สาเหตุที่ตำนาน "R9" ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะว่าเจ้าตัวเคยลั่นวาจาไว้ว่าถ้าสโมสรในความดูแลของเขาอย่าง เรอัล บายาโดลิด สามารถเลื่อนชั้นกลับสู่ศึกลาลีกา สเปน ได้ จะปั่นจักรยานจาก เมือง บายาโดลิด ไป กอมโปสเตลลา รวมแล้วระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ในทันที
ซึ่งผลลัพธ์ก็อย่างที่กล่าวไปว่าเขากำลังทำตามคำพูดที่ได้ให้ไว้อยู่ในตอนนี้ เรียกได้ว่าเลื่อนชั้นปุ๊บ พี่แกก็จูงจักรยานคู่ใจจัดการปั้บ
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปไล่ย้อนดู โรนัลโด้ ในมุมของผู้บริหารกันหน่อยว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร รวมไปถึงภารกิจปั่นจักยานล่าสุดของเขาต้นตอมันเกิดจากอะไร ...
ถือหุ้น บายาโดลิด 51%
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2019 โรนัลโด้ ได้ทำการทุ่มเงินราว 30 ล้านยูโร ในการเข้าฮุบกิจการของ เรอัล บายาโดลิด พร้อมสะสางหนี้ของสโมสรไปอีกจำนวน 25 ล้านยูโร เพื่อที่ตัวเองจะได้ถือหุ้นของสโมสรที่จำนวน 51% ส่วนนายทุนคนเก่าอย่าง การ์ลอส ซัวเรซ ทางด้าน โรนัลโด้ ยังคงให้นั่งเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของสโมสรต่อไป
ซึ่งนี่คือการก้าวหน้าในเส้นทางสายอาชีพลูกหนังของเขาอีกขั้น ภายหลังประสบความสำเร็จสมัยไล่หวดลูกหนัง ทั้งเรื่องของโทรฟี่แชมป์ รวมไปถึงรางวัลส่วนตัวที่คว้ามาครองได้อย่างมากมาย
ส่วนแนวทางทำทีม โรนัลโด้ ได้ให้สัมภาษณ์ในงานวันเปิดตัวเป็นหุ้นส่วนใหญ่เอาไว้ว่า "ทิศทางของฝ่ายบริหารทีมใหม่จะถูกบัญญัติด้วย 4 คำ แข่งขัน, โปร่งใส, ปฏิวัติ และการอยู่ร่วมกัน"
"เราต้องนำพาสโมสรแห่งนี้สู่ระดับสูงสุดและสร้างทีมต่อไป เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งในและนอกสนาม ผมเชื่อมั่นในแนวคิดนี้"
ปีแรกรอด ซีซั่นถัดมาดันตกชั้น
ผลประกอบการฤดูกาลกาลแรกอย่างเต็มตัวของ โรนัลโด้ ในนามประธานสโมสรจบลงด้วยอันดับ 13 บนตารางศึกลาลีกา สเปน ซึ่งถือว่าน่าพอใจพอสมควรสำหรับทีมอย่าง เรอัล บายาโดลิด
ส่วนในช่วงซัมเมอร์ 2020 ทีมได้มีการดึงนักเตะใหม่เข้ามาบางส่วน ซึ่งไม่ได้ใช้เงินทุนอะไรมากนัก รวมแล้วใช้ไปราวๆ 10 ล้านยูโร แต่ผลงานที่ออกไม่ค่อยสู้ดีนักจบ 38 เกมพวกเขารั้งอันดับ 19 ของตารางตกชั้นสู่เซกุนด้า ดิวิชั่น ด้วยการเก็บไปได้เพียง 31 คะแนนเท่านั้น ส่วนในรายการบอลถ้วยอย่างโกปา เดล เรย์ ก็ร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่าย เลบันเต้ 2-4
แน่นอนการตกชั้นของ บายาโดลิด ไม่ใช่เรื่องที่ใหม่ของสโมสร เพราะที่ผ่านมาพวกเขาวนเวียนกับการขึ้น และลงอยู่หลายครั้ง เปรียบไปก็คล้ายว่าดีเกินไปสำหรับลีกล่าง แต่ก็ยังไม่ดีพอสำหรับลีกสูงสุด
แต่กระนั้นเป้าหมายของหัวเรือใหญ่อย่าง โรนัลโด้ คือการปักธงไว้ว่าต้องการพาทีมขึ้นกลับขึ้นมายังลาลีกา สเปน ให้ได้ภายในฤดูกาลเดียว เพื่อกอบกู้ชื่อเสียง และพาทีมก้าวไปข้างหน้าตามสัญญาที่ให้ไว้
ภารกิจลุล่วง
อย่างที่ท่านประธานได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะพาทีมขึ้นมาสูดหายใจบนลีกสูงสุดให้ได้ แต่แน่นอนการแข่งขันย่อมเบียด และลุ้นระทึกพอสมควร เนื่องจากตั๋วเลื่อนชั้นอัตโนมัติคืออันดับ 1 กับ 2 เท่านั้น
ซึ่งระหว่างทางแข่งขันก็ถือว่าสูสีกันเป็นอย่างมากนอกจาก บายาโดลิด แล้วยังมีคู่แข่งรายอื่นๆ ทั้ง อัลเมเรีย, เออิบาร์, ลาส พัลมาส หรือ เตเนรีเฟ่ ในการขับเคี่ยวลุ้นโควต้า
ก่อนที่บทสรุปเมื่อจบฤดูกาลอันดับ 1 และ 2 จะเป็นของ อัลเมเรีย กับ บายาโดลิด ที่คว้าไปครองด้วยคะแนนที่เท่ากัน 81 แต้ม แต่ทว่าด้วยเฮด-ทู-เฮด ของ อัลเมเรีย ดีกว่าทำให้ปาดหน้าคว้าแชมป์ครอง แต่ทว่าสิ่งสำคัญคือตั๋วเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติที่พวกเขาได้มาครอง ทำให้ซีซั่น 2022-23 เตรียมยลโฉมผลงานของพวกเขาบนลีกสูงสุดได้เลย
คำวาจาที่ลั่นไว้ของ โรนัลโด้
"ผมสัญญาว่าถ้าเรากลับไปที่ ลาลีกา ผมก็จะทำ กามิโย่ เด ซานติอาโก้ ผมจะปั่นจักรยานเพราะวิ่งไม่ได้ ภรรยาของผม และผมจะออกจาก บายาโดลิดในวันอาทิตย์ และเดินทางไปที่ ซานติอาโก เด กอมโปสเตลา ด้วยจักรยาน"
คำกล่าวของ โรนัลโด้ ที่เคยลั่นเอาไว้ว่าถ้า บายาโดลิด กลับมาสู่ลาลีกา ได้อีกครั้ง เขาจะยอมปั่นจักรยานทางไกลหว่า 500 กิโลเมตร จกา เมือง บายาโดลิด ไป กอมโปสเตลลา
ซึ่ง ณ วันนี้ทีมของเขาทำสำเร็จแล้ว และตัวของ โรนัลโด้ ก็ได้ออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่คงได้เห็นภาพของ R9 ในชุดนักปั่นแบบเต็มยศ พร้อมจักรยานคู่ใจที่ต้องเป็นพาหนะในอีก 4 วันนับจากออกเดินทาง
แน่นอนภารกิจครั้งนี้เขาไม่ได้ไปเพียงตัวคนเดียว แต่ยังหอบหิ้วภรรยาที่ไม่รู้ว่าไปตกลงกันหลังไมค์กันยังไงถึงยอมเดินทางปั่นจักรยานทางไกลกว่า 500 กิโลเมตรไปพร้อมๆ กัน
ด้วยสิ่งที่ โรนัลโด้ ทำมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเองทุ่มเทกับสโมสรแห่งนี้มากขนาดไหน แม้การปั่นจักรยานจะไม่ใช่วิธีทางที่ช่วยให้ทีมได้ตั๋วเลื่อนชั้น แต่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความบ้าคลั่ง และบ้าบิ่น ซึ่งมันหาได้ยากมากพอสมควรที่ประธานสโมสรจะลงมาทำเรื่องราวแบบนี้ แต่กับชายผู้นี้เขาเอาตัวเองลงมาเล่นด้วย
เพราะยังไงเสียเมื่อทุกอย่างมันประสบความสำเร็จ ทุกฝ่ายย่อม วิน-วิน ตามกันไปด้วย ทั้ง โรนัลโด้, บอร์ดบริหาร, นักเตะ และ แฟนบอลที่คอยหนุนหลัง
- Paolinho -
