logo-heading

ทั้งๆที่ผลงานและฝีเท้าของ พี่โด้ มีศักดิ์และสิทธิ์ ที่จะสามารถอวดอ้างสรรพคุณให้ใครๆฟังก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น

- ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ที่มีการจดบันทึกของ ฟีฟ่า
- ดาวซัวโวสูงสุดตลอดกาล ในนามทีมชาติ
- ดาวซัวโวสูงสุดตลอดกาล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

หรือ การคว้าแชมป์มาครองแบบนับไม่ถ้วน ทั้งกับสโมสร และ รางวัลส่วนตัว เป็นต้น ซึ่งยังมีอีกหลายโทรฟี่ที่ไม่ได้กล่าวถึง แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ โรนัลโด้ บอกว่ากูเป็นรุ่นพ่อมึง เอาง่ายๆว่าฝีเท้าและประสบการณ์ เหนือกว่าใครๆในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ไม่เคยแสดงออกว่าโอ้อวดเลยครับ เพราะในสายตา และ ความมุ่งมั่นของเขา ยังคงหิวกระหายความสำเร็จ พร้อมจะเรียนรู้ พัฒนาร่วมไปกับทีมอยู่เสมอ

วันที่ โรนัลโด้ กลับมาสู่อ้อมอกแมนฯ ยูไนเต็ด เขาไม่ได้ย้ายมาเพื่อพาสโมสรกลับไปอยู่ในจุดที่ควรอยู่ ไม่ได้ย้ายมาแค่ต้องการพาสโมสรกลับไปเชยชมถ้วยแห่งความสำเร็จ เท่านั้น เขายังคงยิงประตูเป็นกอบเป็นกำเหมือนเดิม ขนาดทีมย่ำแย่ ก็ยังกดไป 24 ประตู รวมทุกรายการ ลบข้อครหาว่าเป็นชายวัย 37 ปี ที่หมดไฟ เล่นบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ได้ ออกไปจนหมดสิ้น

เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็น เดอะ แบก ในการซัลโวอย่างเดียว เขาเหมือนควบบทบาทเป็น "พี่เลี้ยง" ไปในตัวด้วย โดยใช้ประสบการณ์ตลอด 21 ปี บนเส้นทางลูกหนังอาชีพ มาคอยแนะนำ คอยสั่งสอน คอยเป็นติวเตอร์วิชาลูกหนังให้กับนักเตะ และ เหล่าดาวรุ่ง ปีศาจแดง ไว้พัฒนาฝีเท้าช่วนสโมสรอยู่ตลอด แบบไม่มีกั๊กวิชา

เคสตัวอย่างล่าสุด ที่ โรนัลโด้ ทำให้เห็นว่าไม่มีรุ่น "พ่อมึง" นั่นก็คือ ราล์ฟ รังนิค ให้บรรดาดาวรุ่งหลายๆคน ได้ขึ้นมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ และ ให้โอกาสลงสนามในช่วง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ท้ายซีซั่น

พี่โด้ ไม่มีวางท่า ไม่มีแอคอาร์ตว่า กูรุ่นใหญ่ ดั่่งเช่นคลิปที่ เขากำลังวิ่งฝึกซ้อมพูดคุยไปกับ ชาร์ลี ซาเวจ ลูกชายสุดที่รักของ ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แบบเป็นกันเอง พร้อมกับมีทำท่าทาง เหมือนสอนวิชาลูกหนังอะไรสักอย่าง

ทำเอา ชาร์ลี เก็บอาการดีใจไม่อยู่ เพราะ โรนัลโด้ คือหนึ่งในไอดอลของเขา ถึงขั้นเอารูปคู่กับซูเปอร์สตาร์รายนี้ ไปโพสต์ใน ทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "พร้อมเรียนรู้จากพี่ตลอดเวลา"

ส่วนทางคุณพ่อ ก็เก็บอาการไม่อยู่ครับ เพราะ โรนัลโด้ ไม่ถือตัวขนาดนี้ แถมยังพูดคุยกับลูกชายแบบไม่ถือตัว แต่ก็แอบมีเล่นมุก ด้วยการโพสต์แซวรูป ชาร์ลี ที่ฝึกซ้อมคู่ โรนัลโด้ ไว้ว่า "นี่ โรนัลโด้ ไปฟ้องลูกชายผมหรือเปล่า ว่าตอนที่ผมเป็นนักเตะ มักไล่เตะเขาเป็นประจำ"

แน่นอน ชาร์ลี ซาเวจ ไม่ใช่นักเตะคนแรก ที่ โรนัลโด้ รับบทเป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่คอยให้คำแนะนำดีๆ เพราะคงมีดาวรุ่งอีกหลายคน ที่ก็คงได้รับวิชาลูกหนังจากเขาไม่มากมายก็น้อย

ตัวอย่างที่ชัดเจนมากสุดก็คือ แอนโธนี่ เอลังก้า แนวรุกอนาคตไกลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับโอกาสลงสนามอยู่บ่อยๆ ก็ให้เครดิตกับ ซีอาร์ 7 ว่า เป็นหนึ่งในนักเตะที่ช่วยสอนสั่งขัดเกลา ให้ฝีเท้าตนเองพัฒนาแบบก้าวกระโดด 

"ผมเติบโตมาในยุคที่ แมนฯ ยูไนเต็ด รุ่งเรืองสุดๆ ดังนั้นนักเตะโปรดคือ เวย์น รูนี่ย์ แล้วแน่นอนอีกคนก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งผมได้พูดคุยกับ พี่โด้ เป็นประจำตอนที่เราฝึกซ้อมร่วมกัน ซึ่งพี่แกใจดีมากครับ ไม่มีหวงวิชาเลยสักนิด แถมยังคอยแนะนำสิ่งต่างๆอยู่เสมอ .. การที่เราเติบโตขึ้น จากการดู พี่โด้ โชว์ลีลาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้ววันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสเล่นร่วมกัน พี่โด้ มันนับเป็นความรู้สึกอันน่ามหัศจรรย์มากเหลือเกิน"

คำแนะนำของ โรนัลโด้ ช่วยให้ เอลังก้า ได้ลงเป็นตัวจริง เหนือทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจสซี่ ลินการ์ด ด้วยซ้ำ การได้ลงเล่น 20 นัด บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับยิงอีก 2 ประตู มันถือเป็นการผลิดอกออกผลที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง หรือ คอยแนะนำสิ่งต่างๆให้กับพวกดาวรุ่ง ในตอนย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นนะครัย เขายังเป็นสายคอยเติมกำลังใจให้กับน้องๆที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญด้วย 

ซึ่งเรื่องนี้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนติน่า ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงไม่มีวันลืมแน่นอน เพราะเกมที่ พี่โด้ กดแฮตทริค พาทัพ ปีศาจแดง เฉือนเอาชนะ นอริช ซิตี้ 3-2 แบบสุดมันส์ เขาได้มอบฟุตบอลที่ซัดคู่แข่งไปให้กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เก็บกลับบ้านไปเป็นของขวัญ

การ์นาโช่ ซึ่งเป็นดาวที่รอวันเจิดจรัส ได้ไปโพสต์ขอบคุณไว้ว่า

"Greatest of all times…🐐🔥  @cristiano" (โรนัลโด้ ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล)

โรนัลโด้ ไม่ใช่เพิ่งมาทำ เขาทำมาตั้งแต่นานนมแล้ว สมัยยังอยู่ ยูเวนตุส ทั้ง อาร์ตูร์ เมโล่ และ มอยเซ่ คีน ก็เปิดเผยว่าพวกเขาได้รับคำแนะนำดีๆจาก ซีอาร์ 7 อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวทางการเล่น หรือ อาหารการกิน เขามักจะคอยชี้แนวทางให้กับน้องๆอยู่เสมอ ว่าพร้อมเป็นผู้ให้ แม้แต่แฟนบอลเขาก็ไม่เคยถือตัวใดๆ ขนาดคนที่แอบลงมาสนาม ก็ยังมีมุมยอมให้ถ่ายเซลฟี่

เพราะวันใดที่เขาต้องแขวนสตั๊ด หรือ มีอันต้องลาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยกฎของเวลาที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยง แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ทิ้ง DNA เรื่องความพยายามให้กลายเป็นที่ยอมรับ / เรื่องความมุ่งมั่น และ การส่งมอบความรู้สึกให้กับผู้รับว่า มันมีค่ามากเพียงใด

พี่โด้ ไม่ต้องป่าวประกาศใดๆทั้งสิ้น เกี่ยวกับการเป็น รุ่นพี่ หรือ รุ่นพ่อ ที่ดี เพราะน้องๆในทีมมักจะยกย่องด้วยตัวของพวกเขาเอง ..

ไม่ต้องไปยิ่งใหญ่เหนือใคร ให้น้องๆได้เติบโต และ เดินข้างหน้าไปพร้อมๆกัน เพราะไม่ว่าจะหน้าใหม่ หรือ หน้าเก่า แต่คนที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือ “ทีม”

นี่แหละครับคือผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ นอกจากจะเก่งกาจแบบไม่มีที่ติ ก็ยังทำให้คนในวงการก้าวหน้าไปด้วยกัน วันก่อน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยเป็นอย่างไร มาวันนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline