logo-heading

สถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า สุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเล่น ยูโรปา ลีก เหลือเกิน หลังจากทำได้เพียงเสมอกับ เบนฟิก้า 0-0 แน่นอนมันเป็นผลการแข่งขันที่ไม่น่าพอใจเอาเสียเลย แต่ในความคับขัน มันก็ยังมีเรื่องดีอยู่ๆบ้าง เพราะ ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือคนใหม่ของ เจ้าบุญทุ่ม ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง

ทั้งเรื่องสไตล์การเล่น, DNA ความเป็น บาร์ซ่า รวมถึงกฎระเบียบที่จะนำพาสโมสรกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่ ฉะนั้นไปดูกันว่าจากการคุมทีมไปแล้ว 2 นัด ของ ชาบี ในถิ่นคัมป์ นู มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแล้วบ้าง

1. ความเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบ

หลังจาก ชาบี เข้ามารับงานคุมทีม บาร์เซโลน่า เขาก็ประกาศกฎเหล็กอย่างเข้มงวดทันที โดยมีถึง 10 ประการ ให้ลูกทีมปฏิบัติตาม แบบไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นเพื่อนร่วมทีม หรือ เป็นซูเปอร์สตาร์มาจากไหน เพื่อเป็นการผลักดันสโมสรให้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเน้นไปที่เรื่องของระเบียบวินัย อาทิ ต้องมาซ้อมก่อนเวลา 90 นาที และ ห้ามสายเด็ดขาด ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก, ห้ามไปเที่ยวกลางฤดูกาล, ต้องรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่สนามซ้อม, ต้องนอนก่อนเที่ยงคืนช่วงใกล้แข่ง 2 วัน หรือ ห้ามทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ .. เรียกว่าเข้ามาปุ๊บ ก็โชว์ความเข้มงวดทันที เพราะก่อนหน้านี้กฎดูหละหลวมเหลือเกิน เนื่องจาก มีนักเตะบางคน ไม่ค่อยมีความเป็นมืออาชีพมากนัก ยกตัวอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ ดาวเตะอีสปอร์ต ที่เคยนอนเล่นเกมยันหว่าง ถึงขั้นโดดซ้อม ดังนั้น หาก เดมเบเล่ ยังทำพฤติกรรมแบบนี้ และ ทำผิดซ้ำ จะโดนปรับสตางค์เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ไม่มีข้อยกเว้น

2. ระบบ และ สไตล์การเล่น

ย้อนกลับไปสมัย โรนัลด์ คูมัน กุมบังเหียน บาร์เซโลน่า มักจะเห็นเขาปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 อยู่บ่อยๆ ซึ่งดูแล้วมันไม่เวิร์คสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ ดังนั้นพอเปลี่ยนมือมาเป็น ชาบี เขาก็เลือกใช้ระบบ 4-3-3 ในแบบฉบับของ เจ้าบุญทุ่ม เหมือนเดิม แต่หากใครได้ดูเกมการแข่งขัน ชาบี จะมีแผนเด็ดคอยเลือกใช้ 3-4-3 ระบบนี้ฟูลแบ็ก 2 ข้าง ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งคอยช่วยเรื่องเกมรับ และ บุกขึ้นไปเติมช่วยเกมรุก นับเป็นฟุตบอลสมัยใหม่ ที่ตำแหน่งแบ็กต้องมีความครบเครื่องมากกว่าเดิม รวมถึงมิดฟิลด์ก็จะเป็นคีย์แมน โดยเฉพาะตัวรับ และ ตัวเชื่อมเกม จำเป็นจะต้องครองบอล พร้อมกับเซ็ตเกมให้ได้ พูดถึงเรื่องแผนการเล่นไปแล้ว คราวนี้ถึงเรื่องสไตล์กันบ้างครับ จำได้ไหมว่า คูมัน เคยเรียกให้ เคราร์ด ปิเก้ ขึ้นไปข้างหน้า เพื่อรอโหม่งทำประตู ใช้ลูกครอสมากกว่า 50 ครั้ง ในเกมเจอกับทีม กรานาด้า ทำเอาสาวก อาซูลกราน่า หัวร้อนเป็นแทบๆ เพราะนี่ไม่ใช่ทรงบอล บาร์ซ่า แต่กลายเป็นเหมือนพวกอังกฤษสไตล์โบราณ คิดอะไรไม่ออกให้โยนขึ้นหน้าอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ชาบี คือศิษย์เอกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สมัยเป็นนักเตะเขาคือคีย์แมนในระบบ ติกิ-ตาก้า ส่งบอลแบบเท้าสู่เท้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเพียงแค่นัดแรกที่พบกับ เอสปันญ่อล มันก็เห็นผลทันที เพราะ ชาบี ไม่มีสั่งให้ลูกทีมโยนมั่วซั่ว ขนาดเล่น 3-4-3 ก็แทบจะไม่ครอสสักเท่าไหร่ เน้นต่อบอลจ่ายเข้ากลาง เพื่อหาช่องว่างมากกว่า จากการคุมทีมของ ชาบี ในช่วง 2 นัดที่ผ่านมา บาร์ซ่า มีค่าเฉลี่ยยิง 15 ครั้ง ต่อ 1 เกม / ค่าเฉลี่ยผ่านบอลสูงถึง 653 ครั้ง ใน 90 นาที และ ความแม่นยำอยู่ที่ 87 เปอร์เซ็นต์ แถมครองบอลเหนือคู่แข่งประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่านำความเป็น บาร์ซ่า กลับคืนมา ทั้งเรื่องการต่อบอลที่เนียนตาขึ้นเยอะ, สปีดบอลเท้าสู่เท้าที่เร็วขึ้น, มีความหลากหลายในการเข้าทำ ทั้งเปิดบอลจากแนวลึก, หรือ โจมตีจากฟูลแบ็ก หากมีโอกาสยิง ก็จะยิงทันที ซึ่งดูมีความเป็น บาร์ซ่า กว่าสมัย คูมัน เยอะ แต่กระนั้นพวกเขายังต้องปรับปรุงเรื่องการจบสกอร์จริงๆ ต่อให้จะเล่นดี หรือ ต่อบอลสวยงามแค่ไหน แต่ถ้ายิงประตูไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ !!

3. เกมรับเก็บคลีนชีต

ฤดูกาลนี้ บาร์เซโลน่า เสียประตูเป็นว่าเล่น .. 5 นัดหลัง ก่อนที่ ชาบี จะเข้ามารับงานคุมทีมข้างสนาม พวกเขาต้องเสียถึง 7 ประตู ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะแมตช์ที่นำ เซลต้า บีโก้ 3-0 แต่กลับมาโดนตีเสมอ 3-3 อย่างไรก็ตาม หลังจาก ชาบี เข้ามาประเดิมคุมทีม ถึงแม้สมัยเป็นนักเตะจะเป็นโคตรมิดฟิลด์ แต่กระนั้นเมื่อมาเป็นกุนซือเรื่องของเกมรับ เขาก็สามารถทำให้แข็งแกร่งได้เช่นกัน ดูได้จากนักเตะรายนี้ ก็เลือกเซ็นสัญญา ดานี่ อัลเวส แบ็กขวาตัวเก๋า กลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง เริ่มจากแมตช์เปิดซิง ที่ บาร์ซ่า เอาชนะ เอสปันญ่อล 1-0 ลูกทีม ชาบี สามารถเก็บคลีนชีตได้ทันที ต่อด้วยเสมอกับ เบนฟิก้า 0-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จริงๆดูแล้วอาจเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมันก็ดีจริงๆครับ แต่กระนั้นเกมรับยังมีการบ้านให้ ชาบี ไปปรับปรุง เพราะก็ยังมีข้อผิดพลาด ให้หวาดเสียวอยู่หลายครั้ง อย่างนัด เบนฟิก้า ดีที่นักเตะ เหยี่ยวลิสบอน ยิงแบบโล่งๆไม่เข้าประตู แต่กระนั้นมันก็เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ยังไม่เสียประตู เมื่อ ชาบี เข้ามาคุมทีม เพราะอย่างน้อยแฟนบอลก็น่าจะเบาใจ กว่าสมัย โรนัลด์ คูมัน เยอะเลย

4. ความหวังของ เจ้าบุญทุ่ม

หลังจากที่ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องเก็บข้าวของย้ายออกไป และ ผลงานก็สาละวันเตี้ยลง ไม่มีวี่แววเลยว่า โรนัลด์ คูมัน จะพา บาร์เซโลน่า กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เรียกว่าไม่มีความหวังอยู่เลย เพราะในสายตาแฟนบอล คูมัน เหมือนเป็นหมอกร้าย โดยเฉพาะการไปเขี่ย หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีม ทั้งๆที่นักเตะยังทำอะไรได้อีกเยอะ ไหนจะเรื่องบอร์ดบริหาร ที่เป็นหนี้เป็นสินมากมาย จะเซ็นสัญญาใครมาก็ลำบาก ฉะนั้นการมาของ ชาบี เหมือนเป็นการปลุกความหวังให้กับแฟนบอล ได้กลับมาศรัทธาสโมสรมากกว่าเดิม เพราะนอกจาก ชาบี จะเป็นไอค่อนของ บาร์ซ่า เขายังนำ DNA ความเป็น บาร์ซ่า กลับมาอีกครั้ง เรื่องแชมป์คงเร็วไปที่จะพูดถึง เพราะ บาร์ซ่า ซีซั่นนี้ ก็ย่ำแย่เหลือเกิน อย่างในศึก ลา ลีกา สเปน ก็ร่วงมาอยู่อันดับ 7 มีแต้มตามหลัง เรอัล มาดริด จ่าฝูง อยู่ถึง 10 คะแนน รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็สุ่มเสี่ยงตกไปเล่น ยูโรปา ลีก โดยนัดสุดท้ายต้องบุกไปเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ให้ได้เท่านั้น ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก ต่อให้ เสือใต้ จะเข้ารอบไปแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยการกลับมาของ ชาบี คงทำให้แฟนบอลมีความหวังเพิ่มมากขึ้น ที่จะปลุก บาร์ซ่า ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่ง 2 นัดที่ผ่านมา หลายคนก็ชื่นชมว่าเป็น บาร์ซ่า ที่เล่นบอลสนุกมากขึ้น นึกถึงเมื่อครั้งเหล่าตำนานที่เคยเป็นนักเตะ และ พอเติบโตขึ้นเป็นกุนซือ ก็พาทีมครองแชมป์เป็นว่าเล่น อาทิ โยฮัน ครัฟฟ์, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ หลุยส์ เอ็นริเก้ มารอดูกันว่า ชาบี จะสามารถพา บาร์เซโลน่า กลับเข้าสู่ฝั่งได้เร็วมากน้อยแค่ไหน การคุมทีมเพียง 2 นัด อาจยังตัดสินอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยมันก็ได้เห็นถึงสิ่งดีๆที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ฮาย ฮาวดี้-

logoline