logo-heading

หลังอยู่ยงคงกระพันในลีกสูงสุดมาถึง 68 ปี โดยขณะนี้มีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ 3 คะแนน

ล่าสุดการบุกไปพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 มันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างเหลือเกิน ทั้งผลงานที่แฟนบอลเอือมระอา, แท็คติคที่เปลี่ยนไปเปลี่ยรนมา หรือ เรื่องที่อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำไม ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ถึงฟอร์มหลุดลุ่ยได้เพียงนี้ ไปวิเคราะห์กันครับ

[ DNA ของกุนซือ ]

นับตั้งแต่หมดยุค เดวิด มอยส์ ขอเรียนตามตรงเลยว่า ยังไม่มีกุนซือคนไหนเคมีเข้ากับ เอฟเวอร์ตัน เลยสักนิด คนที่จะเข้าไปนั่งในใจแฟนบอล เอฟเวอร์โตเนี่ยน ได้แบบ The Chosen one ต่อให้จะมี คาร์โล อันเชล็อตติ ยอดกุนซือเข้ามาทำหน้าที่ แต่มันก็เหมือนว่าเป็นการฆ่าเวลาของ อันเช่ ไว้สำหรับพักร้อน เพื่อรอวันกลับไปสู่ทีมใหญ่

ยิ่งมีเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อ เอฟเวอร์ตัน ประกาศแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามากุมบังเหียน ช่วงต้นซีซั่น ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแฟนบอล ทอฟฟี่สีน้ำเงิน อย่างหนักหน่วง เนื่องจาก เอล บอส เป็นศิษย์เก่า ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาล และ ในวันที่ ราฟา คุมทัพ หงส์แดง นั้น เขาประกาศตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับ เอฟเวอร์ตัน มาโดยตลอด

ต่อให้แฟนบอล เอฟเวอร์โตเนี่ยน จะต้องการกุนซือมากฝีมือ เข้ามาแทน อันเชล็อตติ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องการ เบนิเตซ มาคุมทีม ต่อให้มีดีกรีเคยพา หงส์แดง คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2005 แต่ความเป็นคู่อริ มันจะไม่มีวันผสานรอยร้าวตรงนี้ ให้ลบเลือนไปจากใจได้เลย ถึงขั้นที่มีแฟนบอลแขวนป้ายไว้หน้าสนาม ก่อนมารับงานไว้ว่า  "ไปตายซะ ไอค็อปอ้วน"

ด้วยความที่ เบนิเตซ ไม่ได้ใจแฟนบอลตั้งแต่แรก บวกกับผลงานอันห่วยแตก โดย 19 นัด ที่ เอล บอส คุมทีม เก็บได้เพียง 19 คะแนน ร่วงมาอยู่อันดับ 15 เหนือโซนตกชั้นไม่มากนัก ทำให้สุดท้ายแล้ว ฟาฮัด โมชิริ เจ้าของสโมสร ไม่ขอว่ายน้ำทวนกระแสน้ำอีกแล้ว ก่อนประกาศปลดออกจากตำแหน่ง

สถานะตอนนั้น เอฟเวอร์ตัน ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น แทนที่จะไปลุ้นพื้นที่ยุโรป สโมสรจึงควรหาใครสักคน ที่มีประสบการณ์ เพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ทีมยกระดับ และ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หรือ แต่งตั้งตำนานสักคนเข้ามากอบกู้ศรัทธาของแฟนบอล ให้กลับมาพลุ่งพล่านอีกครั้ง

แต่สุดท้าย ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เลือกแต่งตั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด .. ในฐานะยอดนักเตะ เขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการลูกหนังแดน "ผู้ดี" แต่หากเป็นฐานะกุนซือ เหมือนยังไม่มีใบปริญญาที่จะมารับรองว่าเขาคือคนที่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนให้ทีมมันดีขึ้น

แลมพาร์ด เคยคุม เชลซี แต่ก็ถูกปลดออกไป เพราะผลงานแย่ ไม่เป็นไปตามที่บอร์ดบริหารต้องการ และ เขาก็ว่างเว้นจากงานกุนซือไปพักใหญ่ ก่อนจะมารับงานเฮดโค้ชอีกครั้งที่ กูดิสัน พาร์ค เรื่องแพชชั่น และ บารมีสมัยเป็นนักเตะ เขาไม่เป็นสองรองใครครับ แต่ผลงานคุมทีม อาจจะพูดได้เต็มปากว่า "ไม่ไหวจะเคลียร์"

จริงๆแล้วทรงบอลของ แลมพาร์ด ไม่ได้แย่หรอกครับ แต่มันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมากกว่า ไม่มีความสม่ำเสมอ แท็คติคเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละเกม บางคนเอาไปยืนในตำแหน่งไม่ถนัด และ อาจด้วยความไร้ประสบการณ์ในเรื่องหนีตกชั้น ผ่านมาหลายนัดยังแก้ไขอะไรไม่ได้ โดยแพ้ 7 จาก 11 เกมที่คุม และ การไปเยือนคู่แข่ง 4 นัดแรกแพ้ทั้งหมด เป็นสถิติแย่ๆที่ทำให้แฟนบอลเริ่มยี้

ตอนนี้ เอฟเวอร์ตัน หล่นมาอยู่อันดับ 17 เหนือโซนตกชั้นอย่าง วัตฟอร์ด แค่ 3 คะแนน เท่านั้น จะมีเรื่องดีก็แค่แข่งน้อยกว่าชาวบ้านเค้าอยู่ 2 นัด จากความคาดหวังของแฟนบอล ที่หวังเห็น แลมพาร์ด เข้ามาเปลี่ยนแปลง ตอนนี้กลายเป็นเสียงวิจารณ์ว่า "เอามาเพื่ออะไร ?"

นั่นแหละครับ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า บางครั้งภาพลักษณ์ และ ฝีมือ อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด แต่เป็นคนที่ใช่ คนที่มี DNA เหมาะกับทีมมากกว่า ที่จะพาให้สโมสรขับเคลื่อนไปมากกว่านี้

--------------

[ ส่อแววเป็นทีมถังแตก ]

นับตั้งแต่ ฟาฮัด โมชิริ นักธุรกิจเชื้อสายอิหร่าน เข้ามาซื้อกิจการ เป็นเจ้าของสโมสร เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงต้นปี 2016 ซึ่งการเข้ามาของเศรษฐีรายนี้ ช่วยยกระดับสโมสรให้ดีขึ้น ทั้งเคลียร์หนี้สินให้กับทีม, ปรับปรุงสนาม กูดิสัน พาร์ค ขึ้นมาใหม่ เป็นเหมือนคลังอาวุธ ที่พร้อมทำให้สโมสรไปสู้รบกับหัวแถว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ที่สำคัญการใช้เงินมหาศาลแบบโอเวอร์ เพื่อดึงนักเตะฝีเท้าดีเข้ามา อาทิ ริชาร์ลิซอน 50 ล้านปอนด์, กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน 45 ล้านปอนด์, จอร์แดน พิคฟอร์ด 30 ล้านปอนด์ หรือ ไมเคิ่ล คีน 30 ล้านปอนด์ เป็นต้น นี่แค่ลิสต์นักเตะแบบน้ำจิ้มๆ ที่ เอฟเวอร์ตัน ซื้อตัวมาเสริมทัพ เพื่อหวังท้าทายอำนาจตารางท็อปโฟร์ จากทีมยักษ์ใหญ่

แต่ด้วยการใช้เงินเกินตัว ทั้งซื้อนัก จ้างโค้ชชั้นนำ ผนึกกับผลงานที่ไม่ได้เป็นไปตามเป้า ช่วง 3 ปีหลัง ดีที่สุดคือจบอันดับ 8 ที่เหลืออันดับ 12 กับ อันดับ 10 ไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้นท็อปโฟร์ด้วยซ้ำ แถมยังจบซีซั่นด้วยเลข 2 หลักอีกต่าง

ล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานว่า เอฟเวอร์ตัน อาจโดนลงโทษตัดคะแนน จากข้อหา "ละเมิดกฎด้านความมั่นคงทางการเงิน" โดยตามกฎของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ละทีมสามารถมีตัวเลขขาดทุนภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี รวมกันได้สูงสุดที่ 105 ล้านปอนด์ ซึ่งทีมไหนทำผิด อาจโดนลงโทษ ถูกปรับเงิน หรือ ไม่ก็โดนตัดแต้ม 
 
ก่อนหน้านี้ ยังไม่ทีมไหนทำผิดกฎ จนกระทั่ง เอฟเวอร์ตัน มีตัวเลขขาดทุนรวมกันถึง 260 ล้านปอนด์ ช่วงระหว่างปี 2017-2020 จากสภาวะ โควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนัก อีกทั้ง ทอฟฟี่ บลูส์ ได้ยุติการทำงานร่วม อลิเชอร์ อุสมานอฟ ท่อน้ำเลี้ยงชาวรัสเซีย ปมความขัดแย้งจากสังครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้สโมสรสูญเสียรายได้ราว 300 ล้านปอนด์ 

ว่ากันว่า เอฟเวอร์ตัน ต้องระดมทุนเคลียร์หนี้ส่วนเกินให้หมดสิ้น จากการขายนักเตะออกจากทีม ซึ่ง 2 คนนั้น อาจจะเป็น ริชาร์ลิซอน หรือไม่ก็ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน สองตัวรุกคนสำคัญ ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันคงส่งผลกระทบต่อจิตใจไม่มากก็น้อย

----------------

[ ความผิดพลาดโดยรวม ]

หลายๆนัดที่ผลการแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน ดูไม่เป็นใจ สาเหตุก็อาจจะมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคลนี่แหละครับ ถึงแม้ฟุตบอล เวลาจะแพ้ มันต้องแพ้ด้วยกัน ชนะ ก็ชนะด้วยกัน แต่หลายๆครั้งมันก็ชัดเจนเหลือเกิน ว่าความผิดพลาดของนักเตะ มันส่งดาเมจรุนแรงด้วย "ความพ่ายแพ้"

อย่างเกมล่าสุด ที่ เอฟเวอร์ตัน แพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 ซึ่งตอนที่พวกเขาตามตีเสมอ บอกเลยว่า ทรงบอลกำลังดี โมเมนตั้มกำลังมา แต่แล้วความผิดพลาดของ ไมเคิ่ล คีน ที่ไปจ่ายตัดหลัง อเล็กซ์ อิโวบี้ จนเสียบอลกลางสนาม ก่อนโดนตัดบอล และ ถูกโต้กลับเร็ว จนทำให้ทีมเสียประตู เรียกว่ากว่าจะได้ประตูแทบตาย เสียง่ายนิดเดียว

เท่านั้นยังไม่พอ ไมเคิ่ล คีน ยังมาโดนใบเหลืองที่ 2 ชนิดที่เข้าบอลอันตราย ทำให้สถานการณ์ของทีมแย่ขึ้นไปอีก สุดท้ายพอตามหลัง 1-2 ก็แทบไม่สามารถทำเกมบุกสู้ เวสต์แฮม ได้อีกแล้ว ถังขึ้นที่มีแฟนบอลพูดว่า "เอฟเวอร์ตัน จะหายนะด้วยกองหลังชุดนี้"

ถึงแม้ เอฟเวอร์ตัน จะเสริมนักเตะมาหลายคนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค, เดเล่ อัลลี และ อันวาร์ เอล กาซี่ แต่เหมือนว่าก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ฟาน เดอ เบค เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่วน 2 คนหลัง มีชื่อเป็นตัวสำรอง เหมือนซื้อมาแล้วเกาไม่ถูกที่คัน โดย 8 นัดหลังสุด ยิงไปแค่ 4 ลูก เท่านั้น

ส่วนเกมรับที่เป็นปัญหาสำคัญของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ทำให้ต้องหล่นมาดิ้นรนหนีตกชั้น ก็เพราะเสียประตูง่ายเหลือเกิน ใครจะเชื่อล่ะว่า 5 นัดหลังสุด พวกเขาเสียไปถึง 12 ประตู

หลายๆเกมที่ เอฟเวอร์ตัน พังพินาศ จะมีแฟนบอลพูดเสมอว่า สโมสรไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าหากยังใช้กองหลังชุดนี้อยู่

ดังนั้นถ้าซีซั่นนี้พวกเขารอดจากการตกชั้นไปได้ มีงานให้ทำอีกเยอะครับ โดยเฉพาะเรื่องราวภายในรั้วสโมสร

ฮาย ฮาวดี้
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline