logo-heading

หลังจบเกมนี้ มีประเด็นน่าสนใจอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไปติดตามพร้อมๆกันได้เลยครับ

- อาร์เซน่อล หมดแรง ?

ด้วยความที่ มิเกล อาร์เตต้า กำลังพา อาร์เซน่อล ฟอร์มร้อนแรง ติดลมบนอยู่อันดับ 1 ของตาราง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการเล่นแต่อย่างใด ทว่าสิ่งเหล่านั้นมันส่งถึงอาการเหนื่อยล้า เพราะต้องกรำศึกหนักมาตลอดตั้งแต่เปิดซีซั่น ใช้ผู้เล่นชุดเดิม ในการโม่แข้งมาแล้ว 10 นัด ในเกมลีก แทบไม่มีการเปลี่ยนน่าตาผู้เล่น

ตลอด 45 นาทีแรก ไอ้ปืนใหญ่ เล่นได้ตามฟอร์มของตัวเอง และ สามารถขึ้นนำได้ แต่ว่าครึ่งหลังมันหนังคนละม้วน เพราะเห็นชัดเลยว่าพวกเขาเร่งไม่ขึ้น คล้ายๆกับนักเตะหลายคนเริ่มมีอาการล้า ยิ่งเจอลูกบดลูกบี้ และ ลูกหนักของ เซาธ์แฮมป์ตัน ยิ่งไปไม่เป็น

ตอนนำ 1-0 อาร์เซน่อล ดูเล่นนชิวๆ ประหนึ่งว่านำอยู่หลายพยายามผ่อนเกม เพื่อเซฟแรง แต่นั่นแหละครับ พอไม่บุกใส่ ก็โดนทำโทษ กลายเป็น เซาธ์แฮมป์ตัน มาตามตีเสมอ 1-1 และ จบลงด้วยการแบ่งแต้ม นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มกราคม ที่ อาร์เซน่อล เจ๊ากับคู่แข่ง เป็นวันที่แข้ง ไอ้ปืนใหญ่ เล่นกันอย่างผิดฟอร์มจริงๆ

ต่อจากนี้ คงต้องอยู่ที่การวางหมากของ อาร์เตต้า ล่ะครับ ว่านัดต่อไปในเกมลีก จะมีการหมุนเวียนผู้เล่นหรือไม่ จะสลับสับเปลี่ยนอย่างไร ไม่ให้คู่แข่งจับทางได้ หากใช้ผู้เล่นหน้าเดิมๆ ซึ่งก็คงขึ้นอยู่กับการได้พักฟื้น ดังนั้นเกม ยูโรปา ลีก ไม่ต้องสืบเลยว่า มิเกล อาร์เตต้า จะหมุนเวียนส่งตัวสำรองลงไปหาประสบการณ์อย่างแน่นอน

- กรานิต ชาก้า บุคคลสำคัญ ไอ้ปืนใหญ่

กรานิต ชาก้า จากคนที่ต้องเก็บกระเป๋าออกจากถิ่้นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อยู่รอมร่อ หลังจากมีปัญหากับแฟนบอลทีมตัวเอง แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์ก็เปลี่ยน เขากลายมาเป็นคนสำคัญของ อาร์เซน่อล ที่จะขาดไปไม่ได้ โดยซีซั่นนี้เขาโชว์ร่างทอง แบบที่สาวก ไอ้ปืนใหญ่ ต้องการเห็น

ปกติแล้ว ค่าเฉลี่ยการทำประตูของ กรานิต ชาก้า ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่เพียงแค่ 1 ประตู ต่อ 1 ซีซั่น เท่านั้น โดยเคยยิงมากสุดแค่ 4 ตุง จากการลงเล่น 29 นัด เมื่อฤดูกาล 2018-19 

อย่างไรก็ตาม ร่างทอง ของ ชาก้า เขาโดดเด่นทั้งการช่วยเกมรับ เติมขึ้นไปช่วยเกมรุก ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัด ไม่ต้องไปพะวงเรื่องเกมรับอย่างเดียวอีกแล้ว เขาจึงเป็นคีย์แมนคนสำคัญในระบบ อาร์เตต้า 

ถึงแม้ว่าเกมนี้ อาร์เซน่อล จะไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ก็จริง แต่ ชาก้า ก็เป็นคนทำประตูให้กับทีมได้อีกครั้ง ซึ่งเกม ยูโรปา ลีก กลางสัปดาห์ก่อน ก็เพิ่งซัลโวมาเช่นกัน ดังนั้นถ้าใครจะล้า ใครออกอาการเหนื่อย พวกสตาฟฟ์โค้ชจะต้องประคบประหงม ชาก้า ให้ดี อย่าให้บาดเจ็บเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจส่งผลร้ายแรงต่อทีมก็ได้

- เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมปราบลอนดอน

เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นสโมสรที่เป็นตัวแสบของทีมจากกรุงลอนดอน จริงๆ โดยเฉพาะการได้เล่นในถิ่นเซนต์ แมรี่ ซึ่ง อาร์เซน่อล คือเหยื่้อรายล่าสุด ที่ นักบุญแดนใต้ ไม่ยอมให้บุกมาหยิบ 3 แต้ม

ก่อนหน้านี้ เซาธ์แฮมป์ตัน เคยสร้างเซอร์ไพรส์ เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี ทีมท็อป 4 จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้วด้วยสกอร์ 2-1 จากนั้นก็เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 นับเป็นทีมจากกรุงลอนดอน ล้วนๆ ที่ไม่สามารถบุกมาเอาชนะ นักบุญแดนใต้ ได้เลย ตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น

ซึ่งผลงานในบ้านนี่แหละครับ จะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้ เซาธ์แฮมป์ตัน อยู่รอดตกชั้น หรือไม่ ถ้าหากโชว์ฟอร์มได้ดี ยามได้เล่นที่ เซนต์ แมรี่ แบบนี้ ก็มีโอกาส โดยตอนนี้พวกเขามี 12 คะแนน จาก 12 นัด ห่างโซนสีแดงเพียงแค่ 3 แต้ม เท่านั้น เรียกว่ายังมีโอกาสร่วงได้ทุกเมื่อ

- มวลอากาศเย็นทางลอนดอนเหนือ
คาดว่าจะเริ่มคลายตัว

มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมทางลอนดอนเหนือ คาดว่าน่าจะเริ่มคลายตัวมากกว่าเดิม หลังจากที่ อาร์เซน่อล หนาวสั่นกับการขึ้นครองจ่าฝูง ตั้งแต่สัปดาห์แรกๆของการเริ่มต้นซีซั่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยก่อนหน้าจะเริ่มต้นวีคนี้ มีแต้มนำหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็งแชมป์เบอร์ 1 อยู่ถึง 4 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ผลเสมอนัดนี้ของ อาร์เซน่อล นับว่าเสียหายอย่างยิ่ง ไม่ใช่ผลดีเลยสักนิด เพราะเท่ากับว่าพวกเขาจะมีแต้มนำหน้า เรือใบสีฟ้า อยู่เพียงแค่ 2 คะแนน เท่านั้น เรียกว่าโดนหายใจลดต้นคอเข้าไปทุกขณะ

เชื่อว่า ต่อให้ อาร์เซน่อล จะยังรั้งจ่าฝูง แต่ สาวก เดอะ กันเนอร์ คงมีอาการสั่นๆเหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกไปครับ นักเตะตัวหลักเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า ตัวสำรองที่ลงมา มาตรฐานยังเทียบชั้นไม่ได้ ดังนั้นไม่มีข้อแม้อื่น ช่วงสุดสัปดาห์หน้าพวกเขาจะต้องเก็บ 3 คะแนน สถานเดียว เนื่องจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัว แถมได้เล่นในบ้านด้วย ชัยชนะเท่านั้นที่จะทำให้ มวลอากาศเย็น ยังปกคลุมทางลอนดอนเหนือ

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline