logo-heading

จากยอดดาวโรจน์ผู้พาทีมชาติ อาร์เจนติน่า คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก เมื่อปี 2008 สู่ยอดแข้งระดับดาวซัลโวตลอดกาลของชาติ ผู้พาทัพฟ้า-ขาว คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ซึ่งถือเป็นโทรฟี่ระดับเมเจอร์ครั้งแรกของชาติ ในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

มาวันนี้ชายผู้นี้ ได้มีสถานะมาเป็น ‘ลูกพี่ใหญ่’ ของทีมชาติอย่างเต็มตัวแล้ว ทั้งด้วยวัยวุฒิ, ความสุดยอด และการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมชาติ แบบเห็นได้ชัดทั้งจากคำบอกกล่าวและการกระทำ

ฉะนั้นว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเรา จึงอยากจะพาทุกคนไปดูโมเมนต์หรือเรื่องที่มันแสดงให้เราได้เห็นถึง ‘ความเป็นลูกพี่’ ของชายคนนี้ที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ในกับทีมชาติ อาร์เจนติน่า กันครับ

ทุกคนเล่นถวายหัวเพื่อ ลูกพี่

ความเป็น 'ลูกพี่' ของ เมสซี่ ในทีมชาติ

“ผมพร้อมที่จะไปสู้สงครามเพื่อ เมสซี่ ถ้าหากเขาบอกให้ผมทำ” โรดริโก้ เด ปอล กองกลาง อาร์เจนติน่า พูดถึง เมสซี่

“เราทุกคนสู้อย่าง ราชสีห์ เพื่อให้ได้ชัยชนะร่วมกับเขา” เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตู อาร์เจนติน่า กล่าวถึง เมสซี่

และนอกจากพูดแล้ว การกระทำยิ่งชัดเจนครับ เห็นได้จากความทุ่มเทใส่สุดเต็มที่ในสนามของทัพฟ้า-ขาว โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นศูนย์กลาง รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมชาติ

และเราจะเห็นมันได้ชัดเจนจากโมเมนต์สำคัญ อย่างเช่นตอน สิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ทุก ๆ คนในสนามล้วนวิ่งไปแสดงความดีใจกับ เมสซี่ แบบไม่ได้นัดหมาย มันแสดงให้เห็นว่าทุกคนนอกจากจะเล่นเพื่อชาติแล้ว พวกเขายังเล่นเพื่อชายคนนี้อีกด้วย

รวมถึงตอนคว้าแชมป์ ฟินาลิสซิมา ที่เป็นการเจอกันระหว่างแชมป์ทวีปอเมริกาใต้กับยุโรป เพื่อนร่วมทีมชาติก็ต่างพากันดีใจด้วยการโยน เมสซี่ ฉลองขึ้นฟ้า

แต่ ๆ เมสซี่ จะไม่ได้รับอะไรแบบนี้จากเพื่อนร่วมทีมเลย หากเขาปราศจากสิ่งนี้ซะเอง และใช่ครับ เลโอ ก็เป็นอีกนักเตะที่ทุ่มเทเพื่อชาติเช่นกัน 

เขาลงเล่นให้กับทัพฟ้า-ขาวมามากกว่า 150 นัด ทุ่มเทเต็มที่ เล่นทั้งที่เจ็บ หรือเลือดออกชุ่มเท้าก็ทำมาแล้ว หรือจะแสดงความไม่มีอีโก้ จากการเล่นที่แทบไม่มีความเห็นแก่ตัวของเขา เขาจึงเป็นทั้งแบบอย่าง และนักเตะที่เพื่อนร่วมชาติทุกคน พร้อมจะเล่นใส่สุดถวายหัวเพื่อ ลูกพี่ คนนี้

ห้ามแตะต้อง ลูกพี่

ความเป็น 'ลูกพี่' ของ เมสซี่ ในทีมชาติ

แน่นอนเมื่อทุกคนต่างทุ่มเทใจให้ ถ้าหากเมื่อไหร่มีใครมาทำร้าย ลูกพี่ พวกเขาก็จะไม่ยอม พร้อมลุกขึ้นมาสู้เพื่อ ลูกพี่ เช่นกัน

และเราจะเห็นกันได้ชัดเจนมาก เมื่อมีจังหวะที่ เมสซี่ โดนนอกเกม หรือทำฟาวล์รุนแรงเกินเหตุใส่ ใครคนนั้นที่ทำฟาวล์ คุณจะต้องเจอกับกลุ่มผู้เล่น อาร์เจนติน่า แทบทั้งทีมโผมาเอาเรื่อง เพราะคุณกำลังเล่นอยู่กับ ลูกพี่ ของพวกเขา ซึ่งในเกมล่าสุด กระชับมิตรกับ ฮอนดูรัส ก็ได้มีเหตุการณ์แบบนี้ให้เห็นกัน

และหากสังเกตุดี ๆ แล้ว เราก็มักจะเห็นชายที่ชื่อ โรดริโก้ เด ปอล ยืนอยู่เคียงข้างกับ เมสซี่ เสมอ เป็นตัวบวก-ตัวแทงค์ให้ จนแฟน ๆ เอาเป็นแซวว่าหมอนี่คือ บอดี้การ์ดของ เมสซี่ ในทีมชาติเลยทีเดียว

นอกจากนี้เด่น ๆ ก็เห็นจะมี เลอันโดร ปาเรเดส อีกคน แต่ให้สรุปก็คือพร้อมเป็นบอดี้การ์ดให้ เมสซี่ ทั้งทีมชาติแหละครับ แหม่ เรียกได้ว่า ลูกพี่ข้า ใครอย่าแตะจริง ๆ

 

ลูกพี่ ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ

ขึ้นชื่อว่า ลูกพี่ แน่นอนว่า เมสซี่ นั้นต้องมีความเป็น ‘ผู้นำ’ ด้วย และเขาก็แสดงให้เห็นผ่านการบอกเล่า ว่าผู้นำนั้นไม่จำเป็นต้องพูดเยอะเสมอไป

“ทุกคนจะเงียบ เมื่อ เมสซี่ พูด ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผู้จัดการทีม, ประธานาธิบดี อาร์เจนติน่า ไม่ว่าใครที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาจะเงียบ” มาร์ติเนซ กล่าว

“เขาเป็นผู้นำที่เงียบขรึม แต่เขาเข้าใจทุกอย่างว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ฮอร์เก้ ซัมเปาลี อดีตเฮดโค้ชฟ้า-ขาว กล่าว

และผู้จัดการทีมคนปัจจุบันอย่าง ลิโอเนล สกาโลนี่ ก็ยืนยันเช่นนั้นว่า เลโอ เป็นผู้นำของทีมชาติทั้งในและนอกสนาม

และหนึ่งในเรื่องราวน่ารัก ๆ ในความเป็นผู้นำของเขา คือการที่ เมสซี่ เคยเข้ามาช่วย อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่โดนเพื่อน ๆ ในแคมป์ อาร์เจนติน่า ล้อเรื่องสีผมอย่างหนัก ซึ่งผมเขาจะมีความเด่น เพราะสีจะออกไปทางแดง

และเมื่อ เมสซี่ เห็น แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่แฮปปี้เมื่อโดนล้อเรื่องดังกล่าว เขาจึงออกปากห้ามล้อเลียนแข้งรายนี้ และใช่ครับเมื่อ ลูกพี่ พูด ทุกคนฟัง จากนั้นก็ไม่มีการล้อเลียน แม็ค อัลลิสเตอร์ ในเรื่องนี้อีกเลย

 

รอดู ลูกพี่ ใน บอลโลก 2022

ความเป็น 'ลูกพี่' ของ เมสซี่ ในทีมชาติ

“หากพวกเรา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลกได้ ผมคงจะมีความสุขกับ เมสซี่ มากกว่าที่มีความสุขกับตัวผมเองซะอีก” นี่คือคำกล่าวของ ปาเรเดส ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็น บอลโลก ครั้งสุดท้ายของ เมสซี่ ที่มีวัย 35 ปีแล้ว พลพรรคฟ้า-ขาว ทุกคน นอกจากจะใส่สุดเพื่อชาติแล้ว พวกเขาจะใส่สุดเพื่อ บอลโลก ครั้งสุดท้ายของ ลูกพี่ พวกเขาด้วย

ต้องบอกว่าแม้ อาร์เจนติน่า จะไม่ใช่ทีมเต็งจ้า แต่พวกเขาตอนนี้ก็ถูกยกให้เป็นถึงเต็ง 4 ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไร้พ่ายมา 34 นัดติด และจากสปิริต พร้อมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

โดยเราจะยกคำพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้จาก อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ที่ได้กล่าวไว้ว่า

“ผมคิดว่า อาร์เจนติน่า มีโอกาสเป็น แชมป์โลก ได้นะ ในศึก ยูโร ที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้ว ว่าทีมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามารถทำสิ่งที่น่าทึ่งได้ และแน่นอน อาร์เจนติน่า พวกเขามีอารมณ์ร่วมกัน พวกเขาทำเพื่อบอลโลกครั้งสุดท้ายของ เมสซี่” 

“และผมคิดว่า อาร์เจนติน่า กำลังมีช่วงเวลาที่ดี ถามว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดจริง ๆ เลยไหม? ก็ไม่ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ หลายครั้งทีมที่ดีที่สุดก็ไม่ชนะทัวร์นาเมนต์ ทีมที่มีความเป็นปึกแผ่นกว่าต่างหากที่จะคว้าชัย”

แล้วเราก็มารอดูกันนะครับ ว่าพลพรรค อาร์เจนติน่า จะสามารถพาชาติ รวมถึงส่ง ลูกพี่ อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ บรรลุฝันสู้การคว้าโทรฟี่รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลได้หรือไม่?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline