logo-heading

ถือเป็นข่าวตลาดนักเตะที่น่าสนใจที่สุดของเมื่อวานนี้ กับข่าวที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แนวรุกตัวโคตรเก่งของ ไลป์ซิก ได้ทำการย่องตรวจร่างกายแบบลับ ๆ เพื่อรอย้ายซบ เชลซี ในซัมเมอร์หน้า หลังจะมีค่าฉีกสัญญาที่ 60 ล้านยูโร

โดยแม้ว่ามันจะยังไม่ 100% ว่า เอ็นคุนคู จะเซ็นสัญญากับ สิงห์บลูส์ แต่ถ้าดูตามเนื้อผ้าแล้ว ก็ต้องบอกว่าพวกเขาเป็นเต็งจ๋าเหนือทีมอื่นเลย ดังนั้นว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเรา จึงอยากจะขอพาไปวิเคราะห์กันหน่อย ว่าถ้าหาก เอ็นคุนคู ย้ายมา เชลซี จริง ๆ ในปีหน้า นักเตะรายนี้จะช่วยให้อะไร สิงห์บลูส์ ได้บ้าง?

ให้ความหลากหลาย

‘ticks all the boxes’ หรือที่แปลว่า ติ๊กถูกทุกช่อง นี่เป็นคำที่สื่อต่างประเทศใช้อธิบายความสามารถในเกมรุกที่ ‘เก่งรอบด้าน’ ของนักเตะคนนี้ เพราะ เอ็นคุนคู ทำได้หมดทั้ง เลี้ยง, ยิง, จ่าย ยืนตำแหน่งในแนวรุกได้ทั้ง ตรงกลาง และ ออกปีก

ซึ่งหากจะเจาะให้ลึกลงอีก ไล่จากความสามารถเฉพาะตัวของเขา ที่เด่นที่สุดก็คือการเลี้ยงบอล เอ็นคุนคู เลี้ยงบอลติดตีนมาก เขาเลี้ยงลากตัวประกบเปิดช่องว่างให้เพื่อนได้เป็นอย่างดี ทำได้ทั้งการลากจี้สร้างโอกาสให้เพื่อน และให้ตัวเอง

เขาคนที่มีทั้งการจบสกอร์และการจ่ายที่ดีพอ ๆ กันเลย โดยถ้าพูดถึงเรื่องการยิงประตู หลาย ๆ ลูกที่ เอ็นคุนคู ทำได้ มักจะมาจากการวิ่งสอดไปยิง ด้วยความฉลาดในการหาช่อง และสปีดที่ยอดเยี่ยมของเขา ส่วนเรื่องเข้าชาร์จเขาก็ทำได้ หรือจะซัดไกลก็พอมีให้เห็นบ้าง

ส่วนเรื่องการจ่ายหรือสร้างแอสซิสต์ ต้องบอกว่า เอ็นคุนคู นั้นเป็นนักเตะแนวรุกที่มีวิสัยทัศน์ หรือการตัดสินใจในการผ่านบอลค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเจ้าตัวเคยเล่นเป็นมิดฟิลด์มาก่อน ในสมัยเยาวชน และสมัยพึ่งขึ้นมาเล่นกับ เปแอสเช หรือสมัยก่อนที่เขาจะย้ายมา ไลป์ซิก นั่นเอง

ซึ่งด้วยความสามารถที่รอบด้าน จึงทำให้ เอ็นคุนคู เล่นได้ในทุกตำแหน่งในแนวรุก โดยหากดูจากซีซั่นก่อนกับฤดูกาลนี้ จะพบว่าตำแหน่งที่เขาลงเล่นมากที่สุดก็คือ หน้าต่ำ รองลงมาเป็น กลางรุก, กองหน้า, ปีกซ้าย และ ปีกขวา ตามลำดับ และสามารถทำได้ดีในทุกตำแหน่งอีกด้วย ด้วยความสามารถที่พร้อมจะเล่นในทุกพื้นที่โจมตีของเขา

มิหนำซ้ำ เขายังคุ้นชินกับการเล่นเพรสซิ่งแบบเข้มข้นตามสไตล์ของ ไลป์ซิก เราจึงคิดว่า เอ็นคุนคู น่าจะเข้าได้กับหลายทีม รวมถึง เชลซี 

ซึ่งเมื่อเราดู ‘3 แผนการเล่นหลัก’ ของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือคนใหม่ สิงห์บลูส์ ในสมัยที่ใช้กับ ไบรท์ตัน ในฤดูกาลที่แล้ว โดยที่ พ็อตเตอร์ เลือกใช้บ่อยสุดจะเป็น 3-5-2 หรือระบบหน้าคู่ ซึ่งเป็นอะไรที่เข้าทาง เอ็นคุนคู มาก เพราะเขามักจะโชว์ฟอร์มได้ดี หากมีคู่กองหน้ายืนเป็นพาร์ทเนอร์ ให้คอยทำชิ่งฉีกหาช่อง

ส่วนระบบที่ใช้รองลงมาอย่าง 3-4-3 ก็จะทำให้ เอ็นคุนคู ต้องยืนในตำแหน่ง หน้าเป้า หรือ ปีก ที่เขาจะถนัดน้อยลงมาหน่อย แต่หากมอบหน้าที่การเล่นที่ใช่ เขาก็น่าจะทำได้ดี

และแผนหลักสุดท้ายของ พ็อตเตอร์ ก็คือ 4-2-3-1 ในระบบนี้ เอ็นคุนคู จะสามารถยืนเป็นกลางรุกได้เลย และมันอีกหนึ่งในตำแหน่งถนัดของเขา 

เอาเป็นว่าหลัก ๆ หาก เชลซี ได้ เอ็นคุนคู มา และใช้ในตำแหน่งให้ยืนด้านหลังกองหน้าตัวเป้า น่าจะสามารถรีดศักยภาพที่ดีที่สุดของแข้งรายนี้ออกมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถที่หลากหลายและครบเครื่องของเขา ก็ทำให้ เอ็นคุนคู สามารถเล่นในตำแหน่งอื่น รวมทั้งริมเส้นได้เช่นกัน

 

ให้ประตูและแอสซิสต์อย่างสม่ำเสมอ

มองไปที่ทีม เชลซี ตอนนี้ หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาขาดอย่างชัดเจน คือตัวรุกที่สามารถสร้างผลงานยิงหรือจ่ายได้อย่างสม่ำเสมอ และหากได้ เอ็นคุนคู เข้ามา เขาจะมาเป็นจิ๊กซอว์ที่ขาดไปพอดิบพอดี

เพราะ เอ็นคุนคู นั้นเป็นชายที่เป็นทั้งท็อปสกอร์ และท็อปแอสซิสต์ของ ไลป์ซิก ในฤดูกาลที่ผ่านมา กับผลงาน 35 ประตู กับ 20 แอสซิสต์ จาก 52 นัดรวมทุกรายการ หรือมีส่วนร่วมถึง 55 ประตู จาก 52 เกม หรือมีค่าเฉลี่ยไม่ยิงก็จ่าย อย่างต่ำ ๆ 1 ครั้งต่อ 1 เกม

ซึ่งเมื่อดูถึงความเสมอ ในซีซั่นก่อน ใน บุนเดสลีกา นับตั้งแต่เกมวีค 6 เป็นต้นมา เอ็นคุนคู ไม่เคยพลาดการทำประตูหรือแอสซิสต์ติดกันเกิน 2 เกมเลย ส่วนมากคือทำได้ติด ๆ จะพลาดก็แค่เกมเดียว เกมถัดมาก็กลับมาทำผลงานได้แล้ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขาสม่ำเสมอในเรื่องยิง-จ่ายของเขา

และฤดูกาลนี้ก็ยังทำได้ดี ผ่านมา 9 เกมในฟุตบอลในรายการเยอรมัน เขาล่อไปแล้ว 6 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ หรือมีส่วนร่วมถึง 7 ประตู จาก 9 นัด ต้องบอกตามตรงว่าสถิติของเขานี่ระดับ ปีศาจ เหมือนกันนะ

 

ให้ระยะการใช้งานยาว ๆ

ด้วยอายุเพียง 24 ย่างเข้า 25 พร้อมกับมีประวัติการเจ็บเพียง 2 ครั้ง และไม่เคยเจ็บหนักเลย ถือว่ามีสภาพร่างกายที่ดีพอสมควร ซื้อมาคือใช้ได้อย่างต่ำเป็น 5-7 ปี ย้ำว่าแค่อย่างต่ำนะ

และเราจะขอการันตีความเก่งของชายนี้ ด้วยการเบียด เลวานดอฟสกี้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม บุนเดสลีกา ในฤดูกาลที่ผ่านมา มาแล้ว แถม เอ็นคุนคู ยังได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของ บุนเดสลีกา ที่ได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนถึง 4 ครั้ง ในฤดูกาลเดียว

ต้องบอกว่าด้วยความสามารถที่เก่งพร้อมรอบด้าน, อายุการใช้งานที่ได้ยาว ๆ และดีกรีที่มีพิสูจน์ชัดเจนแล้ว ราคาค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโรของเขา คือถูกไปเลย ถ้าดูตามเนื้อผ้ายังไงก็คุ้มที่จะเลือกจ่ายครับ

ก็ต้องมารอดูกันว่าในตลาดมกราคม หรือจะซัมเมอร์หน้า เชลซี จะสามารถทำตามแผนงาน และคว้าเพชร เม็ดงามที่ชื่อ เอ็นคุนคู คนนี้มาสู่ทีม และสู่ พรีเมียร์ลีก ได้หรือไม่?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline