logo-heading

โดยทัพ สิงห์บลูส์ ออกนำไปก่อน 1-0 จาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่ก็มาโดนตีเสมอ ช่วง 15 นาทีสุดท้าย

จากการเก็บได้เพียง 1 คะแนน ส่งผลเหลือเกินสำหรับ เชลซี โดยเฉพาะโอกาสเข้ารอบที่มันไม่ได้สดใสอีกแล้ว นอกจากนี้ยังมีประเด็นในเกมให้พูดถึงตามมาด้วย จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- นัดแรกของ เกรแฮม พ็อตเตอร์

การคุมทีมนัดแรกของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ก็เอาใจท่านประทาน ท็อดด์ โบห์ลี่ ทันทีเลยครับ ด้วยการจัดแผน 4-4-3 เอ้ย 4-3-3 ตามที่ประทานอยากเห็น ด้วยการให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ยืนเป็นหน้าเป้า ขนาบข้างด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ เมสัน เมาท์

ส่วนคู่เซ็นเตอร์แบ็ก พ็อตเตอร์ เลือกใช้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หุบเข้ามายืนจับคู่กับ ติอาโก้ ซิลวา ส่วน คาลิดู คูลิบาลี่ หรือ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า กองหลังค่าตัว 75 ล้านปอนด์ นั่งเป็นแค่สำรองเท่านั้น 

ซึ่งจากที่ได้ดูเต็ม 90 นาที มันเป็นระบบแบบยืดหยุ่นมากกว่า ถ้าเป็นจังหวะตั้งเกมรับ หรือ เซ็ตเกม จะยืนในระบบ 4-3-3 แต่ถ้าทำเกมรุกเมื่อไหร่ แบ็กขวาอย่าง รีซ เจมส์ จะเติมขึ้นสูงมาก และ ระบบจะเปลี่ยนมายืนเป็นเหมือนกองหลัง 3 ตัว

อย่างไรก็ตาม มันเป็นการประเดิมที่ดูเหมือนจะเวิร์ค แต่ไม่เวิร์คเอาเสียเลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว เชลซี ทำได้เพียงแค่เสมอกับ ซัลซ์บวร์ก 1-1 เท่านั้น ซึ่งลูกที่เสียประตูก็เป็นการโดนตัดบอล และ ถูกโต้กลับเร็ว โดยช็อตที่เสียประตูนั้น ทางขวาของ รีซ เจมส์ ก็ลงไม่ทัน ก่อน โนอาห์ โอคาฟอร์ ศูนย์หน้า ซัลซ์บวร์ก ยิงตีเสมอเข้าไป

ส่งผลให้การคุมทีม เชลซี นัดแรกของ พ็อตเตอร์ ไม่ได้รับชัยชนะ เท่ากับว่า 5 นัดหลังสุดของ สิงห์บลูส์ ชนะคู่แข่งไปเพียงแค่ 2 นัด เท่านั้น ที่เหลือเสมอ 1 นัด และ แพ้อีก 2 นัด ด้วยกัน

- โอกาสพิสูจน์ตัวเองของ เกปา
ในการแย่งเป็นมือ 1 ของทีม

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับการคุมทีม เชลซี เกมแรกของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ นั่นก็คือตำแหน่งตัวจริงผู้รักษาประตู เพราะสมัยที่ โธมัส ทูเคิ่ล ยังกุมบังเหียน นายทวารมือ 1 ตกเป็นของ เอดูอาร์ เมนดี้ ซึ่งจะได้เล่นทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนฟุตบอลถ้วยในประเทศจะเป็นหน้าที่ของ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า

แต่เกมที่ เชลซี เปิดบ้านเจอกับ ซัลซ์บวร์ก นั้น เมนดี้ ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เป็นโอกาสของ เกปา ได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในแมตช์นี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้สร้างความผิดพลาดใดๆ และ ยังมีช็อตเซฟให้เห็นเช่นกัน ถึงแม้จะจบแบบไม่คลีนชีต แต่ลูกนั้นก็จนปัญญาจริงๆ

มันจึงน่าสนใจไม่น้อยเลยครับว่า ในช่วงที่ เกปา ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเอง โชว์ฟอร์มดีขึ้นมา เขาจะได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะช่วงหลัง เมนดี้ ก็มีข้อผิดพลาดให้เห็นหลายครั้ง บวกกับมีเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่ยังไม่คืบ ฉะนั้นมารอดูกันว่าอนาคต พ็อตเตอร์ จะยังให้ เมนดี้ เป็นตัวจริงต่อไปหรือไม่

- เชลซี มีปัญหาเรื่องจบสกอร์

ต่อให้ สิงห์บลูส์ จะมี โอบาเมยอง ลงยืนเป็นหน้าเป้าแล้วนะครับ แต่เหมือนว่าการจบสกอร์ของทีม ก็ยังมีปัญหาเหมือนเดิม เกมรุกสร้างสรรค์ได้ก็จริง แต่พอถึงจังหวะสุดท้ายกลับไปเฉียบขาด อารมณ์ว่า ดีแต่ป้อ กลับล่อไม่เป็น ซะอย่างงั้น

คนที่ทำประตูได้ ก็ยังคงต้องฝากผี ฝากไข้ ไว้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เหมือนเดิม โดยนับตั้งแต่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับ เชลซี เขาซัลโวให้ทีมไปแล้ว 4 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวของทีม แบบเดี่ยวๆโดดๆ เพราะคนอื่นๆที่เหลือ ซัดไม่เกิน 1 ลูกกันเลย

อย่างตอนนี้ เมสัน เมาท์ กำลังโดนวิจารณ์อย่างหนักถึงฟอร์มการเล่น ที่ยังกู่ไม่กลับ หาทางเข้าฝั่งไม่เจอ นอกจากยังยิงประตูไม่ได้แล้ว แอสซิสต์ยังทำไม่ได้อีก นับเป็นอีก 1 ปัจจัยที่ทำให้ เชลซี ฟอร์มตกลงไปจริงๆ ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึงในเกมรุก ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงพีคของตัวเองเช่นกัน

โชคดีที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์นี้ เชลซี ไม่มีโปรแกรมแข่งขัน คงเป็นเวลาอันเหมาะสมที่ให้นักเตะได้คิดทบทวน ไดซึมซับแผนการเล่นของ พ็อตเตอร์ ให้มากกว่านี้ เพราะถ้าแนวรุกยังขาดความเฉียบคม บอกเลยว่าซีซั่นนี้มีปัญหาแน่นอนครับ โดยเฉพาะการแย่งตำแหน่งท็อปโฟร์

- โอกาสเข้ารอบเริ่มไม่สดใส

การออกสตาร์ท 2 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ย่ำแย่สำหรับ เชลซี จริงๆครับ เพราะนัดแรกแพ้ให้กับ ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 นัดนี้ยังมาเสมอกับ ซัลซ์บวร์ก ไปอีก ทำให้พวกเขามีเพียงแค่ 1 คะแนน หล่นไปรั้งบ๊วยของกลุ่ม

ยิ่งไปกว่านั้น 2 นัดต่อจากนี้ เชลซี จะต้องเจอกับ เอซี มิลาน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งสุดแล้วในกลุ่มของพวกเขา โดย สิงห์บลูส์ จะได้เล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อน จากนั้นจะต้องบุกไปเยือนที่ ซาน ซิโร่ 

หมายความว่า เชลซี ไม่มีข้อแม้อื่นแล้ว นอกเสียจากต้องเอาชนะ ปีศาจแดง-ดำ ให้ได้ ในเกมต่อไป เพราะ ถ้าหากไม่มี 3 แต้ม ติดมือมาสัก 1 นัด บอกเลยว่าโอกาสตกรอบสูงมาก อาจจะต้องเปลี่ยนวันดูบอล ไปดูวันพฤหัสบดี หรือ ยูโรปา ลีก นั่นเอง

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline