logo-heading

หลังเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งผลการแข่งขันอาจจะดูห่างเล็กน้อยๆ แต่เป็นเกมที่สนุกและมันส์จริงๆ เพราะเปิดเกมบุกเข้าใส่กันตลอด

ไอ้ปืนใหญ่ ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม สู้อย่างเต็มที่แล้ว มีหลายช่วงเวลาที่ทำให้แฟนบอล เร้ด เดวิลส์ เป่าปากไปหลายดอกเช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องความเฉียบคม และ การฉกฉวยโอกาส ในเกมนี้ ต้องยกให้กับขุนพล แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ มีโอกาสเข้าทำแทบไม่พลาด 

ซึ่ง อันโตนี่ นักเตะใหม่ เจ้าของค่าตัว 100 ล้านยูโร ก็โชว์ของเปิดตัวในฝัน เพราะสามารถทำประตูได้ด้วย เอาเป็นว่าหลังจบเกมนี้ มีประเด็นอะไรให้พูดถึงกัน ไปติดตามกันเลยครับ

- อาร์เซน่อล เฮเก้อ เมื่อ VAR
ริบสกอร์คืน โอเดการ์ด ไปแซะ อีริคเซ่น 

สาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงกับอึ้งแดกกันไปเลยครับ เพราะตั้งแต่ออกสตาร์ทเกม จนถึงนาทีที่ 12 พวกเขาครองบอลอยู่ฝั่งเดียว และ พยายามจะจบสกอร์ขึ้นนำให้ได้ตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งก็มีโอกาสจาก คริสเตียน อีริคเซ่น ที่ยิงด้วยซ้ายหลุดเสาออกไปไม่ไกล

ทว่าจากการครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว มีจังหวะที่ อีริคเซ่น ไปเสียบอลกลางสนาม โดนทาง อาร์เซน่อล ตัดบอลได้ บูกาโย่ ซาก้า จ่ายแบบคิลเลอร์พาส ส่งตัดหลังแนวรับ ปีศาจแดง ไปให้กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ สปีดวิ่งเข้าไปยิงผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ทำเอาเสียงในสังเวียนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เงียบสนิท

อย่างไรก็ตาม แฟนบอล เดอะ กันเนอร์ส ต้องเฮเก้อ เมื่อผู้ตัดสินไปเช็คจอ VAR ข้างสนาม ปรากฏว่าจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด เข้าไปสกัดใส่ อีริคเซ่น ตรงกลางสนาม ไม่โดนบอลเลย นอกจากจะเข้าทางด้านหลังแล้ว ยังมีมือไปผลักด้วย ทำให้ พอล เทียร์นี่ย์ สิงห์เชิ๊ตดำ ริบสกอร์คืน จึงเสมอกันอยู่ 0-0 แน่นอนว่าทาง ปีศาจแดง ก็โล่งอก เพราะตามหลังตั้งแต่ต้นเกม ลำบากแน่นอน

- เปิดตัวในฝันของ อันโตนี่

พูดกันแบบไม่มีการอวยใดๆทั้งสิ้น ตลอด 58 นาทีที่ อันโตนี่ ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เขาไม่ได้ถึงขั้นมีส่วนร่วมกับเกมรุกของ ปีศาจแดง อะไรมากมาย แต่ก็มีช็อตที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้เหมือนกัน จากจังหวะที่โดนนักเตะ อาร์เซน่อล รุมอยู่ 2 คน แต่เอาตัวรอดด้วยการตอกส้นส่งบอลคืนให้กับเพื่อนตรงมุมธงด้านขวา ช่วงครึ่งแรกของสนาม และ มีช็อตปั่นด้วยซ้าย แต่บอลก็หลุดออกกรอบไปไกล

ซึ่งการที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมมากนัก ก็ไม่แปลกหรอกครับ เนื่องจาก อันโตนี่ เพิ่งย้ายมาอยู่กับทีม ต่อให้จะมีค่าตัว 100 ล้านยูโร แต่ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้คงจะต้องเป็นนัดที่เขาจดจำไปตลอดชีวิต เพราะมันคือการเปิดตัวในฝันสำหรับนักเตะรายนี้จริงๆ เพราะต่อโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ประเดิมซัดประตูแรก เป็นลูกขึ้นนำ 1-0 ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จังหวะนี้ต้องขอบคุณและให้เครดิตกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ประทานแอสซิสต์มาให้กับ อันโตนี่ อย่างสวยงาม เขาไม่ต้องจับเลย แค่เอี้ยวตัวและแปเลือกมุมไปเสาไกลเข้าประตูไป ก่อนจะโชว์แพสชั่นความสะใจชูไปที่ตราสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเอาจริงๆมันได้ใจแฟนบอลมากเลยครับ เพราะทำให้เห็นว่าเขาอยากมาเล่นให้ เร้ด เดวิลส์ มากแค่ไหน นับว่าเป็นลูกศิษย์ เอริค เทน ฮาก ที่เข้ามาแล้วดูมีแววไปได้ไกลมากจริงๆ

- อาร์เซน่อล เล่นได้ยอดเยี่ยม แต่ความผิดพลาดทำให้พวกเขาพ่ายแพ้

การพ่ายแพ้ของ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์ 1-3 ไม่ใช่เรื่องที่น่าผิดหวังเลยครับ ว่ากันตามตรงลูกทีม มิเกล อาร์เตต้า สู้กันได้อย่างเต็มที่ ด้วยสภาพทีมที่ไม่ค่อยสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ แต่พวกเขามีจังหวะที่ยิงเข้าไปแล้ว โดน VAR ริบสกอร์ / มีโอกาสได้ยิงประตู ทว่าก็โดน ดาบิด เด เคอา ปฏิเสธ เอาไว้ ไหนจะมีช่วงเวลาได้ขึงพื้นที่บุกเข้าใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่งตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากฝีเท้าของ บูกาโย่ ซาก้า

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ทำให้ อาร์เซน่อล โดนลงโทษทันที อย่างช็อตที่ แซมบี้ โลกองก้า ไปจ่ายบอลพลาดบริเวณกลางสนาม จากนั้นโดนสวนกลับเร็ว และ ทำให้ทีมเสียลูก 2 ทันที ส่วนลูก 3 ก็อาจเป็นการยืนพื้นที่ของแผงแบ็กโฟร์ ที่เปิดช่องว่างมากเกินไปอีกครั้ง จนทำให้โดนจ่ายตัดแนวรับแบบหลุดทั้งกระบิ

ซึ่งข้อผิดพลาดเหล่านี้ ทำให้ อาร์เซน่อล พ่ายแพ้เป็นเกมแรกของซีซั่นนี้ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ เพราะมันสิ่งนี้มันสามารถนำไปแก้ไขได้ในเกมต่อๆไป แพ้ก็กลับมาให้เร็ว พัฒนากันต่อไป ต่อให้จะกลับบ้านแบบมือเปล่า แต่ทว่า ไอ้ปืนใหญ่ ก็ยังคงนำเป็นจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่มีแต้มห่าง แมนฯ ซิตี้ 1 คะแนน เท่านั้น

- ชอบภาษากายของ โรนัลโด้

ถึงแม้ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเสียความนิยมจากแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ไปพอสมควรในช่วงปรีซีซั่น ในเรื่องที่อยากจะย้ายทีม โดยไม่ยอมมาร่วมฝึกซ้อมกับทีม แต่กระนั้นหลังจากที่เจ้าตัวต้องอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป เขาก็ไม่เคยแสดงอาการงอแงให้เห็น ซ้อมเต็มที่ ลงสนามด้วยความทุ่มเท ต่อให้ตอนนี้จะเป็นสำรองก็ตาม

ทุกครั้งที่ พี่โด้ นั่งอยู่ข้างสนาม เขาไม่เคยออกแอคชั่นถึงความไม่พอใจ หรือ แสดงออกถึงความไม่เป็นอาชีพ เวลาที่น้องๆสามารถประตูได้ เขาจะมีรีแอคชั่นที่เป็นรอยยิ้ม และ ยินดีทุกครั้งที่ทีมกระซวกไส้คู่แข่งได้สำเร็จ

อย่างเช่นเกมนี้ หลังจาก อันโตนี่ ยิงประตูขึ้นนำให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล้องถ่ายทอดสดก็รู้งาน ตัดภาพไปที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทันที ซึ่งเขาก็ลุกขึ้นมาจากม้านั่ง ปรบมือยกย่องที่ อันโตนี่ สามารถเปิดซิงกับทีมได้สำเร็จ นับเป็นภาพที่ดีมากๆ เพราะมันเป็นภาพที่ทำให้เห็นว่า ซีอาร์ 7 ยังพร้อมไปต่อ และ ยินดีกับทุกความสำเร็จของสโมสร

พอ พี่โด้ ได้รับโอกาสลงสนามในนาทีที่ 59 เขาก็ไม่ได้กระหายจะทำประตูอย่างเดียว พยายามจะต่อบอลกับเพื่อน มีช็อตจ่ายบอลให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ในกรอบเขตโทษ รวมถึงความมุ่งมั่นที่อยู่ในสนาม ที่เขามีรีแอคชั่นเสียดาย เวลามีโอกาสทำประตู แต่ไม่สำเร็จ ด้วยความที่ตลาดนักเตะปิดตัวลงไปแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้ พี่โด้ ใส่เต็มแม็กซ์กับ ปีศาจแดง แน่นอน มารอดูกันว่า จะทำประตูได้อีกมากน้อยแค่ไหน

- แรชฟอร์ด กำลังฮอต
ส่วน บรูโน่ กับ อีริคเซ่น เล่นดีเว่อร์

ย้อนกลับไป 1-2 ซีซั่นก่อน มาร์คัส แรชฟอร์ด โดนวิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับทัศนคติ และ ผลงานในสนาม จากเด็กดาวรุ่งฟอร์มระเบิด แต่กลับไม่เห็นการพัฒนาอะไรเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงขั้นเคยมีข่าวว่าอาจะโดนโละออกจากทีมด้วยซ้ำ

แต่ ณ ชั่วโมงนี้ แรชฟอร์ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่กำลังฟอร์มฮอตแบบสุดๆ จนหยุดไม่อยู่ การยิง 2 ประตู ในเกมเดียว บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับเป็นครั้งแรกที่เขาทำได้ตั้งแต่ธันวาคม 2020 เท่ากับว่า 2 เกมที่ลงเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยิงใส่ได้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ไหนจะมีอีก 1 แอสซิสต์ให้กับ อันโตนี่ ได้อีก ฟอร์มแบบนี้ พูดได้เต็มปากเลยว่า "เขากลับมาแล้ว"

อย่างไรก็ตาม ถ้า แรชฟอร์ด ไม่มีเพื่อนๆคอยป้อน ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในคนที่ช่วยให้ แรชฟอร์ด เค้นฟอร์มเก่งออกมาอีกครั้ง ก็ต้องยกเครดิตให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส จริงๆ เพราะทั้ง 3 ลูก ที่ ปีศาจแดง ทำใส่ อาร์เซน่อล ได้นั้น เขามีส่วนร่วมทั้งหมด โดยเฉพาะช็อตที่แทงทะลุช่องไปให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงขึ้นนำ 2-1 ชนิดที่น้ำหนักเป๊ะจัดๆ เหมือนชั่งน้ำหนักมาตั้งแต่เมื่อเช้า ส่วนลูก 3 ก็จ่ายตัดแนวรับคู่แข่งหลุดแบบยกแผง นับเป็นตัวจ่ายชั้นยอดจริงๆ

ส่วนอีกคนที่อยากจะยกย่องเลยคือ คริสเตียน อีริคเซ่น ดาวเตะสู้ชีวิต ที่กลับมาโชว์ฟอร์มอีกครั้งในตำแหน่งที่ใช่สำหรับเขา ไม่ต้องไปพะวงเรื่องเกมรับให้วุ่นวาย และ โฟกัสกับเกมรุกให้มากขึ้น เขามีสถิติผ่านบอลในระยะ "ไฟนัล เติร์ด" หรือพื้นที่ 35 หลาแดนคู่แข่งมากถึง 16 ครั้ง จ่ายเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ 4 ครั้ง แต่ที่มันดีไปกว่านั้นก็คือ โชว์ความใจกว้าง หลุดตีคู่ไปกับ แรชฟอร์ด ก่อนจะแอสซิสต์ให้น้องยิงง่ายๆเป็นประตูปิดกล่อง 3-1 นี่ถือว่าเป็นของฟรี ที่ดีมากเลยจริงๆ

นี่แหละครับคือประเด็นจากเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-1 ซึ่ง ปีศาจแดง เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด พร้อมพุ่งขึ้นไปอยู่อันดับ 5 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงแค่ 3 แต้ม บอกเลยปีนี้ลุ้นแชมป์ ลุ้นท็อปโฟร์กันสนุกแน่นอน

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline