logo-heading

ชื่อของ วินิซิอุส จูเนียร์ ดาวเตะสปีดเกินร้อยของ เรอัล มาดริด กลายเป็นนักเตะที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากในฤดูกาลนี้ ภายหลังโชว์ฟอร์มได้อย่างเฉิดฉายในเครื่องแบบของ เรอัล มาดริด จนกลายเป็นกำลังสำคัญที่ทีมไม่อาจขาดได้ไปแล้ว

ซึ่งด้วยผลงานกระฉูดแตกทำให้เจ้าตัวถูกองค์กรที่มีชื่อว่า CIES Football Observatory หรือ หน่วยงานวิเคราะห์สถิติชื่อดังของวงการฟุตบอลจัดอันดับว่าเขากลายเป็นนักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ณ เวลานี้ด้วยค่าตัว 166 ล้านยูโร มากกว่าเหล่าแข้งในวัยใกล้เคียงกันทั้ง ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หรือ เมสัน กรีนวู้ด ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปไล่เรียงดูประวัติลูกหนังของเด็กหนุ่มคนนี้กันหน่อยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และกว่าที่ผลงานจะร้อนแรงแบบนี้เขาต้องผ่านบททดสอบอะไรมาบ้าง

จุดเริ่มต้นลูกหนัง

วินิซิอุส จูเนียร์ ลืมตาดูโลกใบนี้ที่เมือง เซา กอนซาโล่ แถบชานเมืองของ ริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ต่างอะไรจากเด็กในบราซิลทั่วไปที่ชื่นชอบการไล่หวดลูกหนังเป็นชีวิตจิตใจ ก่อนที่เมื่ออายุครบ 10 ขวบเจ้าตัวจะถูกดึงเข้าไปสู่อคาเดมี่ของ ฟลาเมงโก้ สโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกบ้านเกิด จากนั้นพออายุได้ 13 ปี ก็ได้โอกาสครั้งสำคัญในการลงเล่นให้กับทีมชุดยู-15  ซึ่งด้วยลีลาที่สุดสะเด่าเหนือกว่าเด็กคนอื่นๆ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสื่อไม่ใช่น้อย จนถึงกระทั่งสื่อท้องถิ่นต้องนำเขาไปพาดหัวข่าว พร้อมเขียนคำโปรยหัวว่านี่คือแข้งคนสำคัญ จากนั้นด้วยฝีเท้าที่เกินอายุไปมาก วินิซิอุส ถูกเรียกไปติดทีมชาติบราซิลชุดยู-15 ก่อนจะเป็นกำลังสำคัญพาทัพ "แซมบ้าน้อย" ผงาดคว้าแชมป์เซาธ์ อเมริกัน ไปครองได้สำเร็จ ส่วนในปีต่อมาก็พาบราซิลชุด ยู-17 ปีสัมผัสกับแชมป์ เซาธ์ อเมริกัน สมัยที่ 12 พร้อมกับเข้าตัวคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ซึ่งด้วยผลงานในระดับเยาวชนไม่มีสิ่งไหนที่ วินิซิอุส ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกต่อไปแล้ว ที่เหลือเป็นเพียงการพัฒนาตัวเอง และเติบโตขึ้นมาในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพให้ได้เพียงเท่านั้นเอง วินิซิอุส จูเนียร์ : พัฒนาตัวเองแบบเงียบๆ จนก้าวสู่นักเตะมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ขึ้นชุดใหญ่ของ ฟลาเมงโก้

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 วินิซิอุส ได้โอกาสเซ็นสัญญานักเตะอาชีพครั้งแรกกับ ฟลาเมงโก้ พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 20 หลังจากนั้นอีก 2 วัน เจ้าตัวก็ได้ประเดิมสนามเกมแรกกับทีมชุดใหญ่ในทันที โดยถูกส่งลงมาเป็นสำรองในนาที 82 เกมที่เจอกับ แอตเลติโก มิเนโร่ จากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็ค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้น พร้อมดาวดวงใหม่แห่งวงการฟุตบอลบราซิล โดย วินิซิอุส ลงสนามในสีเสื้อของ ฟลาเมงโก้ อยู่ 2 ฤดูกาล พร้อมสถิติลงสนามไปทั้งหมด 69 นัด ซัดไป 14 ประตู ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากหลายสโมสรใหญ่ในยุโรปที่หมายปองอยากจะได้แข้งหนุ่มรายนี้ไปเป็นอนาคตของสโมสร เพราะด้วยผลงาน รวมไปถึงสถิติต่างๆ มันบ่งบอกได้ว่าเด็กคนนี้มีของมากขนาดไหน และสามารถพัฒนาฝีเท้าให้ไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก จนบทสรุปสุดท้ายเขาได้โอกาสโยกย้ายมาค้าแข้งในยุโรปตั้งแต่อายุ 18 ปี กับทีมยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง เรอัล มาดริด พร้อมค่าตัวในระดับที่สูงเอาไว้ที่ตัวเลข 45 ล้านยูโร

ตะลุยแดนกระทิงดุ

วินิซิอุส จูเนียร์ ได้โอกาสลงสนามครั้งแรกกับ เรอัล มาดริด ในช่วงฤดูกาล 2018-19 แม้จะมีการเซ็นสัญญากันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นไปแล้วราว 1 ปี แต่ทว่าก็ต้องรอให้เจ้าตัวอายุ 18 ปี เสียก่อนเพื่อที่จะลงเล่นกับทีมได้  ซึ่งผลงานในช่วงฤดูกาลแรกกับ เรอัล มาดริด เจ้าตัวถือว่าได้โอกาสลงสนามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แม้จะเจองานที่ยากพอสมควร เนื่องจากสโมสรมีการเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือมากถึง 3 คน ไล่มาตั้งแต่ ฆูเลน โลเปเตกี, ซานติอาโก้ โซลารี่ ก่อนปิดท้ายด้วย ซีเนดีน ซีดาน แต่ทว่าชื่อของ วินิซิอุส ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนายใหญ่ทุกคนที่ชอบใช้บริการของเด็กหนุ่มคนนี้ แต่จะว่าไปด้วยความใหม่กับฟุตบอลในระดับสูง และยิ่งเป็นกับ เรอัล มาดริด ความกดดัน รวมไปถึงการปรับตัวอาจจะยังไม่ค่อยแนบเนียนเท่าไหน่นัก รวมไปถึงเรื่องของการยิงประตูยังไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่ทว่าทุกอย่างย่อมต้องใช้เวลาในการปรับจูน เช่นเดียวกับ วินิซิอุส ที่อายุยังน้อย ยังเหลือเวลาให้พัฒนาเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังจากพี่ๆ รอบข้างอีกมาก วินิซิอุส จูเนียร์ : พัฒนาตัวเองแบบเงียบๆ จนก้าวสู่นักเตะมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ผลงานสุดเดือดในซีซั่นนี้

อย่างที่กล่าวไปว่า วินิซิอุส ขอเพียงเวลาในการพัฒนาฝีเท้าของตัวเอง จนกระทั่งในฤดูกาลนี้เขาก็พิสูจน์ตัวเองออกมาให้เห็นแล้วว่ามันสุดยอดมากขนาดไหน จากสถิติซีซั่นที่ผ่านมาๆ จำนวน 6 ประตู คือตัวเลขสูงที่สุดที่ซัดต่อฤดูกาล แต่กับในซีซั่นปัจจุบันนี้ เจ้าหนูจากบราซิลกระหน่ำไปแล้ว 12 ประตู รั้งเป็นรองดาวซัลโวของทีมอยู่ในขณะนี้ ทั้งที่จะว่าไปในแผนกเกมรุกตัวริมเส้นของทัพ "ราชันลุดขาว" จะอุดมไปด้วยเหล่านักเตะชื่อดังไม่ว่าจะเป็น เอเด็น อาซาร์, มาร์โก อเซนซิโอ้,  แกเร็ธ เบล หรือ ลูคัส บาสเกซ แต่ทว่าทั้งหมดต่างต้องหลีกทางให้กับความร้อนแรงของ วินิซิอุส ที่ทั้งยิง ทั้งจ่าย จนพาทีมผงาดเป็นจ่าฝูงของศึกลาลีกา สเปน อยู่ในชั่วโมงนี้ และยิ่งเมื่อได้มาจับคู่กับหัวหอกรุ่นพี่อย่าง คาริม เบนเซม่า กลายเป็นส่งเสริมความโหดให้แก่กันและกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งนี่คือส่วนผสมของแข้งวัยเก๋า กับดาวรุ่งฟอร์มสดที่ลงตัวเอามากๆ จำนวนกว่าครึ่งที่ทีมทำได้ก็มาจากการผสานงานของทั้ง 2 รายนี้ แน่นอนว่าอย่างที่ที่เรารู้กันจุดเด่นของ วินิซิอุส คือเรื่องของสปีดความเร็วที่รอบจัดเป็นอย่างมาก แถมไปกับบอลไปดี จังหวะดวลตัวต่อตัวก็ยากนักที่จะหยุดยั้งเขาไว้ได้ นี่แหละคือจุดที่แสดงให้เห็นถึงสกิลฟุตบอลสไตล์แซมบ้าขนานแท้ พร้อมแถมออฟชั่นเสริมคือการเลี้ยงบอลตัดเข้าในก่อนตะบันจากนอกกรอบเขตโทษ นี่คือความอันตรายของเขาที่เพิ่มเข้ามาในฤดูกาลนี้ และด้วยความร้อนแรงแบบนี้ไม่แปลกที่เสียงสรรเสริญจะเริ่มยกให้เขากลายเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งสุดโหดในตอนนี้ และในวัน 21 ปี บอกได้เพียงว่าเขายังคงมีเวลาอีกมากโขในการพัฒนาฝีเท้าให้เข้าใกล้กับคำว่าระดับโลก

นักเตะมูลค่าสูงที่สุดในโลก

จากการเปิดเผยล่าสุดของ CIES หรือ ซีไออีเอส ฟุตบอล ออบเซอร์เวทอรี่ องค์กรเก็บสถิติและวิเคราะห์ข้อมูลสโมสรยุโรป ได้ทำการประเมินว่าในตอนนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ มีมูลค่าในท้องตลาดอยู่ที่ 166 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่านักเตะคนอื่นๆ ในวงการลูกหนัง ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า CIES จะประเมินมูลค่าของนักเตะแต่ละคนตามปัจจัยเรื่องของ ฟอร์มการเล่น, อายุการใช้งาน, นาทีที่ลงเล่น, สัญญาปัจจุบันและข้อมูลของต้นสังกัด  ซึ่งเมื่อเอาข้อมูลทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดมาประเมินแล้วจะพบว่า วินิซิอุส อยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผลงานในปัจจุบันที่รักษามาตรฐานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงอายุที่เพิ่งแตะหลัก 21 ปี รวมไปถึงสัญญากับทัพ "ราชันชุดขาว" ที่มีถึงปี 2024 และปัจจัยสุดท้ายคือผลงานของทีมที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรอัล มาดริด กำลังติดลมบนทั้งผลงานในศึกลาลีกา สเปน รวมไปถึงในบอลยุโรปก็กรุยทางเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ไปแล้ว และด้วยทุกอย่างที่เป็น วินิซิอุส มันลงตัวขนาดนี้ไม่แปลกที่มูลค่าของเขาจะพุ่งกระฉูดทะยานเหนือกว่านักเตะคนอื่นๆ ส่วนทิศทางต่อจากนี้เจ้าตัวเองก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่แขวนสตั๊ดกับ เรอัล มาดริด สร้างตำนานอีกบทที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว หรือจะอยู่จนกว่าสโมสรจะเขี่ยเขาทิ้งไปเลย สุดท้ายมันคงจะไม่มากจนเกินไปถ้าจะบอกว่า ณ ตอนนี้ วินิซิอุส คือนักเตะดาวรุ่งที่อนาคตน่าสนใจไม่ต่างอะไรกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ หรือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และบางทีด้วยความที่ไม่ได้อยู่ในโฟกัสตลอดเวลาอาจทำให้เขาพัฒนาไปได้มากกว่านี้ และยึดครองบัลลังก์แข้งหมายเลข 1 ของโลกลูกหนังก็เป็นได้ ฉะนั้นแล้วโปรดติดตามด้วยใจระลึก เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบสำหรับทุกข้อสงสัยเอง ...

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline