ลุ้นแชมป์ต่อ! หลังเกม หงส์แดง เอาอยู่ บู๊คว้า 3 แต้มเหนือ วิลล่า

ทำให้สถานการณ์ ณ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ได้ทำคะแนนไปเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ ที่จำนวน 86 คะแนน แต่ทว่าลงสนามมากว่าอยู่ 1 เกม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยโปรแกรมที่ยังเหลืออยู่ทำให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงมีโอกาสเบียดเข้าป้ายได้ทุกเมื่อ

ซึ่งจากเกมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาก็มีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยหยิบจับเหตุการณ์เด่นๆ มาพูดถึงกัน จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

หงส์แดง โรเตชั่น

อย่างที่เรารู้กันว่า ลิเวอร์พูล ลงเล่นแทบจะทุกๆ 3 วัน ต่อ 1 เกม ไม่แปลกที่นักเตะที่เกิดอาการอ่อนล้า ฉะนั้นแล้วเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยจัดการโรเตชั่นนักเตะในบางตำแหน่งเพื่อให้เกิดความสดใหม่มากที่สุด

แนวรับจัดการพัก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และส่ง คอสตาส ซิมิคาส ลงประจำการในบทบาทแบ็คซ้ายแทน ส่วน โจแอล มาติป กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนแดนกลาง เคอร์ติส โจนส์ ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง เล่นร่วมกับ ฟาบินโญ่ และ นาบี เกอิต้า

ส่วนเกมรุกน่าจะขัดใจใครหลายคนไม่ใช่น้อย นอกจากแฟนๆ "หงส์แดง" แล้ว ยังรวมไปถึงเหล่าคอแฟนตาซี ฟุตบอล ที่ คล็อปป์ เลือกที่จะดร็อป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น และใช้ 3 ประสาน โชต้า, มาเน่ และ ดิอ๊าซ

ส่วนทางฝั่งทัพ "สิงห์ผงาด" ของ เจอร์ราร์ด ก็จัดเต็มเลือกชุดที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ได้พักมาจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เล่นร่วมกับ 2 กองหน้าอย่าง โอลลี่ วัตกินน์ และ แดนนี่ อิงค์

ประตูขึ้นนำของ วิลล่า

กลายเป็นประตูที่ถูกถกเถียงไม่น้อยสำหรับการขึ้นนำตั้งแต่ช่วง 3 นาทีแรกของ แอสตัน วิลล่า เนื่องด้วยจากจังหวะต่อเนื่องที่มีผู้เล่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ทว่าไลน์แมนดันไม่ยอมยกธง และปล่อยให้เล่นต่อเนื่อง ซึ่ง ณ จุดเกิดเหตุตรงนั้นไม่ได้เป็นประตู แต่ทว่าจากจังหวะต่อเนื่องอีกราวๆ ไม่เกิน 30 วินาที วิลล่า ก็มาขึ้นนำจนได้

ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากพอสมควร เนื่องด้วยจากจังหวะแรกบอลยาวของ วิลล่า ที่ วัตกินน์ เก็บบอลไปเล่นนั้นเหมือนจะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่พอไลน์แมนไม่ยกธง แถมจังหวะต่อเนื่องดันเป็นประตู ก็ควรจะเช็ก VAR ย้อนหลังหรือไม่

ซึ่งในกรณีนี้มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วก่อนหน้านี้ที่ VAR จะเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบจังหวะก่อนหน้าได้ประตูว่าใสสะอาดไหม มีเหตุฟาวล์ หรือล้ำหน้า หรือเปล่า แต่กับกรณีนี้ไม่ได้มีทั้งการยกธงจากไลน์แมน และไม่มีทั้งการเช็ก VAR แต่อย่างใด

อาการบาดเจ็บของ ฟาบินโญ่

เชื่อว่าน่าจะเป็นภาพที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยอยากให้เกิดขึ้นเท่าไหร่นักกับอาการบาดเจ็บของ ฟาบินโญ่ ซึ่งเจ้าตัวลงไปนอนกองกับพื้นในช่วงนาทีที่ 30 ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามทันที

ซึ่งสิ่งที่ต้องมาลุ้นกันคือดาวเตะทีมชาติบราซิลจะเจ็บหนักขนาดไหน เพราะอย่างที่รู้กันว่าทุกเกมของ ลิเวอร์พูล หลังจากนี้สำคัญทั้งหมด 

และสุดสัปดาห์นี้ก็มีเกมชิงดำกับ เชลซี ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ รออยู่อีก ซึ่งเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ก็ต้องมารอลุ้นกันว่า ฟาบินโญ่ จะหายทันกลับมาเฝ้าแผงแดนกลางให้ทีมได้หรือไม่

การแก้เกมของ คล็อปป์

เป็นอีกเกมที่ คล็อปป์ ทำการแก้เกมได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาคว้า 3 คะแนนได้อีกครั้งได้อย่างน่าเชยชม จุดแรกที่เขาปรับเปลี่ยนคือการโยก ดิอ๊าซ ไปยืนทางฝั่งซ้ายข้างถนัด ซึ่งนั้นแหละทำให้พิษสงของดาวเตะรายนี้ถูกคายออกมา พร้อมปั่นป่วนเกมรับคู่แข่งได้อย่างสุดสะเด่าดีแท้

จากนั้นคือการส่ง ติอาโก้ อัลกันทาร่า มาช่วยคุมเกมแดนกลาง พร้อมคุมจังหวะของเกม แถมหวังพึ่งพาช็อตการจ่ายบอลแบบเวิลด์คลาสจากชายผู้นี้

โดยรวม 45 นาทีหลังกลายเป็นทัพ "หงส์แดง" ที่ครองเกมได้มากกว่า พยายามเปิดเกมรุกหวังสอยประตูให้ได้ ก่อนมาประสบความสำเร็จจากลูกโขกของ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งคนที่เปิดมาให้ก็คือเจ้า ดิอ๊าซ นี่แหละ ที่เข้ามามีส่วนร่วม และสร้างความแตกต่างในเกมได้อีกครั้ง

ทำให้เกมนี้การสลับปรับเปลี่ยนนักเตะของ คล็อปป์ นั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี การเก็บ 3 คะแนนได้ก่อน แมนฯ ซิตี้ ย่อมเป็นผลดี เพราะอย่างน้อยก็ได้ลุ้นกดดันคู่แข่งต่อไป ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น

การลุ้นแชมป์

ผ่านมาถึงตรงนี้ ลิเวอร์พูล ลงสนามไปแล้ว 36 นัด เก็บไป 86 คะแนน เทียบเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ แต่ทว่าลงแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 เกม ซึ่งทัพ "เรือใบสีฟ้า" จะลงเล่นในคืนนี้ด้วยการบุกไปเยือน วูลฟ์แฮมป์ตัน 

ส่วนโปรแกรม 2 นัดสุดท้ายของ "หงส์แดง" ในเกมลีกคือการบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน และกลับไปเล่นในถิ่นแอนฟิลด์นัดสุดท้ายกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน สลับมาดูโปรแกมของ แมนฯ ซิตี้ กันหน่อย ผ่านพ้นคืนนี้ไปลูกทีมของ เป๊ป จะเหลือโปรแกรมพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (ย) และ แอสตัน วิลล่า (ห) 

บอกเลยว่า ณ จุดนี้ไม่ได้มีใครงานง่าย หรือยาก แตกต่างกัน และเชื่อว่านี่คงจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้สู้กันจนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย

- Paolinho -