logo-heading

การได้โอกาสสัมผัสกับรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง บัลลงดอร์ หรือ "ลูกบอลทองทำ" นับเป็นความใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคน แน่นอนว่าในพิธีประจำปี 2021 นี้จะมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้สมหวังและท้ายที่สุดแล้วมันก็ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่

Robert Lewandowski wins Striker of the Year at Ballon d'Or 2021 - Solwezi  Today Magazine ในเหล่าบรรดาผู้ที่ต้องพบเจอกับความผิดหวังถ้าจะถามว่าใครคือคนที่ชอกช้ำและปวดใจที่สุดก็คงต้องยกให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงทีมชาติโปแลนด์จากสังกัด บาเยิร์น มิวนิค เหตุผลหลักๆ มันก็มาจากการสร้างโปรไฟล์เอาไว้อย่างยอดเยี่ยมไว้เมื่อฤดูกาล 2019-20 ที่ระเบิดสกอร์ไปแบบกระกระจุยกระจายที่ 55 ประตู นับเป็นสถิติที่เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แบบขาดลอยในชนิดที่ทิ้งไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว ในเรื่องของความสำเร็จ เลวานดอฟสกี้ ก็ยังเป็นกุญแจส่วนสำคัญที่ช่วยให้ "เสือใต้" ได้เถลิงบัลลังก์ ทริปเปิ้ล แชมป์ อย่างยิ่งใหญ่ ทั้ง บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไหนจะมีแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ สโมสรโลก ติดไม้ติดมือมาอีกต่างหากในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แน่นอนว่าถ้าเอาเรื่องของผลงานส่วนตัวในปีนั้นมาบวกกับเรื่องของความสำเร็จแน่นอนว่าไม่มีใครที่เหมาะสมกับรางวัล บัลลงดอร์ มากกว่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นในในฤดูกาลที่ดีที่สุดในเส้นทางอาชีพค้าแข้งของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั่นก็คือการประกาศยกเลิกพิธีมอบรางวัล บัลลงดอร์ ประจำปี 2020 โดยทาง "ฟร้องซ์ ฟุตบอล" ได้ให้เหตุผลกับการตัดสินใจในครั้งนี้ หลักๆ ก็มาจากผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ส่งผลต่อผู้คนทั้งโลก นับตั้งแต่รางวัล บัลลงดอร์ ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1956 ไม่ว่าโลกของลูกหนังจะเจอปัญหาที่หนักหนาสาหัสขนาดไหนพิธีดังกล่าวก็ไม่เคยถูกสั่งยกเลิกไป และครั้งนี้คือครั้งแรก มันก็เลยมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นมากมายจากการตัดสินใจของ "ฟร้องซ์ ฟุตบอล" ว่ามันยุติธรรมไหม ? มันแฟร์แล้วรึเปล่า ? มันเป็นเรื่องที่มองได้หลากหลายมุม บางคนก็มองว่า มันไม่แฟร์สำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพราะในเมื่อผลงานมันเด่นชัดเกินชาวบ้านขนาดนี้มันก็สมควรรึเปล่าที่รางวัลนี้ต้องตกเป็นของเขา ? ส่วนบางคนก็มองว่าการตัดสินใจยกเลิกพิธีดังกล่าวไปก็เพื่อให้เกิดความยุติธรรมสำหรับฟุตบอลในหลายๆ ประเทศ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าก็มีหลายๆ ลีก ที่แข่งกันไม่จบก็เลยทำให้นักเตะหลายๆ คนไม่ได้โอกาสสร้างผลงานของตัวเองได้มากพอ "รางวัล บัลลงดอร์ มันมีความหมายมากสำหรับผม มันทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจสุดๆ ถ้าคุณพิจารณาถึงทุกสิ่งที่ผมทำได้ทั้งปีนี้และปีก่อนซึ่งเป็นปีที่พิธีมอบรางวัลถูกยกเลิกไป คุณคงเห็นแล้วว่าผมคว้าแชมป์ได้มากมาย ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าผมได้รางวัลนี้มันก็จะเป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ" "ผมได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ซูเปอร์ คัพ, สโมสรโลก และยังทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่กดไปถึง 41 ประตูกับการเล่นใน บุนเดสลีกา ได้ด้วย มันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆ ซึ่งมันก็ทำให้ผมทั้งภาคภูมิใจและมีความสุขสุดๆ" "ทุกคนรู้ดีว่าที่ผ่านมาผมทำอะไรไปบ้าง และก็รู้ว่าผมยังสามารถทำอะไรได้อีก ความสำเร็จที่ผมทำได้มันสามารถตอบคำถามนี้ได้ดีเลยแหละ เพราะตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ผมทำมันไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของผมเท่านั้น แต่เป็นความสำเร็จที่สุดยอดสำหรับนักฟุตบอลทุกคนในประวัติศาสตร์ด้วย" ในฤดูกาล 2020-21 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงรักษามาตรฐานเรื่องฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี แรงดี ไม่มีตก พี่ยังยิงประตูได้มากมายถล่มทลาย โดย 41 ประตูบนเวที บุนเดสลีกา ที่ทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดต่อ 1 ซีซั่นของ แกร์ด มุลเลอร์ มันก็ยังทำให้เขาเป็นผู้ครองรางวัล ยูโรเปี้ยน โกลเก้น ชู หรือ ดาวซัลโวของทวีปยุโรปอีกต่างหาก ผลงานของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ด้วยฟอร์มส่วนตัวที่สุดปังรวมไปถึงแชมป์ บุนเดสลีกา กับ บาเยิร์น มิวนิค ชื่อของเขายังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปีนี้ไปครอง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาและทำให้ผู้ชายคนนี้ไปไม่ไปถึงฝั่งฝันของการครอบครองรางวัล "ลูกบอลทองคำ" ก็คือ ทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ เมื่อเรื่องของความสำเร็จระดับชาติถูกนำมาเป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินสำหรับผู้ชนะ บัลลงดอร์ เมื่อเทียบกับตัวเต็งคนอื่นๆ แล้ว เลวานดอฟสกี้ คือคนที่เป็นรองกว่าใครเพื่อน ยิ่ง ลิโอเนล เมสซี่ ที่มีโปร์ไฟล์ส่วนตัวที่ดีๆ พอๆ กัน ถึงแม้จะมีแค่แชมป์ โกปา เดล เรย์ กับ บาร์เซโลน่า แต่การพา ทีมชาติอาร์เจนติน่า ทะยานชูถ้วย โคปา อเมริกา อย่างยิ่งใหญ่ก็ทำให้พี่แกกลายเป็นผู้เล่นที่มีโอกาสมากกว่า เลวานดอฟสกี้ ในทันทีทันใด โปแลนด์ อาจได้ชื่อว่าเป็นชาติที่แกร่ง มีนักเตะชื่อดังอยู่มากมาย แต่ถ้าวัดกันในเรื่องของชื่อชั้นและศักยภาพทีมก็ยังสู้กับพวกชาติระดับหัวแถวอย่างพวก อังกฤษ, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส และ อีกมากมายไม่ได้ ถึง เลวานดอฟสกี้ จะได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหน้าเบอร์ 9 ที่เก่งที่สุดในโลก หรือเป็นนักเตะที่เวิลด์คลาสขนาดไหนก็ตามเขาไม่สามารถแบกทีมไปไกลจนถึงฝั่งฝันได้ นี่คือข้อผิดพลาดเพียงจุดเดียวในปีนี้ที่มีทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์  อดีตอาจทำให้เจ็บปวด แต่คุณสามารถเลือกได้ว่าวิ่งหนี หรือ เรียนรู้จากมัน ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน จงเชิดหน้าขึ้นและก้าวต่อไป ความผิดหวังจะเป็นแรงผลักดันชั้นดี ถึงปีนี้จะพลาดไป แต่ปีหน้าก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะถ้าเอาผู้เล่นที่เป็นตัวเต็งทั้งหมดใน บัลลงดอร์ ปีนี้มาเทียบฟอร์มกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ขอบอกเลยว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงเป็นนักเตะที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ผลงานกำลังร้อนแรงกับการซัดไป 25 ประตูจากการลงเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ขอบอกเลยว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้และไม่มีอะไรที่อยู่ไกลเกินฝันสำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ รางวัล สไตรเกอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ คือเครื่องยืนยันการันตีว่าในปีหน้าเขาจะกลับมายืนบนเวทีแห่งนี้อย่างแน่นอน หลายๆ คนเองก็อยากเห็นพี่แกได้รางวัล บัลลงดอร์ สักครั้งในชีวิตเหมือนกัน เพราะนั่นคือสิ่งที่คู่ควรกับทุกๆ สิ่งที่เขาสร้างมา สู้ต่อไป โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

HaMu Dos Santos

logoline