logo-heading

พิธีมอบรางวัลลูกบอลทองคำอันทรงเกียรติ บัลลงดอร์ ประจำปี 2021 ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่้เรียบร้อย มีหลายๆ สิ่งถูกพูดถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งผู้ชนะที่ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งหลายๆ ฝ่ายมองว่าเขาไม่คู่ควรจนเรื่องเป็นเรื่องราวดราม่าใหญ่โต

Ballon d'Or 2021: Where has Cristiano Ronaldo finished in the voting? |  Goal.com อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดเป็นประเด็นดราม่าเหมือนกันก็คือเรื่องราวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาได้รับคะแนนโหวตสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ที่ 178 คะแนนในชาร์ตของผู้ลุ้นรางวัล บัลลงดอร์ แต่กลับไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในงาน กาล่า ที่โรงละครชัลเลต์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ย้อนเวลากลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปาสกาล เฟร์เร บรรณาธิการนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อดังอย่าง New York Times ซึ่งมีการพาดพิงไปถึง เจ้าของโค้ดเนม CR7 ด้วยว่า "โรนัลโด้ มีความปรารถนาเดียวก็คือการยุติเส้นทางค้าแข้งด้วยการได้รางวัล บัลลงดอร์ มากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ผมรู้เรื่องนี้ดีเพราะเขาเป็นคนบอกผมเอง" แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ คือ 2 ยอดดาวเตะที่ดีที่สุดแห่งยุค ระดับของพวกเขาอยู่เหนือกว่านักเตะทุกคนเมื่อวัดกัดด้วยเรื่องการยืนระยะและรักษาฟอร์มการเล่นตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตลอดจนเรื่องของความสำเร็จและสถิติต่างๆ ที่ถูกจารึกไว้ และในประวัติศาสตร์ของ บัลลงดอร์ พวกเขาก็คือ 2 นักเตะที่ได้รับรางวัลนี้มากที่สุด ทั้ง โรนัลโด้ และ เมสซี่ เป็นเหมือนกับภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง "เอเลี่ยน ปะทะ พรีเดเตอร์" ถ้าจะถามว่าใครเก่งกว่ากัน ? มันก็ไม่มีบทสรุปที่แน่ชัดราวกับเป็นปัญหาโลกแตกที่ว่า "ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน" การได้สัมผัสกับรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่าง บัลลงดอร์ นับเป็นความใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรถ้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะรู้สึกผิดหวังที่ต้องอกหักจากการคว้า ลูกบอลทองคำ สมัยที่ 6 ในปีนี้ อย่างไรก็ตามถ้าดูจากสิ่งที่ออกมาจากปากของ ปาสกาล เฟร์เร อยากรู้ว่า โรนัลโด้ เขาต้องการเอาชนะ ลิโอเนล เมสซี่ ขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ ? และที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานมันเป็นเพราะรู้ตัวว่าไม่ได้ก็เลยไม่มางั้นเหรอ ? ล่าสุดเหมือน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะฉุนจัดกับคำพูดของ บก.นิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล เพราะว่านั่นคือเรื่องโกหกทั้งเพ และก็ไม่รอช้าที่จะจัดหนักสวนกลับในทันทีโดยโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชี่ยลว่า  “ปาสกาล เฟร์เร พูดเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าผมได้บอกกับเขาว่า ความทะเยอทะยานเดียวของผมคือการยุติเส้นทางอาชีพค้าแข้งด้วยการคว้ารางวัล ลูกบอลทองคำ มากกว่า เมสซี่” “ปาสกาล เฟร์เร โกหก เขาใช้ชื่อผมเพื่อโปรโมทตัวเอง และโปรโมทนิตยสารของเขา มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่คนรับผิดชอบรางวัลที่มีค่าขนาดนี้ดันมาพูดจาโกหกแบบนี้ มันเป็นการไม่ให้ความเคารพกับคนที่ให้ความเคารพต่อ ฟร้องซ์ ฟุตบอล และ บัลลงดอร์ แถมเขาก็ยังโกหกเรื่องที่ผมไม่ได้ไปงาน กาล่า ว่าเป็นเพราะต้องกักตัวด้วย มันไม่มีเหตุผลแบบนั้นเลย” “ผมแสดงความยินดีกับผู้ชนะเสมอ ด้วยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาและความยุติธรรม มันเป็นสิ่งที่นำทางชีวิตค้าแข้งของผมมาตั้งแต่แรกเริ่ม และผมก็จะไม่ทำแบบนั้นเพราะผมไม่ได้จะไปสู้กับใคร ผมคว้ารางวัลก็เพื่อตัวผมเอง เพื่อสโมสรที่ผมอยู่ ผมคว้ามันมาเพื่อตัวเอง และคนที่รักผม ผมไม่ได้คว้ารางวัลสู้กับใคร “ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการคว้าแชมป์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติกับทีมที่ผมอยู่ และกับประเทศของผม ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งก็คือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนที่เป็นหรืออยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ฟุตบอล” “ผมขอปิดท้ายด้วยการบอกว่า สิ่งที่ผมโฟกัสอยู่ตอนนี้คือเกมนัดถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกับทุกๆสิ่ง กับเพื่อนร่วมทีมของผมและแฟนบอลของเรา เรายังประสบความสำเร็จได้ในฤดูกาลนี้ ส่วนที่เหลือน่ะเหรอ? ที่เหลือมันก็แค่ที่เหลือ” ที่ผ่านมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาไม่น้อยในเรื่องความไม่เป็นมืออาชีพ เพราะพี่แกมักจะไม่ปรากฏตัวในงานประกาศรางวัลที่เจ้าตัวนั้นไม่ใช่ผู้ชนะ แต่ในทุกๆ ครั้งเจ้าตัวก็จะออกมาชี้แจงตลอดว่าทำไม และเพราะอะไร ? ยกตัวอย่าง 3 ปีก่อนที่ ลูก้า โมดริช เป็นผู้คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ FIFA โรนัลโด้ ก็ได้แจ้งไว้แล้วว่าจะไม่มาร่วมงาน เพราะต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมสำหรับเกมนัดถัดไปที่ ยูเวนตุส จะเจอกับ โบโลญญ่า ในอีก 1-2 วัน และก็ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ไม่มา เพราะในงานวันนั้นก็ไม่มีผู้เล่นของ ยูเวนตุส เดินทางมางานเลยแม้แต่คนเดียว Cristiano Ronaldo Has Asked Lionel Messi to Have Dinner Together นี่อาจเป็นเครื่องที่ยืนยันได้ถึงความเป็นมืออาชีพของ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ถึงแม้จะไม่ชัดเจนแบบร้อยเปอร์เซนต์ก็ตาม แต่มันก็สอดคล้องกับการที่พี่แกไม่ได้เดินทางมา ฝรั่งเศส ในปีนี้ เพราะอีก 2 วัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกใหญ่กับ อาร์เซน่อล "ผมไม่กังวลกับมันอีกแล้ว ผมอายุ 32 ใกล้จะ 33 แล้ว โลกของผมไม่ใช่แค่ฟุตบอลเพียงอย่างเดียว มันยังมีสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมาก สำหรับบัลลงดอร์ผมรู้ว่าทุกคนยังคงโหวตกันอยู่ ผมมั่นใจกับชัยชนะ ผมไม่กังวลเลย ถ้าคุณถามผมว่าผมอยากคว้ามันหรือเปล่า ผมจะบอกคุณว่าใช่แน่นอน ผมรู้ว่าบัลลงดอร์สมัยที่ 5 จะมีความหมายสำหรับคนรุ่นหลัง" "ผมอยากมีลูกๆ 7 คนเท่ากับจำนวนบัลลงดอร์ ตราบใดที่ผมยังเล่นอยู่ ผมจะมุ่งมั่นคว้ามันให้ได้ ดังนั้น ความฝันของผมคือ บัลลงดอร์ สมัยที่ 5 และ บัลลงดอร์ ในปีหน้า และปีถัดไปอีกสักครั้งหนึ่ง" นี่คือสิ่งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยเปิดใจเอาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน จริงอยู่ที่พี่แกตั้งเป้าคว้า บัลลงดอร์ ให้ได้สัก 7 สมัย และอยากมีลูกในจำนวนที่เท่าๆ กัน แต่เขาไม่เคยพูดว่าต้องการเอาชนะและอยู่เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ แต่อย่างใด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้คำชมและความเคารพในตัว ลิโอเนล เมสซี่ อยู่ตลอดทั้งในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ และเป็นคู่แข่งที่ทำให้เขาได้สัมผัสและรู้ซึ้งถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นถ้าจะพูดถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมดคนที่เป็นฝ่ายก็คือบุคลากรจาก ฟร้องซ์ ฟุตบอล ที่ไม่ให้ความเคารพกับนักเตะที่พาดพิงในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง

HaMu Dos Santos

logoline