logo-heading

ซึ่งจะว่าไปนี่คือซีซั่นที่เหมือนทัพ "ปีศาจแดง" ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก จนกระทั่งถึงเม็ดสุดท้าย พยายามแก้ไขแล้วแต่กลายเป็นว่ามันยุ่งเหยิงมากกว่าเดิม จนต้องรื้อทั้งหมด และใช่คำว่าเริ่มต้นใหม่ (อีกครั้ง)

ว่าแล้วสิ่งที่ ขอบสนาม ของเราอยากจะนำเสนอในวันนี้คือความผิดของที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อขึ้นในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

 

ตลาดนักเตะ

ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ 2021 ต้องบอกว่าเป็นตลาดที่หวือหวาไม่ใช่น้อยสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และดูเหมือนจะเป็นการซื้อนักเตะที่ตรงใจกับแฟนบอลไม่ใช่น้อย เริ่มตั้งแต่ได้ เจดอน ซานโช่ มาลากเลื้อยริ้มเส้น รวมไปถึง ราฟาเอล วาราน มาช่วยไขก็อกหลังบ้านให้แน่นหนาขึ้น รวมไปถึงปิดท้ายกับโคตรดีลอย่างการได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง

มองภาพรวมแม้จะเป็นเพียง 3 คน เท่านั้น แต่เป็น 3 บิ๊กดีลที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และสามารถช่วงยกระดับของทีมขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่ทว่าถ้ามองให้ลึกลงไปดูเหมือนปัญหาที่ทีมยังไม่ได้แก้ไข และเป็นจุดที่พูดกันอย่างมายาวนานคือเรื่องของมิดฟิลด์ตัวรับที่หลายปากต่างมองเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าการที่ทีมมีเพียง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด นั้น มันไม่เพียงพอต่อการเบียดลุ้นแชมป์แน่ๆ

ซึ่งภาพที่ปรากฎขึ้นมันก็เป็นจริงอย่างที่เราได้เห็นกันว่าแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ปวกเปียกมากที่สุดในรอบ 10 ปีของสโมสรเลยก็ว่าได้ มันเลยเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทีมยังไม่ได้แก้ไข และลงมือเปลี่ยนแปลงเสียที

หรือจะเป็นเรื่องของแผนกเกมรุกที่เชื่อว่าหลายคนเริ่มมองเห็นปัญหา โอเคแหละครับว่าการเข้ามาของ โรนัลโด้ ช่วยให้ทีมผลิตประตูได้มากขึ้น แต่ทว่าถ้ามองไปที่เพื่อนๆ รอบข้างแถมไม่มีใครที่สามารถหวังพึ่งพาได้เลยสักคน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ผลงานหลุดทะเลจนต้องปล่อยออกจากทีม, เมสัน กรีนวู้ด ก็มีเรื่องฉาวนอกสนาม, มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยิ่งเล่นยิ่งแสดงความน่าผิดหวังออกมา หรือ เอดินสัน คาวานี่ ที่ฤดูกาลมีอาการบาดเจ็บเข้าโรงหมอ มากกว่าอยู่ในสนามเสียอีก

ฉะนั้นแล้วการฝ่าทางตันตรงนี้คือควรซื้อแข้งรายใหม่เข้าสู่ทีมตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ทว่าทีมกลับปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปทู่ซี้ใช้ทรัพยากรที่มีไปแบบนัดๆ ไป ไม่แปลกเลยที่สถิติจะบ่งบอกว่าตั้งแต่ขึ้นปี 2022 มา โรนัลโด้ คือผู้เล่นที่ทำประตูแทบจะ 100% ให้กับทีม

แม้การออกสตาร์ทตลาดนักเตะซีซั่นนี้อาจจะดูดี ชวนให้แฟนบอลหลงใหล แต่มันกลายเป็นภาพลวงตาที่ต้องยอมรับว่าองค์ประกอบทุกอย่างมันยังไม่ครบถ้วน รอยรั่วที่มียังไม่ถูกอุดไว้จนหมด ทำให้กลายเป็นปัญหาหนักใจสำหรับกุนซือคนต่อไปอย่างแน่นอน

รวมความผิดพลาดของ แมนยูฯ ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

การแต่งตั้งแต่ ราล์ฟ รังนิค 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวแล้วการที่ทีมเลือกปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกจากตำแหน่งนั้นคือวิถีทางที่ถูกต้องแล้ว เพราะด้วยสถานการณ์ และผลงานของทีมในห้วงนั้นมันไม่สามารถไปต่อได้แล้วจริงๆ ทั้งการพ่ายแบบหมดรูปต่อ ลิเวอร์พูล หรือการโดน วัตฟอร์ด ถลุงเละแบบบอลคนละชั้น

แต่ทว่าก็เป็นอีกครั้งที่ช่วงเวลาของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับกุนซือฝีมือดีๆ ในตลาดนั้นไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนัก ทำให้สรุปสุดท้ายกลายเป็นว่าต้องไปดึง ราล์ฟ รังนิค เข้ามาแท่นแบบขัดตาทัพ ทั้งที่จะว่าไปตามโปรไฟล์ของกุนซือรายนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมมากเท่าไหร่นัก ความสำเร็จที่พอเชิดหน้าคือการพา ชาลเก้ 04 คว้าแชมป์เดแอฟเบ โพคาล เมื่อปี 2011 เท่านั้น

แม้จะถูกขนานนามว่าเป็นต้นตำรับสำหรับการเพลสซิ่ง พ่วงด้วยเป็นอาจารย์ของคนนั้นคนนี้ แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฎคือเราไม่ได้เห็น แมนฯ ยูไนเต็ด ในรูปแบบที่ถูกอวดอ้างสรรพนามเลยสักนิดเดียว

การเพลสซิ่งที่เห็นมากที่คือเกมเดียวในวันเปิดตัวของ รังนิค ที่เฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ ส่วนหลังจากนั้นไม่ได้เห็นผ่านลูกตาอีกเลย ฉะนั้นแล้วนี่จึงเป็นการเดินหมากที่ผิดพลาดอีกครั้งของบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เลือกเปลี่ยนแปลงผิดเวลา และเลือกคนที่ว่ามาขัดตาทัพได้แหวกแนวเป็นอย่างมาก

พลาดตัว คอนเต้ 

สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวอย่างที่กล่าวไปว่าช่วงเวลาที่บอร์ดบริหารทัพ "ปีศาจแดง" เลือกจะปลด โซลชา  ออกจากตำแหน่งนั้นมันดูจะช้าไปหน่อย เพราะมันกลายเป็นว่าทำให้พวกเขาต้องพลาดกุนซือฝีมือดีอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ไปให้กับคู่แข่งอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เสียอย่างงั้น ทั้งที่มีข่าวด้วยกันมาเนิ่นนาน

และสาเหตุที่ สเปอร์ส สั่งปลด นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ออกจากตำแหน่งก็เป็นเพราะพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด นี่แหละ กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้โบกมือลากันก่อนมือไวไปฉก คอนเต้ มานั่งแท่นกุนซือ

ซึ่งนั้นทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่แตกต่างของทั้งคู่ แมนฯ ยูไนเต็ด จากวันนั้นก็กระท่อนกระแท่นหลุดเสมอบ้าง หลุดแพ้บ้าง จนกระทั่งหลุดพื้นที่ท็อปโฟร์ และทำตั๋วไปลุยศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าหลุดมือไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย พร้อมผลงานโดยรวมที่ปวกเปียกเป็นอย่างมาก บางเกมต้องยอมรับเลยว่าเสียสายตาที่ต้องทนดู สงสารแฟนบอลที่ตามไปเชียร์ถึงสนามอย่างในเกมล่าสุดที่บุกไปพ่าย ไบร์ทตัน ชนิดที่เรียกได้ว่าหมดรูป และหมดสภาพ

สวนทางกับ สเปอร์ส การได้ คอนเต้ เข้ามากลับเป็นการปลุกวิญญาณเพชฌฆาต แฮร์รี่ เคน ให้กระหน่ำยิง รวมไปถึง ซน ฮึง-มิน ที่คั่วลุ้นดาวซัลโวอยู่ในตอนนี้ รวมไปถึงการเสริมทัพที่ได้ทั้ง โรดริโก้ เบนตันกูร์ และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่กลายเป็นหนึ่งในดีลยอดเยี่ยมของซีซั่นไปแล้วในการผลิกโฉมของทีมให้กลายเป็นทีมที่เล่นสนุก และได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการ และยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นไปลุยศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าอีกด้วย

รวมความผิดพลาดของ แมนยูฯ ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

ความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์แบบ

บทสรุปทุกอย่างในฤดุกาล 2021-22 คือการล้มเหลวในทุกแง่มุม, ล้มเหลวทั้งเรื่องการจัดการตั้งแต่บอร์ดบริหารที่ในยามที่ผลงานของสโมสรกำลังดำดิ่ง พร้อมเสียงวิจารณ์อย่างถาโถมมากมาย แต่เหล่าท่านทั้งหลายยังคงคิดแผนการต่อเติมสนามเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า ไม่แปลกที่แฟนบอลจะตามด่าเช้า ด่าเย็นจนถึงทุกวันนี้

ล้มเหลวต่อมาคือการเดินหมากซื้อนักเตะที่ยังเกาไม่ถูกที่คันทั้งหมด ยังมีบาดแผลอีกหลายอย่างที่ต้องให้ เอริค เทน ฮาก ตามเช็ด รวมไปถึงความผิดหวังในการสรรหาเลือกกุนซือเข้าสู่ทีม ด้วยความเคารพต่อฝีมือของ รังนิค ไม่ได้บอกว่าเขาไม่เก่ง แต่มันคงจะดีกว่าถ้าได้ขึ้นไปนั่งแท่นเป็นฝ่ายบริหาร มากกว่าจะลงมาคุมทีมด้วยตัวเอง

ปิดท้ายด้วยความน่าผิดหวังมากที่สุดคือผลงานของทีม นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือ นี่คือฤดูกาลที่ใช้คำว่าล้มเหลวมากที่สุดได้เลย ทั้งเรื่องของผลงานในสนาม และการเก็บคะแนนที่บ่งชี้ชัดเจนว่าย่ำแย่ ถ้าคุณบอกว่ายุคของ เดวิด มอยส์ ยิ่งกว่านี้ แต่ยังไงเสียคะแนนบนตารางของพรีเมียร์ลีกก็เป็นตัวการันตีชัดเจน ย่อมไม่โกหกว่า ยูไนเต็ด เวอร์ชั่น 2021-22 ล้มเหลวเป็นอย่างมาก

การที่ทีมแพ้ ลิเวอร์พูล ไป-กลับ 9-0, แพ้ วัตฟอร์ด 4-1 หรือ โดน ไบร์ทตัน ไล่ยำ 4-0 ใช่ครับว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน จนกลายเป็นความเคยชินกับความพ่ายแพ้ไปเสียแล้ว

ฉะนั้นแล้วกับอีก 1 เกมสุดท้ายที่เหลืออยู่ในซีซั่นนี้ ไม่ว่าจะพาตัวเองไปจบที่อันดับเท่าไหร่ของตาราง แต่คำนิยามสั้นๆ สำหรับฤดูกาลนี้สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือ ...

"ความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์แบบ"

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline