Top 10 ดีลดัง ไม่ปัง แถมแป๊ก!

10. ดาโยต์ อูปาเมกาโน่

แม้จะได้แชมป์ลีกกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ถ้าเทียบกับดีกรีก่อนมา พร้อมกับความคาดหวังที่ได้รับแล้ว ก็ยังถือว่าเซ็นเตอร์แบ็คชาวฝรั่งเศสคนนี้ ยังสอบตกพอสมควร หลังในฤดูกาลก่อนหน้า สร้างชื่อกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฐานะหนึ่งในกองหลังที่มีแววรุ่งที่สุดใน บุนเดสลีกา

แต่ทว่าหลังย้ายเข้ารังเสือใต้ เขากับโชว์ฟอร์มรั่วให้เห็นบ่อยครั้งอย่างไม่คาดคิด เรียกได้ว่าขาดความสม่ำเสมออย่างชัดเจน และต้องบอกว่ากับจำนวนเงิน 42 ล้านยูโรที่พวกเขาซื้อมาทดแทน ดาวิด อบาลา ก็ต้องบอกว่ายังไม่ปังครับ สำหรับ อูปาเมกาโน่ กับ บาเยิร์น มิวนิค

9. จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม

พกพาดีกรีมาด้วยกองกลางระดับแชมป์ UCL และพรีเมียร์ลีก สั่งสมประสบการณ์มามากมาย พร้อมกับยังมีฟอร์มที่ดีกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ใครเห็นตอนนั้นก็คาดว่า เปแอสเช น่าจะได้ของดี อีกคีย์หลักในกองกลางไปใช้งานแล้ว

แต่กลับไม่ใช่ยังงั้นเลยครับ ไวจ์นัลดุม กับกลายเป็นอีกนักเตะที่ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แล้วดร็อปลง เขาไม่สามารถเป็นส่วนสำคัญของทีมได้ได้เลย 

เกม ลีกเอิง ซีซั่นล่าสุด ได้ออกสตาร์ทเพียง 18 นัดจากเต็มๆ 38 เกม ส่วนเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เขาก็ไม่ได้ลงสนามอีกเลย และยังถูกสื่อฝรั่งเศสบางเจ้า ยกให้เป็นการเซ็นสัญญาผู้เล่นกองกลางที่น่าผิดหวังที่สุดในฤดูกาลนี้ของ ลีกเอิง เลยล่ะครับ

8. ซาอูล ญีเกซ

เขาถือเป็นนักเตะย้ายทีมแบบยืมตัวที่ดูมีโปรไฟล์สูงที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่พึ่งจบไป แต่ใช่ครับไม่ต่างจากไวจ์นัลดุม ซาอูล แทบไม่สามารถสร้างอิมแพ็คท์ใดๆ และไม่ได้ดูมีโอกาสจะแย่งตัวจริงในทีม เชลซี ได้ด้วยซ้ำ

เจ้าตัวได้ออกสตาร์ทเกมลีกเพียงแค่ 5 นัด พร้อมกับมีผลงานที่ดีแบบนับจำนวนนัดได้เลย ทำให้เราแทบจะลืมไปแล้ว ว่า ซาอูล เคยเป็นถึงหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีศักยภาพ-มีแววดีที่สุดคนหนึ่งใน ลาลีกา  

จากนักเตะที่ แอตฯ มาดริด ไม่มีทางขาย มาวันนี้ขนาดยอมปล่อยยืมตัว แต่ก็ดูเหมือนด้วยฟอร์มการเล่นแล้ว จะไม่ได้ทำให้ ซาอูล กลับมามีมูลค่าใกล้เคียงดังเดิมได้เลยครับ

7. เดเล่ อัลลี

ทุกคนต่างตื่นเต้น หลังจากได้เห็น อัลลี่ ย้ายออกจาก สเปอร์ส ไปร่วมทัพ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวแบบเงื่อนไขตามการลงสนามและผลงาน ซึ่งอาจสูงขึ้นไปแตะหลัก 40 ล้านปอนด์ได้เลย แต่ก็นั่นแหละครับ ยังไงแล้วค่าตัวของเขา ก็ไม่มีทางใกล้เคียงกับจุดนั้น

เพราะหลังจากย้ายมาในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค พี่แกก็ยังได้ลงสนามน้อยนิดกระจิดริดเช่นเดิม กับการออกสตาร์ทใน พรีเมียร์ลีก เพียงเกมเดียว พร้อมกับผลงานที่ไม่เป็นรูปไม่เป็นร่าง จากที่ทุกคนคาดหวังว่าเขาจะกลับมา แต่กลายเป็ยเหมือนว่าตอนนี้ อัลลี่ จะไม่สามารถกลับมาเป็นกองกลางจอมยิงแบบเก่าได้อีกต่อไปแล้ว …

6. อองตวน กรีซมันน์

อีกนักเตะที่ไม่สามารถคืนร่างเก่งได้ เพราะหลังจากสร้างชื่อกลายเป็นแนวรุกที่เกรียงไกรของ แอตเลติโก มาดริด ในยุค 2014 - 2019 กรีซมันน์ ก็ได้ย้ายออกไปอยู่กับคู่แข่งร่วมลีกอย่าง บาร์เซโลน่า แต่กลับไม่ได้พกฟอร์มเก่งออกไปด้วยอีกเลย

จนถูก บาร์ซ่า ปล่อยตัวกลับมา ตราหมี ด้วยสัญญายืมตัวพ่วงบังคับซื้อขาด 40 ล้านยูโร แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สามารถกลับเค้นร่างเก่ากลับคืนมาได้ และอาจไม่มีโอกาสอีกแล้ว หลังกำลังมีวัย 31 ปีแล้ว โดยในฤดูกาลนี้เขาลงสนามไป 39 นัด ทำได้เพียง 8 ประตู เรียกว่าได้ดร็อปลงจนน่าใจหาย และแน่นอนยังไงก็แป๊กครับสำหรับดีลนี้

5. เจดอน ซานโช่

ย้อนไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาคือนักเตะที่แฟน แมนยู เฝ้ารอและอยากได้ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยดีกรีดาวรุ่งที่มีผลงานระดับชั้นเก๋า ด้วยการทั้งยิงทั้งจ่ายเป็น 10 ลูก ตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุดกับ ดอร์ทมุนด์

พร้อมยังมีสัญชาติอังกฤษ ซึ่งอาจช่วยให้เขาปรับตัวกับทีมได้ไม่ยาก แต่นั่นแหละครับ ผลงานของเขาช่างตรงข้ามกับสิ่งที่สาวกหวัง จากหวังจะได้เห็น ซานโช่ ทั้งยิงทั้งจ่าย แต่กลายเป็นว่า 14 นัดแรกกับทีม เขากลับไม่มีผลงานส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น

แม้ในช่วงท้ายดูจะเริ่มปรับตัวได้มากขึ้น แต่มันก็ไม่มากพอ และไม่ได้ใกล้เคียงกับความคาดหวัง และไม่ได้ใกล้กับค่าตัว 73 ล้านปอนด์ที่ทีมได้จ่ายไปเลยครับ

4. ราฟาเอล วาราน

อีกดีลที่น่าผิดหวังของ แมนยู กับการเซ็นกองหลังผู้เคยยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ระดับท็อปของโลก มีประสบการณ์แชมป์มาครบถ้วน ทั้งบอลโลก, บอลถ้วย, บอลลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโตกว่า 3 แสนต่อวีค พร้อมกับค่าตัว 34 ล้านปอนด์ให้กับ เรอัล มาดริด

แต่เมื่อดูสิ่งที่พวกเขาเขาได้มา กลับกลายเป็นว่า ปีศาจแดง ได้มีฤดูกาลที่มีเกมรับแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยจาก 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก มีถึง 13 ทีมที่ทำได้ดีกว่าพวกเขา และฟอร์มของ วาราน ก็น่าใจหาย 

เขาทั้งสร้างความผิดพลาดบ่อยครั้งกว่าที่เราเคยเห็น ทั้งยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน จนไม่สามารถหาความสม่ำเสมอได้เลย ย้อนไปตอนเซ็นเข้ามาวันแรก คงไม่มีใครคาดคิดว่า วาราน จะกลายเป็นดีลที่แป๊กได้ขนาดนี้ครับ

3. เซร์คิโอ รามอส

หนึ่งในความน่าตื่นเต้นของดีลนี้ในตลาดซัมเมอร์หนที่แล้ว คือการที่แฟนบอลจะได้เห็นอดีตอริฝั่งตรงข้าม ได้ลงสนามในยูนิฟอร์มเดียวกัน ระหว่าง รามอส และ ลิโอเนล เมสซี่ แต่ก็น่าผิดหวัง ทั้งคู่ออกได้สตาร์ทร่วมกันแค่ 5 นัด

สาเหตุทั้งหมดก็เพราะ พี่มอส มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดฤดูกาล ขนาดที่ถ้วยที่ เปแอสเช ให้ความสำคัญที่สุดอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เขาก็ยังเจ็บจนไม่ได้มีโอกาสลงสนาม แม้แต่วินาทีเดียวในซีซั่นนี้ 

และด้วยการเข้าวัย 36 ปีแล้ว เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่า รามอส จะกลับมามีสภาพร่างกายพร้อมลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ได้อีกหรือไม่ แต่ยังไงก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าดีลนี้ เป็นอีกดัลที่ไม่ปังแถมแป๊กของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ครับ

2. แจ็ค กรีลิช

ถ้าจะพูดถึงดีลแป๊กๆ ชื่อของนักเตะรายนี้น่าจะโผล่ขึ้นมาเป็นคนแรกๆ ในหัวของใครหลายๆ คน ซึ่งถ้าจะถามว่าเขาแย่ไหม? ก็คงไม่ขนาดนั้น และถ้าหากถามว่าเขาดีพอสำหรับค่าตัว 100 ล้านปอนด์ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่ายไปหรือเปล่า? คงสามารถตอบได้เลยว่าไม่ได้ใกล้เคียง

ด้วยดีกรีนักเตะอังกฤษที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ กรีลิช กลับยังไม่สามารถสร้างอิมแพ็คท์ได้ใกล้เคียงกับความคาดหวังแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในช่วงแรก และแม้ช่วงหลังเขาอาจจะดูดีขึ้นมาบ้าง หรืออาจจะอ้างได้ว่าเขาอยู่ระหว่างการพัฒนาและปรับตัว

แต่ด้วยผลงานใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรกกับทีม เพียง 3 ประตู ทั้งที่มีค่าตัวถึง 100 ล้านปอนด์ หากจะบอกว่าปังหรือแป๊ก ก็คงตอบได้ไม่ยากเลย … ใช่ไหมละครับ ?

1. โรเมลู ลูกากู

หลังออกจาก พรีเมียร์ลีก ไปสร้างชื่อ สร้างร่างทอง จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุโรป จน เชลซี ยอมทำลายสถิติสโมสร ทุบคลัง 98 ล้านปอนด์คว้า ลูกากู กลับมาร่วมทัพ และทำให้เขาได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง

และผลงานช่วงแรกก็ทำได้ดีจนแฟน สิงห์บลูส์ ยิ้มแป้น แต่จากนั้น สีหน้าก็ต้องกลับกลายคล้ายจะเซ็ง เพราะเริ่มชัดเจนว่า ลูกากู ดูจะไม่เข้ากับระบบของ ทูเคิ่ล เลย มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังดูใจไม่สู้ มีบอกว่ารู้สึกเสียใจที่ย้ายกลับมา พร้อมแว่วอยากจะออกจากทีมเสียแล้ว และไม่ต้องบอกเลยค่าตัวระดับนี้ 

แต่ทำได้เพียง 8 ประตูในพรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่าแต่ละประตูในลีกของเขามีมูลค่าเกือบ 20 ล้านปอนด์ ผนวกกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากเกี่ยวกับอนาคตของเขาที่ทีมต้องเผชิญ เราจึงขอยกให้ ลูกากู เป็นดีลที่แป๊กที่สุดในฤดูกาลนี้เลยครับ