logo-heading

โดยมีเพียง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม เท่านั้น ที่ยังได้ลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

ถึงจะมีการส่งตัวสำรองแทบจะยกชุด แต่คุณภาพก็ยังคงเหนือกว่า นอริช ซิตี้ อยู่หลายขุม อาจจะมีจังหวะเสียวๆ ที่โดนตีไข่แตกไล่มา แต่ ลิเวอร์พูล ก็เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1

กรุยทางผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ หลายๆคนอาจจะไม่ได้ดูเกมคู่นี้ เนื่องจากเตะกันดึกมาก และ คงมีงานเช้ารออยู่ เอาเป็นว่า จะมาสรุปประเด็นสำคัญในเกมนี้แบบคร่าวๆให้ได้ทราบกัน ไปติดตามกันเลยครับ

- หงส์แดง สถิติข่ม นกขมิ้น ยับเยิน

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค ลิเวอร์พูล เจอกับ นอริช ซิตี้ เมื่อไหร่ บอกเลยว่า "สนุกตีน" .. ด้วยความเคารพไม่ได้เป็นการเย้ยหยัน นกขมิ้น แต่สถิติ "เฮด-ทู-เฮด" มันบ่งฟ้อง 18 นัดหลังสุดที่พบกัน หงส์แดง ไม่เคยแพ้ โดยชนะถึง 16 นัด และ เสมอ 2 นัด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ นอริช เก็บชัยเหนือ เครื่องจักรสีแดง ต้องย้อนไปปี 1994 วันนั้นบุกมาชนะ 1-0

แต่คนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องย้อนไปไกลถึงยุค 90 เอาแค่ 7 นัดหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูล กินขาด ชนะรวดไม่พัก โดยเป็นการยิงแบบ 3 ลูกขึ้นไปถึง 5 นัด มีเพียง 2 เกมที่ยิงไม่ถึง คือเฉือนชนะ 1-0 จากประตูชัยของ ซาดิโอ มาเน่ และ ก็คือนัดนี้ที่มีใจหวิวๆ หลังโดนตีไข่แตก แต่รักษาสกอร์ไว้ได้ 2-1

แต่มันก็เป็นอีก 1 เกม ที่ต้องย้ำว่า นอริช ยังเป็น ลูกไก่ในกำมือ เหมือนเดิม เวลาเจอ หงส์แดง ที่สำคัญเป็นการเขี่ย นกขมิ้น ตกรอบอีกหนึ่งรายการ หลังเคยตบร่วง คาราบาว คัพ มาแล้ว ดังนั้นสำหรับ นอริช ต่อจากนี้ ก็คงต้องโฟกัสเรื่องหนีตายแบบเต็มตัว ไม่มีห่วงกับฟุตบอลถ้วยอีกแล้วในซีซั่น 2021-22

- มินามิโนะ เจ้าพ่อบอลถ้วย

ว่ากันตามตรง โอกาสที่ ทาคุมิ มินามิโนะ จะได้ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นไปได้ยากเหลือเกิน เพราะลำพังแค่มี ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ดิโอโก้ โชต้า ก็แทบไม่ได้ลงสนามแล้ว ยังมี หลุยส์ ดิอาซ เพิ่มเข้ามาอีกคน ดังนั้นส่วนใหญ่ ทาคุมิคุง จะได้ลงสนามในฟุตบอลถ้วยมากกว่า

อย่างแชมป์ คาราบาว คัพ ที่ หงส์แดง คว้ามาครองนั้น ต่อให้ มินามิโนะ จะไม่ได้ลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศ แต่กระนั้นเขาคือฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ไปถึงฝั่งฝัน เพราะถือว่าเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในรายการนี้ หลังซัลโวไปถึง 4 ประตู ซึ่งรอบที่เจอกับ นอริช นั้น ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น ก็ซัลโวไปได้ 2 ลูก

ล่าสุด มินามิโนะ ก็ยังคงร้อนแรงเหลือเกิน เมื่อได้โอกาสลงสนาม และ ถูกโฉลกกับคู่แข่งทีมนี้เหลือเกิน เพราะนัดถล่ม นอริช เจ้าตัวก็ซัดคนเดียว 2 ลูก ตั้งแต่ครึ่งแรก จากโอกาสยิงตรงกรอบ 2 ครั้ง เรียกว่าคมกริบสุดๆ กดแบบเต็มข้อทั้ง 2 ตุง ส่งผลให้ เอฟเอ คัพ ซีซั่นนี้ มินามิโนะ ก็นำเป็นดาวซัลโวของทีม โดยยิงไปแล้ว 3 ประตู 
ซึ่งหากนับตั้งแต่ปี 2020 มินามิโนะ ยิงประตู ในฟุตบอลถ้วยของอังกฤษ รวมไปแล้วทั้งสิ้น 9 ประตู นับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว มาดูกันว่าดาวยิงเลือดซามูไร จะมีส่วนทำให้ หงส์แดง ประสบความสำเร็จอีกรายการได้หรือไม่

- คล็อปป์ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ ครั้งแรก

ปกติแล้ว ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยมีความหวังลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ เหมือนทีมอื่นๆหรอกครับ เพราะตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม ลิเวอร์พูล ส่วนใหญ่ ฟุตบอลถ้วยในประเทศ มักตกรอบตั้งแต่ไก่โห่ เรียกว่าจองศาลา ไม่รอบ 3 ก็ รอบ 4 อยู่ตลอด และ ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างซีซั่นก่อนก็จอดป้ายแค่รอบ 4 ด้วยการบุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3

แต่หลังจากผิดหวังมาซ้ำซาก และ เพิ่งได้ความมั่นใจมาจากการคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ทำให้ ลิเวอร์พูล โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมที่เฉือนเอาชนะ นอริช ซิตี้ 2-1 ส่งผลให้ หงส์แดง กรุยทางเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรก ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุมบังเหียน

เดี๋ยวมาดูกันว่า คู่แข่งของ ลิเวอร์พูล ในรอบควอเตอร์ไฟนัลส์ จะเป็นทีมไหน ซึ่งจะมีการจับสลากในวันช่วงดึกของวันที่ 3 มีนาคม โดยมีทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี สองยักษ์ใหญ่ ที่ผ่านเข้ารอบมาเช่นกัน 

- อยู่ในเส้นทางภารกิจ 4 แชมป์

ยังไม่เคยมีทีมไหนในเกาะอังกฤษ ที่เคยคว้าแชมป์ได้ถึง 4 รายการในซีซั่นเดียวมาก่อน แต่ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวที่อยู่ในเส้นทาง และ มีโอกาสทำได้ในฤดูกาลนี้ หลังจากพวกเขาทำภารกิจเสร็จสิ้นไปแล้ว 1 รายการ คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครอง ในเกมที่ดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี 11-10

ส่วน เอฟเอ คัพ ก็เป็นไปตามคาด พวกเขาเปิดบ้านไล่ถล่ม นอริช ซิตี้ แบบไร้ทางสู้ ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล ยังฝันถึงการสานต่อเรื่องการคว้า 4 แชมป์ ในซีซั่น 2021-22 ได้เหมือนเดิม

เพราะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบหายใจรดต้นคอ ขณะที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็กุมความได้เปรียบไว้เยอะมาก จากการบุกไปเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ถึงแม้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่ หงส์แดง จะยืนยันว่า ยังไม่ได้โฟกัสถึงความหวัง 4 แชมป์ แต่เชื่อเถอะว่าสาวก หงส์แดง ก็แอบวาดฝันไว้เหมือนกัน ต่อให้จะดูยากเย็น แต่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้สักหน่อย

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline