logo-heading

ในช่วงบั้นปลายของ โรนัลโด้ ตำนานโล้นทองคำ ตัวแทนที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนในนามชาติบราซิล หนึ่งในนั้นมีชื่อของ โรบินโญ่ เจ้าของฉายา นิว เปเล่ เพราะสมัยเป็นวัยระเริง ค้าแข้งอยู่กับ ซานโต๊ส นั้น ชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกมากจริงๆ

แต่กระนั้นจากชื่อเสียงระดับโลกสักประมาณ 15-16 ปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นว่าชีวิตตกอับ เตรียมเข้าไปนอนในซังเตกินข้าวแดง เพราะความ "หงี่" เป็นเหตุ เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร ทำไม โรบินโญ่ ต้องเข้าคุกรับกรรม ทีมขอบสนาม จะไปเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันครับ

- ย้อนไปสมัยเป็นเพรชเม็ดงามที่ ซานโตส

ก่อนที่ เนย์มาร์ จะย้ายจาก ซานโตส มาโด่งดังเป็นพลุแตกกับ บาร์เซโลน่า และ มาเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งจริงๆแล้วคนที่เดินเส้นทางนี้มาก่อนก็คือ โรบินโญ่ ย้อนกลับไปช่วงปี 2002 ซานโตส ได้ค้นพบเพชรเม็ดงามแห่งวงการลูกหนัง ที่พวกเขาได้ฟูมฟักเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นเด็กเยาวชน ตอนที่ โรบินโญ่ อายุ 17 ปี เขาเก่งเกินกว่าเด็กทุกคน ทั้งเทคนิคอันยอดเยี่ยม ลีลาอันแพรวพราว พร้อมกับจบสกอร์ที่เฉียบคม จนทำให้ตอนนั้นเขาถูกจับตามองอย่างมาก ในฐานะ วอนเดอร์ คิดส์ แห่งบราซิล พร้อมขนานนามว่า "นิว เปเล่" พร้อมกับถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว ตอนอยู่กับ ซานโตส ประมาณ 3 ฤดูกาลครึ่ง โรบินโญ่ ทำประตูไป 81 ตุง จากการลงสนาม 180 นัด เรียกว่าเป็นสถิติที่โคตรโหด กับเด็กอายุ 19 หยกๆ 20 หย่อนๆ ด้วยฟอร์มแบบนั้น ไม่ใช่แค่ฉายา นิว เปเล่ ที่แฟนบอลมอบให้ แต่เขาถูกคาดหมายว่าจะขึ้นมาแทนพวกรุ่นพี่อย่าง โรนัลโด้ ที่ใกล้อำลาทัพ เซเลเซา เต็มกลืน

- ขึ้นไปสูงสุด แต่ก็ตกลงสู่สามัญ

ในวันที่ โรบินโญ่ กำลังฟอร์มขึ้นหม้อสุดๆ ทำให้ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มค่าฉีกสัญญา 24 ล้านยูโร ซื้อตัวมาจาก ซานโตส เมื่อปี 2005 พร้อมกับมอบเบอร์ 10 ให้เป็นของขวัญ เป็นหมายเลขที่ หลุยส์ ฟิโก้ ตำนานของทีม เคยสวมใส่ก่อนหน้านี้ เขาได้เล่นร่วมกับซูเปอร์สตาร์อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน, โรนัลโด้, ราอูล กอนซาเลซ และ เดวิด เบ็คแฮม เป็นต้น ถึงแม้จะมีตำนานอยู่มากมายหลายตำแหน่ง แต่ โรบินโญ่ ก็ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ โดยลงสนามไป 136 นัด ซัลโว 35 ประตู พร้อมกับมีส่วนช่วยให้ ราชันชุดขาว คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน 2 สมัยซ้อน อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตก็คือ ตอนที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุมบังเหียน มาดริด ซึ่ง โรบินโญ่ รู้สึกว่าเขาไม่คอยได้รับโอกาสเป็นตัวจริงมากนัก จนเกิดกระแสเรื่องย้ายทีมเกิดขึ้น และทีมที่ตกเป็นแคนดิเดตคือตัวแทนจากอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เชลซี  ถึงแม้ เรอัล มาดริด จะมีข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่มาให้ เรียกว่ายากจะปฏิเสธให้ และ เปลี่ยนกุนซือมาเป็น แบรนด์ ชูสเตอร์ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะ โรบินโญ่ เล่นกับทีมอีกแค่ 1 ซีซั่น และ ปฏิเสธต่อสัญญาฉบับใหม่ และ ขอขึ้นบัญชีย้ายออกจาก มาดริด นั่นแหละครับคือจุดเปลี่ยนในชีวิตค้าแข้ง โรบินโญ่ เพราะต่อให้ โรบินโญ่ จะกลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบโคตรเซอร์ไพรส์ในวันเดดไลน์ด้วยค่าตัวราวๆ 43 ล้านยูโร เนื่องจากเดิมทีเขาควรจะต้องไปอยู่กับ เชลซี ด้วยซ้ำ แต่ สิงห์บลูส์ ดันไปทะลึ่งสกรีนชื่อ โรบินโญ่ ทั้งๆที่ดีลไม่ลุล่วง ทำให้ มาดริด หมั่นไส้ เลือกขายให้กับ เรือใบสีฟ้า โรบินโญ่ สร้างปรากฏการณ์ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ได้ทันที แต่มันสว่างไสวเหมือนกับ ดอกไม้ไฟ เท่านั้น โดยขวบปีแรกกับ แมนฯ ซิตี้ เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 42 นัด ซัดไป 15 ประตู ดูตาเปล่า เหมือนว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยม แต่ความเป็นจริงคือน่าผิดหวังอย่างมาก เพราะมีปัญหาทั้งเรื่องการปรับตัว และ สภาพจิตใจที่ไม่ดีนัก ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้สาวก เดอะ ซิตี้เซ่น ควันออกหู ก็คือการไปให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกนึกว่าจะได้ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด “พอได้ยินชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ผมก็คิดว่าผมจะได้ย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียอีก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เอเยนต์ผมเป็นคนจัดการทุกอย่าง ซึ่งกว่าผมจะรู้ว่าต้องเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ก็คือวินาทีสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขาย แล้ว” จากวันนั้น โรบินโญ่ ก็อยู่กับ เรือใบสีฟ้า ไปอีกครึ่งซีซั่น จากนั้นก็ถูกปล่อยตัวกลับไปค้าแข้งกับ ซานโตส ยืมใช้งาน ซึ่งมันเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่า ชีวิตอันรุ่งโรจน์ในเส้นทางค้าแข้งของ โรบินโญ่ กำลังถอยลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 25 ปี เท่านั้น หลังจากหมดสัญญายืมตัว โรบินโญ่ ก็ถูกปล่อยตัวไปให้กับ เอซี มิลาน เขาใช้เวลาอยู่ที่สโมสรแห่งนี้เป็นเวลา 4 ปี คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ 1 สมัย เมื่อซีซั่น 2010-11 ซึ่งก็เป็นปีที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด ด้วยการยิงไป 14 ประตู แต่ต่อจากนั้นก็สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ และ ปีศาจแดง-ดำ ก็เป็นทีมยักษ์ใหญ่ทีมสุดท้ายของเขาในลีกยุโรป โรบินโญ่ พเนจรไปทั่ว ปี 2014 : กลับ ซานโตส ปี 2015 : ไปเล่นลีกจีน กับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ปี 2016 : กลับบราซิล ซบตัก แอตเลติโก มิเนโร ปี 2018 : ย้ายไปอยู่ ซิวาสสปอร์ ในลีกตุรกี ปี 2019 : อยู่ ตุรกี แต่เปลี่ยนสโมสรมาเป็น อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ปี 2020 : กลับ ซานโตส อีกรอบ แต่การกลับมาอยู่ ซานโตส นี่แหละครับ ทำให้ชีวิตและเส้นทางค้าแข้งของ โรบินโญ่ พังทลาย .. ไม่เกี่ยวกับสโมสร ไม่เกี่ยวกับผลงาน แต่กลับเป็นความ หงี่ ของเจ้าตัวเองล้วนๆ

- โรบินโญ่ ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนสาวแอลเบเนีย

ย้อนไปสมัยที่ เอซี มิลาน .. โรบินโญ่ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสายปาร์ตี้อีกคนหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศต่อสาวชาวแอลเบเนีย พร้อมกับเพื่อนอีก 6 คน เมื่อปี 2013 ถึงแม้ว่า โรบินโญ่ จะออกโรงปฏิเสธและยื่นอุทธรณ์สู้คดี แต่ชีวิตของเขากำลังพังไม่เป็นท่า เพราะด้วยภาพลักษณ์ และ ความไม่เหมาะสม ทำให้ ซานโตส ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ โรบินโญ่ ทันที ต่อให้รับค่าเหนื่อยเพียง 207 ปอนด์ ต่อ สัปดาห์ เท่านั้น (ประมาณ 8,000 บาท) ทั้งๆที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ เพราะ บริษัท ออร์โธไพรด์ ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสร ซึ่งทำเกี่ยวกับการดูแลความงาม ขอถอนตัว จากการไปเซ็น โรบินโญ่ เข้ามา จริงๆแล้ว ดาวเตะรายนี้ เกือบจะต้องนอนซังเตไปแล้วเมื่อปี 2017 เนื่องจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ โรบินโญ่ พร้อมพวก ต้องจำคุกเป็นเวลา 9 ปี แต่กระนั้นก็ยังได้ประกันตัวออกมาสู้คดีในที่สุด เรียกว่ารอดนอนคุกแบบหวุดหวิด อย่างไรก็ตาม เวรกรรมตามทันกันในชาตินี้ คนทำผิดก็ต้องรับบทลงโทษ เพราะการยื่นอุทธรณ์ครั้งสุดท้ายของ โรบินโญ่ ถูกปฏิเสธ ส่งผลให้ตัวเขาและเพื่อนอีก 6 คน จะต้องไปชดใช้กรรมในคุก เป็นระยะเวลา 9 ปีตามเดิม  ท้ายที่สุดแล้ว โรบินโญ่ อาจมีช่องว่างทางกฎหมายที่จะไม่ต้องนอนคุก เพราะตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของบราซิล คือห้ามส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถ้าเป็นประชาชนในประเทศตัวเอง แต่ อิตาลี เตรียมส่งคำร้องขอให้กระบวนการยุติธรรมแดนแซมบ้า จำคุก โรบินโญ่ ที่บ้านเกิดแทน เห็นไหมครับว่าชีวิตของคนเรา มันเคยขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด ก็สามารถตกลงมาสู่จุดต่ำสุดได้เช่นกัน เพราะวัยระเริงมันอาจเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราไม่ได้รู้สึกผิดชอบชั่วดี ทำตามอำเภอใจ ต้องการแค่ความสนุกเท่านั้น โรบินโญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ควรนำมาเป็นกรณีศึกษา เรื่องฝีเท้าเขามีครบทุกอย่าง แต่พฤติกรรมนอกสนาม อาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง มีเงินเยอะมันก็ดี แต่หลงแสงสีมันก็จบ ใช้ชีวิตให้เป็น ให้มันอยู่ในศีลธรรม เพราะชื่อเสียงที่ โรบินโญ่ ที่เคยสั่งสมมาสมัยเป็นวัยรุ่น มันถูกกลบด้วยเรื่องฉาวๆไปหมดแล้วในวันนี้

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline