logo-heading

แต่ดันใช้โอกาสเปลืองสุดๆ ก่อนสุดท้ายจะต้องถึงมือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซัพ ยิงประตูชัยให้กับ ปีศาจแดง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาทีมเก็บชัยชนะ 1-0 พร้อมกับ 3 แต้มสำคัญ

เพราะนัดนี้ทำให้ ปีศาจแดง ยังมีโอกาสเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม อยู่เหมือนเดิม เอาเป็นว่าเกมนี้มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ

- ครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด โอกาสเพียบ แต่จบไม่คม

สาเหตุที่สกอร์ครึ่งแรกยัง 0-0 จะบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ดีแต่ป้อ ล่อไม่เป็น ก็ไม่ใช่ เนื่องจากพวกเขามีโอกาสยิงประตูมากมาย แต่แค่ไม่เฉียบคมเท่านั้น ตลอด 45 นาทีแรก ขุนพล ปีศาจแดง ได้ซัดใส่ โอโมเนีย นิโคเซีย มากถึง 15 ครั้ง แต่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้

ถ้าจะถามว่าโอกาสไหนใกล้เคียงมากที่สุด มีมากมายจนนับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ลูกยิงไกลของ คาเซมิโร่ ระยะเกือบๆ 25 หลา บอลพุ่งแรงเป็นจรวด พร้อมส่ายแบบติดไซด์ก้อย แต่น่าเสียดายที่บอลชนคานดังสนั่น มิเช่นนั้นคงเป็นลูกเปิดซิงกับ ปีศาจแดง ที่สวยสะบัดไปเลย

หรือ จะเป็นโอกาสของ เฟร็ด ที่โหม่งหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ และ มีจังหวะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซ้ำจ่อๆแบบระยะเผาขน แต่ก็ซัดไปติดเซฟผู้รักษาประตูของ โอโมเนีย นิโคเซีย ที่ไม่รู้ไปกินอะไรมา สามารถป้องกันลูกยากๆไว้ได้หมด ไม่อย่างงั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ใส่สกอร์หนีห่างไป 3-4 ลูกแล้ว

อย่างไรก็ตาม การบุกเพลินๆของ ปีศาจแดง ก็เกือบกลายเป็นหนามทิ่มแทงตัวเองเหมือนกัน เพราะจังหวะที่ โอโมเนีย นิโคเซีย สวนกลับเร็ว มีช็อตที่ บรูโน่ เฟลิปเป้ ตัวจี๊ดของ โอโมเนีย นิโคเซีย กระชากหนี วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ไปแล้ว เสาสองมีเพื่อนเติมมา ถ้าจ่ายให้คือใส่สกอร์ได้เลย แต่พี่แกเลือกยิงเอง บอลเหินข้ามคานไม่ได้ลุ้น

- ครึ่งหลังก็โอกาสเพียบ แต่ปัญหาอยู่ที่การจบสกอร์

45 นาทีหลัง เป็นฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่จับขึง แล้วดึงขนใส่ทาง โอโมเนีย นิโคเซีย อยู่ฝั่งเดียว แต่ปัญหาหลักๆในเกมนี้เลยก็คือ การจบสกอร์ของ ปีศาจแดง ที่ไม่เฉียบคมกันเอง โดยเฉพาะช็อตหลุดเดี่ยวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่จับบอลลงอย่างนิ่ง ควบตีนหมา วิ่งฉีกกองหลังคู่แข่ง แต่จังหวะเอียงตัวยิง ซัดหลุดเสาออกไปอย่างเหลือเชื่อ

จริงๆยังมีโอกาสอีกมากมาย ทั้ง เฟร็ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส หรือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ตัวสำรอง แต่นอกจากไม่คมกันเองแล้ว ยังซัดไม่ผ่านมือ ฟรานซิส อูโซโฮ่ ผู้รักษาประตู โอโมเนีย นิโคเซีย ที่เกมนี้เซฟมือแตก จะมาแบบยากเย็นแค่ไหน ก็ป้องกันเอาไว้ได้

ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาไม่ได้มีโอกาสจบสกอร์มากนัก เพราะในกรอบเขตโทษนักเตะ โอโมเนีย นิโคเซีย ยืนเกะกะกันเต็มไปหมด เปิดครอสเข้ามาก็โดนทิ้งออกไปหมด จึงจำเป็นต้องยิงไกลจกานอกกรอบเขตโทษ ไม่เหมือนกับนัดแรกที่น้องๆคอยปั้นให้ แต่ พี่โด้ จบไม่ได้เอง

- สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงมาเป็นซูเปอร์ซัพ

ด้วยฟอร์มร่างทองของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ คงทำให้ เอริค เทน ฮาก ปวดหัวอยู่ไม่น้อย ในการจัดตัวผู้เล่นนัดหน้า เพราะเกมนี้ เขาลงมาในฐานะตัวสำรอง แทนที่ คาเซมิโร่ นาทีที่ 81 ซึ่งอยู่ในสนามไม่นาน ก็เกือบจะยิงประตูให้กับทีมได้เลย เพียงแต่ซัดไปติดเซฟ ฟรานซิส อูโซโฮ่ อย่างน่าเสียดาย

แต่คนมันจะปัง จะอยู่โมเมนต์ไหนมันก็ปัง เพราะช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังโหมบุกอย่างหนัก เพื่อเอาชนะให้ได้ และ สุดท้ายความพยายามก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อ จาดอน ซานโช่ โชว์ทักษะหลอกคู่แข่งหาช่องว่าง เปิดเข้ามาให้กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ยืนรอในกรอบเขตโทษ ก่อนจะแต่งเข้าขวา ยิงยัดตรงกลาง ผ่านบล็อค 2 คน และ ผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปซุกตาข่าย เรียกว่าเซฟมา 12 ครั้งตลอดเกม กลับไม่มีความหมายเลย

กลายเป็นประตูชัยให้ ปีศาจแดง เก็บ 3 คะแนนที่ต้องการ ถึงแม้ว่าโอกาสยิงของ ปีศาจแดง ตลอดทั้งเกม จะมีมากถึง 34 ครั้ง แต่อย่างน้อยลูกเดียวที่ทำได้ก็เพียงพอ กับการลุ้นเป็นแชมป์กลุ่มกับ เรอัล โซเซียดาด

- 3 แต้มนัดนี้สำคัญมากแค่ไหน ?

การเก็บ 3 คะแนนนัดนี้ของ ปีศาจแดง บอกเลยว่าสำคัญอย่างยิ่งครับ เพราะแข่งไปแล้ว 4 นัด เก็บไป 9 คะแนน ทำให้พวกเขายังมีโอกาสอยู่ในมือตัวเอง เพื่อทำแต้มแซง โซเซียดาด ไปจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มให้ได้

เพราะถ้า ปีศาจแดง ต้องการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบอัตโนมัติ ต้องจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเท่านั้น โดยตอนนี้ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด จ่าฝูง อยู่ 3 คะแนน และ มีคิววัดกันในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ดันไปทะลึ่งสะดุดขาตัวเอง ไม่ชนะในเกมเจอกับ เชอร์ริฟฟ์ นัดหน้าแล้วล่ะก็ บอกเลยว่างานเข้า !!

เนื่องจากการจบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม จะต้องเตะรอบเพลย์ออฟ เจอกับทีมอันดับ 3 ที่ร่วงมาจากรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อหาทีมผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งปีนี้อาจจะได้เห็นทีมยักษ์ใหญ่ ร่วงมาเล่นกันระนาว เพราะทีมอย่าง บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด และ ยูเวนตุส มีโอกาสร่วงตกรอบจาก ยูซีแอล มาเตะ ยูโรปา ลีก ทั้งหมด

จับตารอดูให้ดีเลยว่า ท้ายที่สุดแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบอันดับเป็นที่เท่าไหร่ ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปา ลีก ซึ่งทุกอย่างขึ้่นอยู่กับพวกเขาเองทั้งนั้น ไม่ต้องไปหวังพึ่งจมูกใครอีกแล้ว

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline