logo-heading

ซึ่งจากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ทัพ "ปีศาจแดง" ถูกปลุกความหวังในการจบท็อปโฟร์ เพื่อซิวตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้ดูเหมือนฝันจะสลายไปแล้วก็ตาม

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปเก็บตกประเด็นต่างๆ จากเกมนี้กันว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่น่าสนใจ ไปติดตามกันได้เลย

การจัดทัพ

เกมนี้ทางฝั่ง ราล์ฟ รังนิค มีปัญหาในการจัดทีมมากพอสมควร เนื่องด้วยปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย ไล่มาตั้งแต่ ลุค ชอว์, ราฟาเอล วาราน, เฟร็ด, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เอดินสัน คาวานี่

ทำให้โฉมหน้า 11 ตัวจริงเกมนี้คู่ปราการหลังยังคงเป็น วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ จับคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ส่วนที่เซอร์ไพรส์ไม่ใช่น้อยคือการกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้งของ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สองในซีซั่นนี้สำหรับเกมลีก แต่นัดนี้บทบาทของเขาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง จับคู่ทำงานร่วมกับ ปอล ป็อกบา

ส่วนแผนกเกมรุกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ เจดอน ซานโช่, แอนโธนี อีลังก้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส ในการคอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ผีแดง เริ่มเกมร้อนแรงกว่า

ต้องบอกว่านับตั้งแต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกมทางฝั่งเจ้าบ้านอย่างทัพ "ปีศาจแดง" ก็พยายามเปิดฉากเดินหน้าหวังทำประตูออกนำให้ได้อย่างรวดเร็ว 

จนกระทั่งมาได้ความขยันของเจ้าหนู อีลังก้า ที่วิ่งตามไปบีบจนแข้งของ นอริช นั้นเกิดข้อผิดพลาด ก่อนจ่ายให้ "พี่โด้" กระทุ้งเข้าไปตั้งแต่นาทีที่ 7 ของเกม หลังจากนั้นอีกไม่นานประตูที่ 2 ก็ตามมาจาก โรนัลโด้ คนเดิม

แน่นอนด้วยสถานการณ์ตอนนั้นแทบจะบอกได้เลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะการันตี 3 คะแนนเก็บเข้ากระเป๋าได้แบบไม่ยากเย็นนัก เพราะด้วยรูปเกม การครองบอล หรือประตูที่นำห่างอยู่ถึง 2 ลูก มันกำลังบ่งบอกในรูปแบบนั้น

แต่ทว่าจุดเปลี่ยนคงเป็นประตูตีไข่แตกของ นอริช ที่มาได้ในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก ซึ่งประตูดังกล่าวก็ต้องชื่นชมแข้งของทางฝั่งผู้มาเยือน แต่อีกอย่างก็ต้องโทษเกมรับของ ยูไนเต็ด  ที่ปล่อยให้คู่แข่งมีเวลา มีพื้นที่ในการให้ ติมู ปุ๊กกี้ เยอะเหลือเกิน แถมเกมรับที่ละหลวมก็โดนเล่นงานอีกครั้ง ทำให้ 5 เกมหลังสุดในพรีมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งกระซวกตาข่ายทุกนัด ไม่อาจเก็บคลีนชีตไว้ได้เลย 

หลังเกม แมนยูฯ เฉือนหวิว นอริช แถมเปิดโอกาสจบท็อปโฟร์ (อีกครั้ง)

พี่โด้ แฮตทริก

ถ้าจะถามหาฮีโร่ของเกมในค่ำคืนวันนี้คงไม่มีใครเฉิดฉายเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกแล้ว แม้ก่อนเกมจะมีเรื่องกวนใจมากมาย แต่ทว่าเขาเองก็สมาธิมากพอในการโฟกัสกับเกมตรงหน้า และพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นเพชรฆาต และคนสำคัญในการผลิตประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่อาจขาดหายไปได้จริงๆ

ประตูแรกได้ยิงจ่อๆ จากการจ่ายของ อีลังก้า, ตุงสองก็เป็นลูกโขกเครื่องหมายการค้าของเขา ส่วนจังหวะประตูชัยกับฟรีคิกสุดโหดที่มากดสูตรติดแบบทันท่วงทีพา "ปีศาจแดง" คว้า 3 คะแนนไปครองได้สำเร็จ

เท่ากับว่าในตอนนี้ โรนัลโด้ ทำแฮตทริกไปได้แล้ว 60 ครั้ง ตลอดอาชีพการค้าแข้ง แบ่งเป็น 50 ในนามสโมสร และอีก 10 ครั้งในนามทีมชาติ ส่วนสถิติในซีซั่นนี้ที่แม้จะโดดค่อนขอดค่อนข้างเยอะ แต่การที่กระทุ้งไปได้แล้วถึง 21 ประตู จากการลงสนามทุกรายการ 35 นัด น่าจะพอพิสูจน์ได้ว่าเขาเองยังดีพอกับฟุตบอลในระดับสูง

สุดท้ายกับจำนวนประตูที่ออกมา และผลงานที่ช่วยให้ ยูไนเต็ด คว้าชัยได้ในหลายๆ เกมนั้น มันก็พอที่จะบ่งบอกได้ว่าปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่การเข้ามาของ โรนัลโด้ แล้วทำให้ทีมเสียระบบ แต่มันขึ้นอยู่กับคนเป็นโค้ชมากกว่าที่จะใช้ดาวเตะผู้นี้ออกมาอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อทีมได้มากที่สุด 

มองจากสภาพแวดล้อมของทีมในตอนนี้ถ้า แมนยูฯ ไม่มี "พี่โด้" พวกเขาคงรักษาตัวเองประคองอยู่กลางๆ ตารางเป็นแน่แท้

เจ้าพ่อคอนเทนต์

"ไม่มีคอนเทนต์ คงไม่เรียกกัปตัน" คงเป็นคำนิยามที่ระบุตัวตนของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้อย่างชัดเจนจัดๆ ในชั่วโมงนี้ คนอะไรมีเรื่องราวให้ได้พูดถึงในทุกเกมที่ลงสนาม

แต่จะไปว่านัดล่าสุดกับ นอริช ผลงานส่วนตัวของแนวรับรายนี้ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากนัก มีจังหวะดักตัดเกมรุกของคู่แข่งอยู่บ่อยครั้ง แถมวางบอลยาวจากหลังมาหน้าแม่นยำให้เห็นอยู่หลายช็อต แต่ทว่ากับภาพรวมอาจยังไม่เนี้ยบเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ลดข้อผิดพลาดของตัวเองให้น้อยลง กับสถานการณ์ที่ วาราน ต้องเข้าโรงหมอในตอนนี้

ส่วนช็อตจังหวะดีดลูกหลังหวดเข้ากบาลของ ป็อกบา คงจะไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ โอเคแหละว่าเป็นจังหวะของฟุตบอล แต่ที่ดูเหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งก็คงจะเป็น แม็คไกวร์ นี่แหละครับ แม้ทีมจะชนะ พร้อมแฮตทริกของ โรนัลโด้ แต่จังหวะเตะหัวเพื่อนดอกนั้นกินพื้นที่สื่อ และกลายเป็นมีมที่ทั่วโลหยิบจับไปใช้เรียบร้อยแล้ว

หลังเกม แมนยูฯ เฉือนหวิว นอริช แถมเปิดโอกาสจบท็อปโฟร์ (อีกครั้ง)

โอกาสจบท็อปโฟร์

หลังดูความหวังในการจบพื้นที่ 4 อันดับแรกจะค่อยๆ หลุดลอยไปจากมือเรื่อยๆ จนทำให้อาจได้เห็น ยูไนเต็ด ในฟุตบอลถ้วยอย่าง ยูโรปา ลีก หรือ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในซีซั่นหน้า

แต่ทว่ากับหลังชัยชนะนัดล่าสุดทำให้ทัพ "ปีศาจแดง" พลิกสถานการณ์กลับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง มีแต้มตามหลังอันดับ 4 อย่าง สเปอร์ส เพียง 3 คะแนนเท่านั้น 

ซึ่งแน่นอนว่าผลพ่วงดังกล่าวก็มาจากทัพ "ไก่เดือยทอง" สะดุดแพ้ในเกมล่าสุด บวกกับ อาร์เซน่อล ที่ผลงานช่วงหลังออกทะเลไปไกลไม่ชนะมา 3 เกมติดต่อกัน ทำให้โอกาสของ แมนยูฯ ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว

นอกจากนั้นในช่วงปลายเดือนนี้ แมนยูฯ ก็จะมีโปรแกรมลงสนามดวลกับ อาร์เซน่อล ซึ่งนั้นคงไม่ต่างอะไรกับการแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์แบบกลายๆ ใครชนะคงจะได้ลุยกันต่อในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล แต่ทว่าใครพลาดท่าก็แทบจะโบกมือลา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เลย

ซึ่งนี่คงเป็นอีกฤดูกาลที่พื้นที่ท็อปโฟร์ใส่กันไฟแลบ ต่างฝ่ายต่างต้องการไปลุยบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป แน่นอนว่าภารกิจนี้ไม่ง่ายจริงๆ กับตั๋ว 1 ใบ และผู้ไล่ล่าที่มีมากถึง 3 ทีม
 

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline