logo-heading

ในวันที่ ลิเวอร์พูล เปิดถิ่นแอนฟิลด์ไล่ถล่มเพื่อนรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบราบคาบ 4-0 .. ติอาโก้ ถูกยกย่องว่าโดดเด่นเหนือใคร ทั้งการบัญชาเกม ทั้งการจ่ายบอล ทั้งการบิ๊วอัพขึ้นเกมรุก ราวกับว่าเขากำลังเต้นระบำ พร้อมร่ายเวทมนต์ยู่บนผืนฟลอร์หญ้า

คนที่ไม่มีชื่อแอสซิสต์ คนที่ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่กลับได้รับโหวตเป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ช่างบ่งบอกได้ดีเลยว่า เขาโชว์ผลงานร่างทางให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกม แดงเดือด มากขนาดไหน

ย้อนกลับไปช่วงที่ ติอาโก้ เก็บข้าวของออกจาก บาเยิร์น มิวนิค มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล .. มีผู้เชี่ยวชาญลูกหนังจากเยอรมัน ระบุถึงศักยภาพมิดฟิลด์ชาวสแปนิช ผู้นี้ไว้ว่า เขาไม่ใช่นักเตะที่ "แอสซิสต์" ให้เพื่อนยิงประตู  แต่คุณภาพและประโยชน์จากตัว ติอาโก้ ... ก็คือการ บิ๊วอัพ จากการผ่านบอลของเขา จนทำให้ทีมยิงได้หลายๆประตู

ฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกส่ง ติอาโก้ ลงสนามทันที ให้หลังเพียงแค่ 2 วัน ในการย้ายมาอยู่กับ หงส์แดง ซึ่งเป็นเกมเจอกับ เชลซี ด้วยซ้ำ แต่ คล็อปป์ เชื่อมั่นในศักยภาพว่าระดับท็อปคลาสอย่างเขา ไม่จำเป็นต้องปรับตัว

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา และ ติอาโก้ ก็เจอปัญหาอย่างหนัก ทั้งเรื่องการปรับตัว, ความเร็ว และ ความหนักหน่วง บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ซีซั่นแรกกับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้สวยงามแบบที่เขาคาดหวังไว้ ..

ติอาโก้ โดนวิจารณ์แบบจัดหนัก ไม่ว่าจะเป็น การออกบอลช้า, สไตล์ไม่เหมาะกับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ร่างกายเปราะบางเจ็บง่าย, ไหนจะมี โควิด-19 เข้ามาเป็นตัวแปรอีกอย่าง

และที่สำคัญ ติอาโก้ ถูกมองว่า "ทำให้แท็คติคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พังลง"

เพราะ เกเก้น เพรสซิ่ง ต้องเล่นด้วยความดุดัน และ กดดันใส่คู่แข่งตลอดเวลา แต่ ติอาโก้ เป็นนักเตะประเภทเล่นด้วยชั้นเชิง และใช้เทคนิคมากกว่าการเข้าปะทะ ย้อนกลับไปในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา .. ติอาโก้ เคยมีสถิติเวลาลงสนามแล้ว ทีมเก็บแต้มได้น้อย

ลงสนามตัวจริง 18 นัด
ชนะ 7
เสมอ 4 
แพ้ 7
คะแนนต่อเกม 1.38
เปอร์เซ็นต์ชนะ 38.9
เปอร์เซ็นต์แพ้ 38.9

ส่วนเวลาที่ ติอาโก้ ไม่ได้ลงสนาม 30 นัด
ชนะ 16
เสมอ 9 
แพ้ 5
คะแนนต่อเกม 1.9
เปอร์เซ็นต์ชนะ 53.3
เปอร์เซ็นต์แพ้ 16.7

โดยมีครั้งหนึ่งที่ ติอาโก้ ลงตัวจริง 5 นัด เสมอ 2 และ แพ้ 3 นัด ยิ่งโดนวิจารณ์ไปใหญ่

มันจึงหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ไม่ได้เลย โดยเฉพาะการเล่นให้เข้าระบบของ คล็อปป์ ... แต่กระนั้น หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า ติอาโก้ ต้องลงไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด เขาถอยลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกม และ ต้องทำหน้าที่เชื่อมเกมให้ทีมด้วยในเวลาเดียวกัน

ถ้าคุณเป็นเด็กใหม่ ในที่ทำงานใหม่ .. คุณจะยอมทำควบ 2 ตำแหน่งในเวลาเดียวกันไหมครับ ?

แน่นอนมันเป็นเรื่องยากมาก แต่ ติอาโก้ ไม่เคยเกี่ยงงอน เพราะขณะนั้นนักเตะ หงส์แดง บาดเจ็บเต็มทีม ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ่ หรือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นต้น ทำให้เขาต้องถอยมาต่ำกว่าปกติ

“ฟุตบอลอังกฤษ เล่นกันเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกทุ่ม, ลูกเตะมุม หรือ ลูกตั้งเตะจากหน้าประตู ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณต้องปรับตัวเข้ากับมัน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าอาจจะมีช่วงที่ได้พักหายใจบ้าง แต่เมื่อนั้นบอลก็จะเล่นกันเร็วอีกครั้ง" ติอาโก้ เล่าถึงการต้องปรับตัวในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเวลาผ่านไป 1 ซีซั่น คำครหาเกี่ยวกับตัวของ ติอาโก้ ตอนนี้ หายไปจนหมดสิ้น

จากสถิติที่คนเคยมองว่าเป็นตัวซวย แต่ตอนนี้เป็นมิดฟิลด์ที่ ลิเวอร์พูล จะขาดไปไม่ได้อีกแล้ว เวลามีเขาอยู่ในสนาม ทีมแทบจะไม่แพ้เลย โดยเฉพาะการจับคู่กับ ฟาบินโญ่ ช่างอุ่นใจเหลือเกิน

จะมีหลุดแพ้ไปแค่เกมเจอ อินเตอร์ มิลาน 0-1 เท่านั้น แต่ก็ไม่มีผล เพราะเข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ดี ที่เหลือก็ชนะรัวๆ และ มีมาเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นแหละครับ

จนกระทั่งเกม แดงเดือด เขาแสดงฝีเท้าให้เห็นว่า ทำไม ติอาโก้ ถึงสำคัญนักสำคัญหนาในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์

โดดเด่นทั้งเกมรุก, การจ่ายบอล และ การช่วยตัดเกม แบ่งเบาภาระเพื่อนๆ

"ติอาโก้ คือนักเตะที่ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ?" คล็อปป์ ตั้งคำถามกลับไปยังนักข่าว เมื่อให้พูดถึงลูกนี้รายนี้ พร้อมบอกต่อว่า "พวกเราต้องประคบประหงมรักษาความฟิตของเขาเอาไว้ นักเตะแบบนี้ไม่ได้มี 5 ล้านคนบนโลกหรอกนะ มันมีไม่กี่คนหรอก ที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆก่อนคนอื่นๆ และ น้อยลงไปอีกที่จะหาคนที่สามารถส่งบอลไปยังจุดที่ต้องการ"

สิ่งที่ ติอาโก้ ร่ายเวทมนต์ ไม่ใช่แค่คำยกย่องจากปากของ คล็อปป์ เท่านั้น แต่โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค ทั่วโลก ต่างเขียนบรรยายชื่นชมฝีเท้านักเตะรายนี้กันแบบไม่ขาดสาย มันเป็นสิ่งที่สาวก เดอะ ค็อป ก็เฝ้ารอมาตลอด ว่าเมื่อไหร่ที่ขุมกำลัง หงส์แดง ฟิตเต็มสูบ และ ติอาโก้ ปรับตัวเข้ากับทีมได้แล้ว .. เมื่อนั้น ออร่า จะเปล่งประกายรอบตัวเขา

ตอนนี้ ติอาโก้ ไม่มีอาการบาดเจ็บให้เห็นอีกแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาร้องไห้อยู่ข้างสนาม จากการที่ไม่ได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี

ตอนนี้ ติอาโก้ ร่างกายฟิตสมบูรณ์พร้อมมากที่สุด นับตั้งแต่ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อซีซั่นก่อน

ตอนนี้ ติอาโก้ กำลังโชว์ฟอร์มฟอร์มร่างทองให้เห็นว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงยอมแหกกฎเรื่องไม่ซื้อซูเปอร์สตาร์ และ นักเตะที่วัย 30 เข้าร่วมทีม ซึ่งเขาจะเป็นอีกตัวแปรคนสำคัญว่า หงส์แดง จะคว้า 4 แชมป์ได้หรือไม่ !

บางครั้ง คนที่ใช่ ก็มาในรูปแบบของ "เวลา" เพราะยิ่งคุณดู ติอาโก้ คุณก็ยิ่ง "หลงรัก" 

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline