logo-heading

ดูเหมือน ยูเวนตุส กำลังจะได้กองหน้าตัวใหม่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นของดี แรร์ ไอเท็ม มาเสริมความแข็งแกร่งในเร็วๆ นี้นั่นก็คือ ดูซาน วลาโฮวิช ดาวยิงฟอร์มแรกจากค่าย ฟิออเรนติน่า

All you need to know about Dusan Vlahovic, Arsenal target & 'new Ibra' แน่นอนว่า ดูซาน วลาโฮวิช ไม่ใช่นักเตะรายแรกของ ฟิออเรนติน่า ที่โดน ยูเวนตุส ฉกตัวมาร่วมทีม เพราะในอดีตที่ผ่านมามีนักเตะหลายคนที่อยู่ในข่ายเคสดังกล่าว จะมีใครบ้างนั้นไปติดตามคอนเทนต์จากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลยครับ

นอร์แบร์โต้ เนโต้

Neto can leave Barça: Two greats from Italy, interested in his signing ปัจจุบัน นอร์แบร์โต้ เนโต้ คือหนึ่งในขุนพลของ บาร์เซโลน่า มีสถานะเป็นตัวตัวเลือกรองจาก มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ย้อนเวลากลับเมื่อช่วง 10 ปีก่อนพี่แกก็เคยได้ประสบการณ์บนเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กับ ฟิออเรนติน่า ช่วงปี 2011-15 และก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะช่วง 2 ซีซั่นสุดท้ายที่เก็บไป 12 คลีนชีทจากการลงเฝ้าเสา 38 นัดในฤดูกาล 2013-14 และเก็บอีก 10 คลีนชีทจากการลงเล่น 35 นัด ในฤดูกาล 2014-15 ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมนั่นก็ทำให้ ยูเวนตุส เดินเรื่องคว้าตัว เนโต้ ไปร่วมทีมในฤดูกาล 2015-16 แต่นั่นเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะ ณ ช่วงเวลานั้นไม่มีใครสามารถแย่งตำแหน่งมือ 1 จาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้เลย ถึงจะได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ตลอดช่วง 2 ฤดูกาลในยูนิฟอร์ม "ไอ้ม้าลาย" เนโต้ ได้ลงเฝ้าเสาไปเพียงแค่ 22 นัด เท่านั้นต่างจากสมัยอยู่ที่ ฟิออเรนติน่า ที่ได้โอกาสไปทั้งหมด 101 นัด

เฟลิเป้ เมโล่

Felipe Melo - Player profile 2022 | Transfermarkt เฟลิเป้ เมโล่ เป็นนักเตะที่อยู่กับทีมไหนไม่ค่อยได้นานนักดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พี่แกจะได้ชื่อว่าเป็นนักเตะจอมพเนจรคนหนึ่ง เพราะตอนนี้การค้าแข้งกับสโมสรในบ้านเกิดที่บราซิลอย่าง ฟลูมิเนนเซ่ ก็นับเป็นสโมสรที่ 12 ในเส้นทางค้าแข้งไปแล้วตลอดช่วง 20 ปี และแน่นอนในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีการเป็นผู้เล่นของทั้ง ฟิออเรนติน่า และ ยูเวนตุส อยู่ด้วย ถึง เฟลิเป้ เมโล่ จะมีผลงานที่ดีกับ ฟิออเรนติน่า ในฤดูกาล 2008-09 แต่ก็อยู่กับทีมได้แค่ปีเดียวเท่านั้น เขาต่อสัญญาใหม่กับทีมออกไปอีก 5 ปี แต่ด้วยค่าฉีกสัญญาที่ระบุไว้ที่ 25 ล้านยูโรทาง ยูเวนตุส เลยทำข้อตกลงตรงนี้เพื่อเอาตัวเขามาร่วมทีมด้วยการส่ง มาร์โก มาร์คิออนนี่ กับ คริสเตียน ซาเน็ตติ แนบเข้าไปในข้อเสนอ เบ็ดเสร็จแล้ว ยูเวนตุส จ่ายเงินค่าตัว เมโล่ ไป 18.5 ล้านยูโร แต่นั่นเหมือนเป็นการเซ็นสัญญาที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ เพราะ เฟลิเป้ เมโล่ ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ไม่ว่าจะได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องแค่ไหนแต่เมื่อประมวลผลในภาพรวมมันก็ออกมาไม่ดีอยู่ดี จนได้รับเลือกให้เป็นผู้คว้ารางวัล โกลเด้น บิน หรือ ถังขยะทองคำ ซึ่งเอาไว้มอบให้กับนักเตะที่ผลงานห่วยแตกสุดๆ ของ กัลโช่ เซเรีย อา 

ฮวน กวาดราโด้

Juan Guillermo Cuadrado, libre de coronavirus y convocado sobre la hora por  la Juventus para la Supercopa ante Nápoles | MARCA Claro Colombia ชื่อของ ฮวน กวาดราโด้ กลายเป็นที่รู้จักจากผลงานที่โดดเด่นกับ ทีมชาติโคลอมเบีย ในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2014 แต่จริงๆ พี่แกฉายแววได้ดีมาตั้งสักพักใหญ่ๆ แล้วกับ ฟิออเรนติน่า ได้ลงเล่นไป 106 เกมตลอด 3 ฤดูกาล ยิงได้ 26 ประตู ก่อนจะย้ายไปตกอับกับ เชลซี ในฤดูกาล 2014-15 และเมื่อพี่แกไม่ได้มีความสุขกับชีวิตที่อังกฤษมันก็เลยมีข่าวเชื่อมโยงถึงการกลับไปโลดแล่นบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา อีกครั้งซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมเก่าอย่าง ฟิออเรนติน่า อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดปี 2017 ฮวน กวาดราโด้ เลือกตอบรับข้อเสนอย้ายไป ยูเวนตุส ที่ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของ อิตาลี ณ เวลานั้นแถมยังการันตีในเรื่องของความสำเร็จ และถึงตอนนี้พี่แกก็ได้โอกาสลงเล่นไปแล้วกว่า 240 นัดอาจจะมีช่วงที่ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ อยู่บ่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขายังอยู่และยังมีบทบาทกับทัพ "เบียงโคเนรี่" ก็คือการรับบทบาทได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งปีกก็ได้ หรือจะโยกไปยืนเป็นฟูลแบ็กก็ได้เหมือนกัน

เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่

เอาอีก Federico Bernardeschi ติดโควิด | ทีมม้าลายแห่งตูริน เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่ เป็นเด็กที่แจ้งเกิดมาจากอคาเดมี่ของ ฟิออเรนติน่า ก่อนจะได้โอกาสก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2014 หลังจากก่อนหน้านั้น 1 ปีพี่แกถูกปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ โครโตเน่ และมีผลงานที่ยอดเยี่ยม ถึงจะใช้ชีวิตอยู่กับ ฟิออเรนติน่า แค่ 3 ปี แต่ก็ถือว่ามีช่วงเวลาที่น่าจดจำโดยเฉพาะปีสุดท้ายที่เล่นหวดไปถึง 14 ประตูจากการลงเล่น 42 นัด และทำไปอีก 7 แอสซิสต์ด้วยกัน เมื่อได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกที่ฉายแววได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ณ เวลานั้น ยูเวนตุส ก็เลยจัดการกระชากตัวมาเสริมแกร่งด้วยค่าตัวที่สูงถึง 40 ล้านยูโร เมื่อปี 2017 ถึงจะได้โอกาสลงเล่นอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นมากนัก เป็นตัวจริงบ้างสำรองบ้างจากโอกาสทั้งหมด 168 นัดตลอด 5 ซีซั่น ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าตอนนี้ เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่ กำลังเจอปัญหาในการเค้นฟอร์มเก่งและเรียกความมั่นใจกลับมาจนมีข่าวลือว่าทาง ยูเวนตุส เองก็พร้อมโละพี่แกทิ้งในเร็วๆ นี้เช่นกัน

จอร์โจ้ คิเอลลินี่

อัลเลกรีเผยแผนดีที่สุดที่จะใช้คิเอลลินีในฤดูกาลนี้ | ทีมม้าลายแห่งตูริน ถึงไม่ได้โตมาจากอคาเดมี่ของ ยูเวนตุส ตั้งแต่แรกเริ่มแต่สำหรับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เขาได้รับการจดจำว่าเป็นหนึ่งในตำนานผู้ยิ่งใหญ่บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรไปแล้วจากการเป็นขุมกำลังสำคัญและอยู่รับใช้ทีมมาอย่างยาวนานถึง 17 ฤดูกาล พาทีมกวาดถ้วยแชมป์ไปทั้งหมด 20 โทรฟี่จากการลงเล่นไปมากกว่า 500 นัด แต่ด้วยอายุที่ปาเข้าไป 37 ปีแล้วบวกกับปัญหาทางด้านสุขภาพมันก็ทำให้ คิเอลลินี่ ไม่ได้โอกาสลงสนามมากนักในฤดูกาลนี้ ถ้าจะถามว่า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เกี่ยวกับอะไรกับ ฟิออเรนติน่า จริงๆ มันเคยมีเรื่องวุ่นๆ มาก่อนเกี่ยวกับการย้ายทีมของเขา ย้อนเวลากลับไปในปี 2004 ยูเวนตุส จัดการคว้าตัว จอร์โจ้ คิเอลลินี่ จาก ลิวอร์โน่ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 6.5 ล้านยูโร ก่อนจะถูกปล่อยให้ ฟิออเรนติน่า ซึ่งเป็นทีมเจ้าของร่วมต่อทันทีในราคา 3.5 ล้านยูโร และได้ใช้ชีวิตที่รั้ว อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ เป็นเวลา 1 ซีซั่นด้วยกัน ได้ลงเล่นไป 42 นัด ยิงได้ 3 ประตู ความซับซ้อนของดีลนี้มันหมายถึง ยูเวนตุส ซื้อตัว คิเอลลินี่ ครึ่งหนึ่งโดยจ่ายให้ โรม่า ในราคา 3 ล้านยูโร ส่วนทาง ฟิออเรนติน่า ก็จ่ายอีกครึ่งหนึ่งในกับ ลิวอร์โน่ ในราคา 3.25 ล้านยูโร และเมื่อ คิเอลลินี่ โชว์ฟอร์มได้กับฤดูกาลแรกบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา ทาง ยูเวนตุส ก็ตัดสินใจเรียกตัว คิเอลลินี่ กลับมา พร้อมกับฉีกสัญญาร่วมกับ ฟิออเรนติน่า ทิ้งด้วยการจ่ายเงินให้ทั้งหมดอีก 4.5 ล้านยูโร

เฟเดริโก้ เคียซ่า

Federico Chiesa ตกเป็นเป้าหมายของ 2สโมสรดังยุโรป - Footballaddrict นี่คือขุนพลจากค่าย ฟิออเรนติน่า รายล่าสุดที่โดนสโมสรอย่าง ยูเวนตุส พรากตัวไปร่วมทีมสำหรับ เฟเดริโก้ เคียซ่า เขาคือเด็กที่โตมาจากอคาเดมี่ของทัพ "วิโอล่า" โดยตรงก่อนจะได้โอกาสประเดิสมสนามกับทีมชุดใหญ่ในปี 2016 และจากนั้นก็ทำผลงานได้ดีและมีวิวัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดและน่าจับตามองที่สุดของ อิตาลี ในยุคนี้ การมีส่วนร่วมถึง 59 ประตูจากการลงเล่น 153 นัด แบ่งเป็นการซัดไป 34 ประตู และกดไปอีก 25 แอสซิสต์ นั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อค้าแข้งรายนี้สามารถหวังผลได้เป็นอย่างดีทั้งเรื่องการการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมตลอดจนการผลิตสกอร์ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ ยูเวนตุส อยู่เฉยไม่ได้จึงต้องรีบกระชากตัวมาร่วมทีมเมื่อปี 2020 ในรูปแบบของการยืมตัวซึ่งมีค่าเช่าอยู่ที่ 10 ล้านยูโร แถมยังมีออปชั่นซื้อขาดที่ 40 ล้านยูโร บวกกับ add-ons อีก 10 ล้านยูโร เฟเดริโก้ เคียซ่า กลายเป็นขุมกำลังสำคัญของ ยูเวนตุส ในทันทีทันใด และก็มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับปีแรกกับชีวิตในเมืองตูริน เมื่อพี่แกเล่นซัดไปถึง 14 ประตู กดไปอีก 10 แอสซิสต์จากการลงเล่น 43 นัด แถมยังได้ชื่อว่าเป็นแนวรุกที่ฉายแววได้ดีที่สุดอีกต่างหากในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ที่พา ทีมชาติอิตาลี เถลิงบัลลังก์แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบันถึง เคียซ่า จะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักจนเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาดและต้องพักยาว 8-10 เดือน แต่เมื่อดูจากโปรไฟล์ที่สร้างมาทั้งหมดแน่นอนว่า ยูเวนตุส คงไม่ปฏิเสธการใช้ออปชั่นซื้อขาดแน่นอน

โรแบร์โต บาจโจ้

ตำนานอิตาลี เทพบุตรเปียทองคำ โรแบร์โต้ บาจโจ้ นี่คือหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจดจำและได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของวงการลูกหนังอิตาลีสำหรับ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ไม่มีแฟนบอลคนไหนไม่มีรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของผู้ชายคนนี้ และถ้าจะถามถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าของฉายา "เทพบุตรเปียทองคำ" เริ่มแจ้งเกิดจนเป็นที่รู้จักก็คือสมัยอยู่ ฟิออเรนติน่า นี่แหละ โดยเฉพาะในช่วง 2 ฤดูกาลสุดท้ายที่ซัดไป 24 ประตู และ 19 ประตูต่อซีซั่นตามลำดับจนนำมาซึ่งการได้โอกาสติดธง ทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต ปี 1990 โรแบร์โต้ บาจโจ้ ถูกขายให้กับหนึ่งในคู่แข่งของ ฟิออเรนติน่า นั่นก็คือ ยูเวนตุส และนั่นคือการย้ายทีมในค่าตัวสถิติโลก ณ ตอนนั้นที่ 8 ล้านปอนด์ พร้อมกับได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ที่เคยเป็นของ มิเชล พลาตินี่ มาก่อน แต่นั่นก็เป็นเหตุให้เกิดจลาจลครั้งใหญ่บนท้องถนนเมืองฟลอเรนซ์ซึ่งทำให้มีแฟนบอลได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน ก่อนที่หลังจากนั้นตัวของ บาจโจ้ จะออกมาส่งข้อความถึงแฟนๆ ว่า "ผมถูกบังคับให้ตกลงตอบรับเรื่องการย้ายทีม" การย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส ได้ทำให้ โรแบร์โต้ บาจโจ้ สถาปนาก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกในยุคนั้นกับสถิติการระเบิดสกอร์ที่ถล่มทลายที่ 115 ประตูจาก 200 นัด มีค่าเฉลี่ยอยู่การพังประตูอยู่ที่ 23 ประตูต่อปีในช่วง 5 ฤดูกาล และนั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์ได้ 3 โทรฟี่ด้วยกัน

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline