ว

ฮาย ฮาวดี้

logoline