logo-heading

ฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2018” ดวลแข้งกันมาถึงโค้งสุดท้ายของเลกแรกแล้ว ถึงตอนนี้เหลือเพียง 4 เกมจะจบครึ่งทางของการชิงชัย

ใครหลายคนอาจถามว่า “ทำไมคนดูน้อยลง?” ตรงนี้ต้องบอกว่ามันมีปัญหาหลายปัจจัย ฟุตบอลไทยอาจจะ “ขาลง” จริง แต่เท่าที่ติดตามมาตลอดยืนยันว่าความสนุกไม่ได้ลดลง สถานการณ์ลุ้นทั้งบนหัวตารางคะแนนและโซนตกชั้นเริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นด้วย ช่วงว่างของทีมนำ “จ่าฝูง” และผู้ตามถูกบีบลงมาเหลือแค่ 2 คะแนนแล้ว ส่วนการตกชั้นถึง 5 ทีมทำให้หลายๆทีมไว้วางใจไม่ได้ แต้มของทีมโซนตกชั้น-โซนปลอดภัยห่างกันไม่เยอะ เรียกว่าตั้งแต่อันดับเลขตัวเดียวยังมีเสียวเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เลยมีคำถามที่ได้ยินบ่อยๆว่าแต่ละทีมเตรียมจะเสริมทัพกันอย่างไรในเลกสอง ? เท่าที่เช็คสายเอเยนต์และคุยกับผู้บริหารทีมสโมสรได้ความว่าเริ่มมีการขยับกันแล้วครับ อธิบายให้เข้าใจก่อนว่าตามระเบียบการแข่งขันจะสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้แค่ 5 คนเท่านั้น โดย 5 คนนี้จะต้องเป็นนักเตะไทย 3 ต่างชาติ 2 หรือเปลี่ยนไทยหมดทั้ง 5 คนเลยก็ได้ ตรงนี้หมายถึงการถอดชื่อเก่าออกแล้วใส่ชื่อใหม่เข้าไปแทนนะครับ ทำได้แค่ 5 คน แต่ถ้าทีมไหนยังขึ้นทะเบียนผู้เล่นไม่เต็ม 35 คนก็สามารถใส่ชื่อใหม่เพิ่มเข้าไปจนเต็มได้ ส่วนสโมสรที่มี “ทีมบี” สามารถส่งชื่อนักเตะขึ้นทะเบียนได้รวมทั้งหมด 55 คน เพราะต้องส่งทีมบีลงเตะใน “ไทยลีก 4” ด้วย ไทยลีกจะเตะจบเลกแรกวันที่ 26 พ.ค. หลังจากนั้น “ตลาดนักเตะลีกไทย” จะเปิดให้ซื้อ-ขายโยกย้ายทีมกันได้ระหว่างวันที่ 1-29 มิ.ย.นี้ แฟนๆแต่ละทีมต้องตามลุ้นกันละครับว่าทีมรักของตัวเองจะได้ใครมาเสริมทัพบ้าง ที่แว่วๆมาน่าจะคึกคักทั้งนักเตะไทยและต่างประเทศ แว่วว่าอาจมี “ซูเปอร์สตาร์นักเตะไทย” ย้ายทีม เพราะต้นสังกัดขาดสภาพคล่อง เงินไม่หนาดังเดิม ตรงนี้ต้องค่อยลุ้นกันว่าจะเป็นจริงตามข่าวลือที่ดังหนาหูขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า ส่วนนักเตะต่างชาติมีการติดต่อเอเยนต์ให้หาตัวเสริมแล้ว บางทีมปิดตัวรอเลย อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่ได้ ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ กลับมายืนล่าตาข่ายอีกครั้ง กรณีของ ปาตินโญ่ นี่คือ “โควต้าอาเซียน” เพราะเป็นนักเตะฟิลิปปินส์-สเปน เคยเล่นให้ทีมชาติ “ตากาล็อก” มาแล้วด้วย สำหรับโควต้าอาเซียนนี่ตอนแรกคิดว่าไม่ค่อยสำคัญ เพราะยังไงลงสนามได้แค่ 3+1 อยู่ดี แต่ดูไปดูมาจากเลกแรกทีมไหนได้ของดีไปถือว่าได้เปรียบเหมือนกันนะ ได้เปรียบตรงที่ทีมไหนมีโควต้าอาเซียนจะขึ้นทะเบียนต่างชาติได้ถึง 5 คนคือ 3+1+1 ได้สิทธิ์ +1 อาเซียนเพิ่มมาอีก 1 รายทำให้มีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นเป็น 5 คน ส่วนทีมที่ไม่มีโควค้าอาเซียนจะสามารถขึ้นทะเบียนนักเตะต่างชาติได้แค่ 4 รายเท่านั้น คือ 3 ต่างชาติ + 1 เอเชีย ตัวเลือกจึงมีน้อยลงแค่ 4 คนเท่านั้น แต่จะว่าไปแล้วคงไม่ได้อยู่ที่ปริมาณละครับ น่าจะเน้นที่ไปคุณภาพมากกว่า จากเลกแรกทั้ง 18 ทีมมีการใช้ผู้เล่นโควต้าอาเซียนรวมทั้งหมด 12 คน ถามว่าทั้ง 12 คนสอบผ่านกี่คน ตอบได้แบบไม่เกรงใจเลยว่าครึ่งต่อครึ่ง ที่สอบผ่านแบบสบายๆคือ อ่อง ธู ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเมียนมาร์ที่ถูก โปลิศ เทโร ดึงมาร่วมทีมแบบประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม ฟอร์มของ อ่อง ธู ระเบิดเถิดเทิงจริงๆ ลีลากระชากลากเลื้อยป่วนแนวรับได้ทุกเกม แถมยิงไปแล้ว 7 ประตู ขณะที่นอกสนามดึงแฟนบอลชาว “หม่อง” มาติดตามเพียบ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด นายประตูฟิลิปปินส์-เดนมาร์กของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด น่าจะเป็นอีกรายที่สอบผ่านสบายๆ แม้จะเริ่มต้นไม่ค่อยดีแต่ตอนนี้เริ่มหนึบ จากปัญหาของ “แข้งเทพ” ที่เสียประตูเยอะมากๆ ทว่าฤดูกาลนี้เริ่มดีขึ้น “คลีนชีต” ไปแล้ว 4 เกมจากการยื่นเฝ้าเสาของ “ฟาลเคสการ์ด” ทั้ง อ่อง ธู และ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด กลายเป็นตัวหลักของทีมที่ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่โควต้าอาเซียนรายอื่นๆถือว่าต่างกรรมต่างวาระกันไป ซูลฟาห์มี อารีฟิน นักเตะทีมชาติสิงคโปร์ที่เล่นได้สารพัดตำแหน่งทำผลงานเสมอตัวกับ ชลบุรี แบบลงตัวจริงบ้างสำรองบ้าง ดีบ้างพลาดบ้าง แต่ค่าตัวไม่แพงเวอร์ก็ถือว่ายังโอเค รายของ มิชาล เหงียน แข้งเวียดนาม-เช็คนี่ลงต่อเนื่องให้กับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ผลงานส่วนตัวถือว่าใช้ได้ตามสภาพและราคาค่าตัว แต่ผลงานทีมดันอยู่บ๊วย มาร์ค ฮาร์ทมันน์ กองหน้าทีมชาติฟิลิปปินส์ที่เกิดในอังกฤษก็ถือว่าผลงานส่วนตัวใช้ได้ ยิงไปแล้ว 5 ประตูและกลายเป็นตัวหลักของทีม แต่ อุบล ยูเอ็มที อยู่ตำแหน่งรองบ๊วย กาเบียล ควอก นักเตะดีกรีทีมชาติสิงคโปร์ยิงให้ ราชนาวี ได้ 1 ประตู แต่ไม่ได้เป็นตัวหลักและไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ คยอ โค โค ถูกจับตามองมากเหมือนกันเมื่อข้ามฝั่งจาก เมียนมาร์ มาเล่นกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่ยังไม่ทันได้โชว์ผลงนอะไรมากมายก็เจ็บหนักจนปิดเทอมยาวไปแล้ว ส่วนคนอื่นๆแทบไม่มีผลงานเลย ฮอง วู แซมซั่น นักเตะเวียดนาม-ไนจีเรียของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ กีโก อินซ่า กองหลังสเปน-มาเลเชียของ บางกอกกล๊าสนี่แยกทางกันตั้งแต่ไก่โห่ ฮิคารุ มิเนกิชิ นักเตะฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นของพัทยา ยูไนเต็ด และ เทเรนส์ ปูหิริ ปีกความเร็วสูงจากอินโดนีเซียของการท่าเรือมีโอกาสลงสนามน้อยทั้งคู่ ที่หายไปอีกคนแบบไม่เห็นข่าวคราวเลยคือ ลิน คยอ ชิต นักเตะเมียนมาร์ของ พีที ประจวบ ที่เป็นข่าวตอนเปิดตัวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเงียบหาย นี่คือภาพรวมของนักเตะอาเซียนในเลกแรกที่กำลังจะจบครับ เดี๋ยวคงต้องมาลุ้นกันต่อว่าเลกสองจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เท่าที่ได้ยินมาสเป็คของโควต้าอาเซียนที่ทีมต่างๆต้องการหนีไม่พ้น “ลูกครึ่ง” เหมือนเดิมละครับ พวกอาเซียนแท้ๆน่าจะหายาก อดใจรอกันไม่นานตลาดนักเตะลีกไทยจะเปิดแล้ว รอชมกันครับว่าจะมีอะไรฮือฮาหรือเปล่า

“บับเบิ้ล”

logoline