logo-heading

ซึ่งถือว่าเป็นดีลที่น่าสนใจยิ่งนัก เพราะหัวหอกทีมชาติสวีเดนถือว่าเป็นดาวดวงใหม่ที่ทีมชาติสวีเดนเองก็ฝากความหวังในอนาคตอันใกล้นี้เอาไว้ ส่วนเรื่องผลงานที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมพอสมควร

โดยวันนี้ ขอบสนามหามมาแนะ จะพาไปรู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะโยกย้ายมาวาดลวดลายในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

จุดเริ่มต้น 

อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลืมตาทักทายโลกใบนี้เมื่อ 21 กันยายน 1999 ที่โซลน่า ประเทศสวีเดน ส่วนจุดเริ่มต้นในอาชีพลูกหนังเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุได้ 6 ขวบ พร้อมกับการได้โอกาสเดินตามทางฝันของตัวเองได้เข้าไปอยู่กับสโมสรที่ตัวเองเป็นแฟนตัวยงอย่าง เอไอเค โซลน่า 

โดยเจ้าตัวใช้เวลาอยู่ราวๆ 10 ปีในการฝึกหัด และพัฒนาตัวเองกับทีมในอคาเดมี่ก่อนที่ห้วงเวลาสำคัญจะเกิดขึ้น 28 กุมภาพันธ์ 2016 อิซัค ได้โอกาสครั้งสำคัญในการลงสนามกับทีมชุดใหญ่โดยเกิดขึ้นในเกมสวีดิช คัพ ที่ เอไอเค โซลน่า  บุกไปถล่ม เทนฮัลส์ ทีมจากดิวิชั่น 4 ถึง 6-0 ซึ่งเกมนั้นเจ้าตัวสามารถเปิดซิงประตูแรกได้ทันที

จากนั้นอีกสองสัปดาห์กุนซือของทีมในตอนนั้นอย่าง อันเดรีย อาล์ม ก็จัดการบรรจงใส่ชื่อเขาลงเป็นตัวจริงนัดเจอ ออสเตอร์ซุนด์ เป็นการประเดิมสนามเกมลีกนัดแรกอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ทุกอย่างจะราวกับฝันเมื่อเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ยิงประตูตอกฝากโลงพาทีมชนะไป 2-0 พร้อมทำสถิติเป็นผู้เล่นดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในประวัติศาสตร์ศึก ออลส์เวนส์คาน ที่ตัวเลข 16 ปี 199 วัน

ว่าแล้วต้นสังกัดก็ตอบแทนความเก่งกาจของเขาด้วยการมอบสัญญาอาชีพกับต้นสังกัดให้แก่เขา เพื่อหวังเก็บไว้ใช้งาน และฝากอนาคตอันใกล้ในการไล่ล่าประตูไว้กับเขา

ฟอร์มตกที่เยอรมัน

หลังจากทำผลงานในประเทศบ้านเกิดได้อย่างยอดเยี่ยมฟอร์มของเขาก็ไปเข้าตาแมวมองของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนถูกดึงตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 8.5 ล้านยูโร แน่นอนว่าด้วยราคาทำให้ความคาดหวังย่อมสูงเป็นเรื่องปกติ กับดาวรุ่งที่กำลังเฉิดฉาย

ทว่าความจริง กับความฝันแตกต่างกันมากมายเพราะตลอด 3 ฤดูกาลสถานะของ อิซัค เป็นได้แค่ส่วนเกินเท่านั้น เพราะไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง ช่วงปี 2016-2018 รวมไปถึง มาร์โก รอยส์ และ ปาโก้ อัลกาเซร์ ช่วงปี 2018-19 ได้เลย โดยได้ลงเล่นไปแค่ 13 เกมเท่านั้นยิงได้ 1 ประตู

แน่นอนนี่คือช่วงเวลาสำคัญ และเปรียบเหมือนหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตการค้าแข้ง ฉะนั้นการย้ายออกไปหาโอกาสลงสนามจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ว่าแล้วเขาเลยถูกปล่อยไปให้  วิลเล่ม ทเว ทีมในลีกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ยืมตัว ซึ่งเขาเองก็ถือว่าตอบสนองได้เป็นอย่างดี ภายหลังทำไปได้ 14 ประตู จากการลงสนาม 14 นัด

ทว่าด้วยปัจจัยต่างๆ หลังหมดสัญญากับทีมในลีกฮอลแลนด์เจ้าตัวเลือกที่จะไม่ขอกลับไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ และเป็น เรอัล โซเซียดาด ได้เข้ามาดำเนินการคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร

หามมาแนะ : อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวยิงคนใหม่ของ นิวคาสเซิ่ล

เฉิดฉายที่สเปน

จะว่าไปชีวิตของเจ้าเด็กหนุ่มรายนี้พลิกพลันรวดเร็วพอสมควร หลังจากกราฟชีวิตดำดิ่งกับ ดอร์ทมุนด์ ก็สามารถพาตัวเองกลับมาอยู่ในจุดที่คู่ควรอีกครั้งทั้งโอกาสลงสนาม, การทำประตู และยกระดับฝีเท้าของตัวเองขึ้นมา

ชีวิตที่ โซเชียดัด ก็เป็นอีกบทของชีวิตลูกหนังที่สวยงามสำหรับเขาฤดูกาลแรกกับเวทีลาลีกา สเปน อิซัค ทำไปได้ 9 ประตู จากการลงสนาม 37 เกม ด้วยตัวเลขอาจยังไม่สวยหรูนัก แต่มันก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากมายกับเด็กที่เพิ่งอายุยังไม่แตะหลัก 20 ปี ก่อนที่หลายๆ อย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามแบบฉบับดาวรุ่งที่กำลังต่อยอดผลงานของตัวเอง

ซีซั่นที่พีคขั้นสุดของเขาคงเป็นฤดูกาล 2020-21 ที่ซัดในทุกรายการไปมากถึง 17 ประตู จากการลงสนาม 44 เกม พร้อมพา โซเชียดัด จบอันดับที่ 5 ของตาราง ส่วนเขารั้งดาวซัลโวอันดับที่ 6 ของลีกในนั้นด้วยจำนวน 17 ตุง เป็นรองแค่รุ่นใหญ่วัยเก๋าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คาริม เบนเซม่า, เคราร์ด โมเรโน่ และ หลุยซ์ ซัวเรซ เท่านั้น

ความท้าทายที่อังกฤษ

ตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ ก็คงแน่นอนแล้วที่ อิซัค จะได้โยกย้ายสโมสรอีกครั้ง และเป็น นิวคาสเซิ่ล ในการยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรเพื่อคว้าตัวเขาเข้ามาเป็นตัวความหวังในการไล่ล่าประตูคู่แข่ง

ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าฟุตบอลอังกฤษคือเกมที่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ฉะนั้นเรื่องของร่างกายถือว่าสำคัญไม่ใช่น้อย แต่ทว่าถ้ามองไปที่ตัวของ อิซัค เองก็ถือว่าไม่ธรรมดารูปร่างสูงถึง 192 เซนติเมตร สามารถใช้งานเรื่องลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี อีกอย่างคือเขาเป็นกองหน้าจำพวกอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เรียกได้ว่าค่อนข้างมีสัญชาตญาณกองหน้าแบบเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตามหน้าเสื่อย่อมเป็นดีลที่น่าสนใจด้วยค่าตัวที่สูงระดับสถิติสโมสรย่อมถูกคาดหวังมากกว่าเดิม ซึ่งก็ต้องมาคอยติดตามว่าเขาจะสอบผ่านกับสมรภูมิพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่

หามมาแนะ : อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวยิงคนใหม่ของ นิวคาสเซิ่ล

อนาคตของทีมชาติสวีเดน

ทัพ "ไวกิ้ง" ถ้าจะให้นึกถึงกองหน้าในยุคปัจจุบันภาพจำคงเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นส่วนใหญ่ เพราะด้วยความเป็นสุดยอดแข้ง และผลงานที่ฝากเอาไว้ไม่แปลกที่แฟนบอลจะเทิดทูน และรักดาวยิงผู้นี้มากเหลือเกิน

แต่ทว่ากับการผลัดใบใหม่ของทีมก็ย่อมต้องมีตัวแทน และร่างเงาที่จะมาแทน ซลาตัน ในวันนี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่า อิซัค คือคนนั้น ภายหลังพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถฝากความหวังการทำประตูได้

ย้อนกลับไป อิซัค ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น ก่อนจะรักษามาตรฐานติดทีมอยู่เรื่อยๆ และมีโอกาสไปลุยศึกยูโรครั้งล่าสุดกับทีมมาแล้ว แม้จะยังไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ก็ทำไปได้ถึง 2 แอสซิสต์ ด้วยกัน

ซึ่งด้วยอายุ และประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กล้าพูดได้ว่านี่คือกองหน้าความหวังในอนาคตอันใกล้ที่แฟนบอลเองคงคาดหวังไว้กับตัวเขาเยอะเช่นกันว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาทดแทนเหล่ารุ่นพี่ได้

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline