logo-heading

เป็นเกมสุดมันส์แบบ 5 ดาวเลยล่ะครับ สำหรับแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเฉือนเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 เพราะเกมแทบไม่หยุดหายใจ โดย หงส์แดง เป็นฝ่ายบุก ส่วน หมาป่า รอสวนกลับแบบสายฟ้าแล่บ ซึ่งเกมทำท่าว่าจะจบด้วยเสมอ และ เป็นความผิดหวังของเหล่าสาวก เดอะ ค็อป

แต่แล้วมหาเทพ ดิว็อค โอริกี้ ก็องค์ประทับ ลงมาเป็นซูเปอร์ซัพ ยิงประตูชัยนาทีสุดท้ายให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 3 แต้ม ไปแบบเฮกันสนั่นลั่นทุ่ง เกมนี้มีประเด็นมากมายให้พูดถึงกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันครับ

- ลิเวอร์พูล ทำอันดับแซงหน้า เชลซี

ในวันที่ เชลซี พลาดท่าบุกไปพ่ายให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำให้โอกาสตกมาเป็นของ ลิเวอร์พูล ที่จะทำแต้มแซงหน้าขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว ถ้าหากเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้สำเร็จ เพราะพวกเขาได้ลงแข่งก่อน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น และ รูปเกมคงทำให้ สาวก เดอะ ค็อป ก็อึดอัดไม่แพ้นักเตะ ลิเวอร์พูล เพราะต่อให้จะพับสนามบุกใส่ หมาป่า อยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็เจาะไม่เข้าเลย มีโอกาสยิง ก็ไปติดบล็อค ติดเซฟผู้รักษาประตูเสียหมด อีกทั้ง วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็สวนกลับได้น่ากลัวเหลือเกิน มีหลายช็อตที่ทำเอาแฟนบอล หงส์แดง หวาดเสียวไปทั้งหัวใจอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นสุดท้ายแล้ว ดิว็อค โอริกี้ ก็มาทำประตูชัยนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาทีมเก็บ 3 แต้ม ไปแบบกระโดดดีใจกันลั่นบ้าน ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำแต้มแซงหน้า เชลซี 1 คะแนน ทันที เพิ่มเป็น 34 คะแนน ขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว ทว่าสุดท้ายก็หนาวได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง เพราะ แมนฯ ซิตี้ ไล่ยำใส่ วัตฟอร์ด แซงหน้าไปเป็นอันดับ 1 เรียบร้อย

- อดาม่า ตราโอเร่ ตัวป่วนแนวรับ หงส์แดง

เกมนี้ใครไม่ได้ดูถ่ายทอดสด ก็ถือว่าแอบพลาดเบาๆเลยล่ะครับ เพราะเป็นเกมที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และ มีความอึดอัดให้เห็นกันตลอด 90 นาที เนื่องจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ไม่ยอมเป็น ลูกไก่ในกำมือ ให้ทาง หงส์แดง เล่นงานอยู่เพียงฝ่ายเดียว โดยพวกเขาได้ครองบอลเมื่อไหร่ ก็สวนกลับเมื่อนั้น ไม่มีดึงจังหวะใดๆทั้งสิ้น และ คนที่ปั่นป่วน สร้างความปวดหัวให้กับนักเตะ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุด คงจะเป็น อดาม่า ตราโอเร่ ปีกเบบี้ออยของ วูล์ฟแฮมป์ตัน เพราะไม่ว่านักเตะจะดึง จะฉุดรั้งจนแทบควักไส้ติ้งออกมาขนาดไหน ก็เอาไม่อยู่ ต้องเตะให้ล้มเท่านั้น ขนาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยังเสียท่าให้กับ ตราโอเร่ เช่นกัน แต่ด้วยความที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ไม่ปล่อยให้ ตราโอเร่ ได้ลากเลื้อยเข้าไปในกรอบเขตโทษ หรือ จุดอันตรายที่จะครอสให้เพื่อนทำประตูมากนัก จึงไม่ได้สร้างงานยากๆให้กับ อลิสซอน แบบที่มันควรจะเป็น เรียกว่า ตราโอเร่ สัมผัสบอลเมื่อไหร่ จะมีผู้เล่น หงส์แดง วิ่งมารุมกินโต๊ะอยู่ตลอด อารมณ์ประมาณว่าถ้าผ่านด่านแรกมาได้ จะมีด่านสองคอยซ้อนอยู่ตลอด

- โชต้า พลาดแบบเหลือเชื่อ

คำว่า "เหลือเชื่อ" ไม่รู้จะเพียงพอระบายความรู้สึกกับความผิดพลาดของ ดิโอโก้ โชต้า ได้หรือไม่ เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ควรจะนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปตั้งนานแล้ว แต่กระนั้นแนวรุกทีมชาติโปรตุเกส กลับซัดแบบประตูโล่งๆ ไปติดบล็อคคู่แข่งซะอย่างนั้น เหตุการณ์มันเกิดขึ้นนาที 60 ของเกม เมื่อ โรแม็ง ซาอิสส์ เสียหลักจากการถูกดัน วิ่งไปชนกับ โชเซ่ ซา ผู้รักษาประตู วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ออกมาเล่นนอกกรอบ จนบอลไปเข้าทาง ดิโอโก้ โชต้า ได้ลากเข้ามาในกรอบเขตโทษ เลี้ยงมาจนถึงกลางประตูตรงกรอบเขตโทษ 6 หลา ตรงนั้นไม่มี โชเซ่ ซา คอยป้องกันอีกแล้ว มีเพียงผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน ถอยมารอสกัดบนเส้น 2 คน โดย โชต้า มีเวลาคิด มีเวลาทำ จะเลือกยิงมุมไหนก็ได้ เพราะมันเปิดกว้างมากๆ ใครเห็นก็คิดว่าเข้า แต่ก็ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน เพราะ โชต้า เลือกยิงอัดตรงกลาง ไปติดตัว คอร์เนอร์ โคดี้ แบบเหลือเชื่อ พลาดโอกาสทองที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

- รูปหน้าหน้าสนาม ต้องมี โอริกี้

คำว่าขอบคุณ มันคงน้อยไปสำหรับสาวก เดอะ ค็อป ที่จะมอบให้กับ ดิว็อค โอริกี้ เพราะนี่คือหนึ่งในหลายๆครั้ง ที่เขาลงมาเป็นซูเปอร์ซัพ และ พา ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้อีกครั้ง เขาทำให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้ต้องนั่งเป็นสำรองก็ตาม ประตูชัยในนาที 90+4 ของ โอริกี้ คงสร้างแรงสั่นสะเทือนบนภาคพื้นดินมากกว่า 10 ริคเตอร์ หากวัดจากเสียงไชโยโห่ร้อง และ การกระโดดโลดเต้นอันบ้าคลั่งจาก เดอะ ค็อป ทั่วโลกมารวมกัน บ้างก็ดีใจกันลั่นบ้าน บ้างก็สติสตางค์ไม่อยู่กับตัว เพราะความหวัง 3 แต้มอันเลือนลาง มหาเทพ โอริกี้ กลับทำให้มันเกิดขึ้นจริง เรียกว่าแฟนบอลหัวใจแทบหยุดเต้น หลังจบเกม บนโลกโซเชี่ยล แฟนบอล เครื่องจักรสีแดง ต่างพร้อมใจกันถล่มเมนท์ว่า อนาคตต้องมีรูปปั้น โอริกี้ อยู่หน้าสนาม แอนฟิลด์ ฟังดูเหมือนจะเป็นการแซวเอาขำๆ แต่ เทพกี้ สร้างช็อตปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ทั้งการยิงปิดกล่องพาทีมเป็นแชมป์ยุโรป และนัดเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน เขาก็สร้างความมหัศจรรย์ให้เห็นอีกครั้ง นักเตะ ลิเวอร์พูล พร้อมใจกันลงรูปสรรเสริญหัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยมรายนี้ โดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล บอกว่า นี่คือ โอริกี้ ไทม์ ของแท้ ส่วน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทิ้งประโยคยกย่องไว้ว่า วันหนึ่งเขาจะพาหลานๆไปเที่ยวชมรูปปั้นของ โอริกี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องชมในความไว้เนื้อเชื่อใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่รีบตัดสินใจเปลี่ยนเกม ส่ง โอริกี้ ลงไปแทน เฮนโด้ ซึ่งคำพูดปลุกใจของ บอส ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อเขากระตุ้นลูกทีมคนนี้ "ลงไปในสนาม และ โชว์ความเป็น โอริกี้ ให้เค้าดู"

- สปิริตทีม ลิเวอร์พูล

ยอมรับตามตรงว่าแอบเป็นห่วง ลิเวอร์พูล เหมือนกันว่า จะสามารถต่อกรลุ้นแชมป์กับพวก เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือไม่ เนื่องจากพวกเขาแทบไม่ได้เสริมผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเลย มีเพียง อิบราฮิม่า โกนาเต้ เท่านั้น ซึ่งก็เป็นแนวรับ และ ตอนนี้ก็มีสถานะนั่งเป็นตัวสำรองมากกว่า แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำให้เห็นว่าศักยภาพของนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่มีอยู่มันดีมากๆอยู่แล้ว เพราะถ้าตัวหลักอยู่กันครบๆ ก็ยังเป็นทีมที่อันตรายอยู่เสมอ ส่วนตัวสำรอง อาจจะดูทดแทนกันไม่ได้บ้าง ทว่ามันก็ไม่ได้ช่องโหว่ให้เห็นมากขนาดนั้น และ ไม่มีใครออกมาบ่นน้อยใจโชคชะตา โทษฟ้าโทษฝน ว่าทำไมไม่ได้ลงสนาม มีแต่ตั้งหน้าตั้งหน้าฝึกซ้อม เพื่อรอโอกาส ซึ่งในช็อตที่ โอริกี้ ยิงประตูชัย มีกล้องแพนจับมาบริเวณข้างสนาม ตรงซุ้มม้านั่งสำรองของนักเตะ ลิเวอร์พูล จะเห็นเลยว่าบรรดาสตาฟฟ์ และ เหล่านักเตะ แสดงรีแอคชั่นกันแบบบ้าคลั่ง อารมณ์มาเต็มแบบปรอทแตก เก็บอาการกันไม่อยู่ มันแสดงให้เห็นถึงสปิริตทีมที่มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะเท่านั้น ไม่ได้เน้นใครเป็นบุคคล หลายๆครั้งก็มีสปิริตในทีมอันยอดเยี่ยม มันก็นำพาองค์กรให้ทำงานได้แบบไหลลื่น ไม่ต้องชิงดีชิงเด่นกัน นับเป็นกุญแจสำคัญเดินหน้าสู่ความสำเร็จ

ฮาย ฮาวดี้-

logoline