logo-heading

ซึ่งอาจจะให้บางคนได้พัก เพื่อรอเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อคเอาท์ ช่วงกลางสัปดาห์

ดูจากเกมครึ่งแรกไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 2-0 น่าจะเก็บ 3 แต้มได้ไม่ยาก แต่หลังจาก ยูงทอง มีการขยับเปลี่ยนตัว ก็กลับมาตีเสมอได้หน้าตาเฉย 2-2 ในเวลาแค่ไม่กี่นาที ยังดีที่สุดท้ายแล้ว ปีศาจแดง เก็บ 3 แต้ม เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 ซึ่งเกมนี้มีประเด็นอะไรน่าสนใจให้พูดถึงบ้าง โดยเฉพาะฝั่ง ปีศาจแดง ไปติดตามกันเลยครับ

- แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าพ่อสงครามดอกกุหลาบ

ตัดเรื่องราวในอดีตทิ้งไป เอาแค่สักประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ขึ้นมาโลดแล่นบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง ในรอบ 16 ปี ต้องบอกเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ข่มแบบมิดด้าม เจอกันมาแล้ว 4 ครั้ง นอกจากจะไม่แพ้เลย ยังยิงกระจุยอีกด้วย

ถ้าจำกันได้ นัดเปิดฤดูกาล ปีศาจแดง เปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไล่ยำ ยูงทอง เละเทะ 5-1 ผงาดทะยานฟ้าขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับการประกาศศักดาว่า "กูกลับมาแล้ว" แต่หลังจากนั้นผลงานก็อย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถานะลุ้นแชมป์จะเปลี่ยนไป แต่เมื่อใดก็ตามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับ ลีดส์ ก็ยังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำอยู่เสมอ โดยตั้งแต่ที่ ยูงทอง เลื่อนชั้นขึ้นมา โดนทาง ปีศาจแดง ถลุงตูดไปมากถึง 15 ลูก ด้วยกัน

- แม็คไกวร์ โดนด่ามานาน วันนี้ขอทำประตู

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นนักเตะที่โดนด่ามากที่สุดของทีม ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นที่ดูกู่ไม่กลับ ทั้งเรื่องความผิดพลาด, แอคชั่นฮาๆ หรือ แม้กระทั่งความเหมาะสม ที่แฟนบอลบางส่วนมองว่า ไม่คู่ควรแก่การสวมปลอกแขนให้กับสโมสรแห่งนี้

จากคำวิจารณ์ และ ความกดดันที่มันถาโถม จึงได้เห็นรีแอคชั่นปลดแอกความปลดเปลื้องของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แบบเต็มเหนี่ยว หลังจากเจ้าตัวเป็นคนโขกประตูขึ้นนำให้กับ ปีศาจแดง 1-0 ซึ่งเป็นสกอร์แรกของเจ้าตัวในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้

นอกจากนั้น ลูกแรกของ แม็วไกวร์ เป็นการเบิกสกอร์จากลูกเตะมุม นั่นหมายความว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากลูกเปิดคอร์เนอร์เป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ จากการพยายามลองทำมาทั้งหมด 139 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทำได้ ต้องย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน 2021 นุ้นเลย

- บรูโน่-ซานโช่ ฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจ

สองนักเตะที่โชว์ฟอร์มดีที่สุดของวันนี้ต้องยกให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ จาดอน ซานโช่ เลยครับ เรียกว่าทั้ง 2 คน ต่างมีส่วนสำคัญช่วยให้ ปีศาจแดง เก็บ 3 คะแนน สำคัญ มีทั้งยิง และ จ่ายให้กับเพื่อนๆ

เริ่มจาก จาดอน ซานโช่ นี่คือเกมที่เขาแผลงฤทธิ์ให้เห็นอีกครั้งว่า ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงอยากได้ตัวมาร่วมทีมนักหนา เพราะหลังจากได้เล่นอย่างต่อเนื่อง ความมั่นใจก็กลับมา ทั้งกล้าลาก กล้าเลื้อย และ โดยเฉพาะประตูที่ 2 โชว์ความเหนือชั้นในการแอสซิสต์ หยอดข้ามหัวคู่แข่ง ไปให้กับ บรูโน่ โขกแบบเน้นๆหน้าปากประตู เรียกว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นเดือนที่เขาฟอร์มร้อนแรงจริงๆ

ขณะที่ บรูโน่ อาจจะมีฟอร์มดรอปๆไปบ้าง แต่วันนี้ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส งัดผลงานอันยอดเยี่ยมให้เห็นอีกครั้ง โดยเกมบุกตบ ลีดส์ ยูไนเต็ด เขายิง 1 ประตู และ จ่ายให้เพื่อนอีก 1 ลูก นอกจากจะสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนแล้ว ยังเป็นนักเตะที่วิ่งไม่มีหมดจริงๆ โดยยังลงมาช่วยเกมรับด้วย

- แมนยู ทีมเอนเกจเมนท์ หยิบจับอะไรก็เป็นคอนเทนต์ไปหมด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคตรทีมแห่งคอนเทนต์ ชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ว่าจะทำอะไร หยิบจับอะไร ก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรง มีผู้คนให้ความสนใจเต็มไปหมด ซึ่งในเกมที่บุกเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-2 นอกจากจะมี แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โหม่งทำประตูได้แล้ว การเปลี่ยนตัวของ ราล์ฟ รังนิค ก็ช่างบันเทิงเหลือเกินครับพี่น้อง

เพราะหลังจากที่ ปีศาจแดง โดนตีเสมอ 2-2 นั้น รังนิค ก็ทำช็อคด้วยการถอด ปอล ป็อกบา ออกจากสนาม ทั้งๆที่เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เล่นได้ดีที่สุด และ ส่ง เฟร็ดเฟ่ ลงสนามมาแทน ในใจตอนนั้นคิดเลยว่า "อิหยังวะ" ซึ่งแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายๆคนก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน เนื่องจาก เฟร็ด ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์มากนัก

แต่ใครจะเชื่อล่ะครับ นักเตะที่แฟนบอลถามว่า "มึงจะลงมาทำไม" สุดท้ายกลายเป็น "เฟร็ด" นี่แหละ ที่ลงมายิงประตูขึ้นนำอีกครั้งให้กับ ปีศาจแดง จากจะโดนด่า ต้องรีบเปลี่ยนเครดิตให้ทันที ทั้งกับ ราล์ฟ รังนิค และ เฟร็ด เพราะประตูนี้เป็นอะไรที่โคตรเซอร์ไพรส์จริงๆ

- ความหวังติดท็อปโฟร์ ของ แมนยู ส่วน ลีดส์ ต้องหนีตาย

ชัยชนะแมตช์นี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับว่าสำคัญมากจริงๆ เพราะหลังจากฟอร์มตุปั๊ดตุเป๋มาก่อนหน้านี้ จนตำแหน่งท็อปโฟร์สั่นสะเทือน แต่การเก็บ 3 คะแนน เหนือ ลีดส์ ทำให้พวกเขายังพอหายใจได้คล่องมากขึ้น โดยแข่งไป 26 นัด มีอยู่ 46 คะแนน นำหน้า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4 แต้ม

อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดง ต้องระวังหลังให้ดี เพราะ อาร์เซน่อล ที่ไล่ตามมา 4 แต้ม แข่งน้อยกว่าถึง 3 นัด รวมถึง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งอยู่อันดับ 7 ก็แข่งน้อยกว่า 3 นัด และ ตามหลัง 7 คะแนน ดังนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องแช่งให้คู่แข่งแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์สะดุดขาตัวเองบ้าง โดยตอนนี้ก็รั้งอันดับ 4 กดดันไปก่อน

ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด หลายคนอาจจะจำภาพการเล่นฟุตบอลสวยงาม วิ่งสู้ฟัด ไล่เพรสซิ่งแบบบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้สถานะของทัพ ยูงทอง ต้องดิ้นรนหนีตายแบบเต็มตัวแล้วล่ะครับ โดยตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับ 15 ของตาราง แข่ง 24 นัด มีอยู่ 23 คะแนน เหนือโซนตกชั้นแค่ 5 แต้ม เท่านั้น โดยกลางสัปดาห์นัดเก็บตก ก็ต้องออกไปเยือน ลิเวอร์พูล อีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่ฟอร์มร่วงขนาดนี้ ก็เพราะนักเตะพาเหรดกันบาดเจ็บเต็มทีม และ ช่วงหนึ่งก็เจอโรค โควิด-19 ระบาดหนัก อีกด้วย

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline