logo-heading

ขุมกำลัง และ โค้ช

ตัวผู้เล่นของ สเปน ชุดนี้ค่อนข้างดีและมีดีกรี เนื่องจากชุดหลัก ๆ มาจากชุดแชมป์ ยูโร ปี 2008 หรือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้านั้นหลายคน โดยผู้เล่นหลักส่วนใหญ่จะมาจากทีม บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด สองสโมสรยักษ์ใหญ่ที่สุดของชาติ

ผู้รักษาประตู : อิเคร์ กาซิยาส
กองหลัง : การ์เลส ปูโยล, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้ และโจน แคปเดวิลา
กองกลาง: อันเดรียส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่ และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์
แนวรุก: ดาบิด บีย่า และ เฟร์นันโด ตอร์เรส กับ เปโดร ที่คอยสลับกันลง

พร้อมกับกุนซือสายเลือดกระทิงดุแท้ อย่าง บิเซนเต เดล บอสเก้ ผู้มีประสบการณ์อย่างโชกโชน โดยเขาได้รับแต่งตั้งหลังจาก สเปน ได้แชมป์ ยูโร 2008

สไตล์การเล่น

‘ติกิ ตาก้า’ คำนี้น่าจะอธิบายได้ง่ายที่สุด นั่นเป็นช่วงที่โลกฟุตบอลกำลังหมกหมุ่นกับสไตล์การเล่นแบบนี้มากที่สุด นั่นคือการเน้นการครอบครองบอล ด้วยการจ่ายบอลสั้นเป็นหลัก ทำให้ฝ่ายเรามีโอกาสบุกมากที่สุด และฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสบุกน้อยที่สุด

ซึ่งก็เป็นรูปแบบเดียวกับที่ บาร์เซโลน่า หรือทีมที่ได้รับการขนานนามว่า ‘ต่างดาว’ ในตอนนั้นใช้ และทัพกระทิงดุก็นำมาปรับใช้ได้อย่างลงตัวเช่นกัน


เริ่มรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยความหวาดเสียวเล็กน้อย

เรียกได้ว่าทำเอาแฟนบอลหน้าซีด ตั้งแต่นัดประเดิมสนามของทีม หลังสเปนไปพลิกล็อคแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม

แต่พวกเขาก็ยังสามารถพลิกกลับมาเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม จากการชนะ 2 นัดที่เหลือต่อ ฮอนดูรัส 2-0 และ ชิลี 2-1 เข้าที่ 1 ด้วยการมี 6 แต้มเท่ากับ ชิลี แต่พวกเขาดีกว่าทั้งลูกได้เสียและเฮดทูเฮด 

รอบน็อคเอาท์ สกอร์เดิมทุกนัด

ไม่แน่ใจว่าหลายคนยังจำได้ไหม ว่า สเปน ปีนั้น ชนะรอบน็อคเอาท์ด้วยสกอร์เดียวกันทุกนัด 1-0 เริ่มจากรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ต้องเจอกับชาติเพื่อนบ้านอย่าง โปรตุเกส ก็ได้ประตูเดียวของ ดาบิด บีย่า พาทีมเข้ารอบ

ต่อด้วยการเจอทีมเน้นรับอย่าง ปารากวัย ในรอบ 8 ทีม ก็เป็น บีย่า คนเดิมซัดโทนในช่วงท้ายเกมพา กระทิงดุ เข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเจอกับ เยอรมัน

โดยทัพอินทรีเหล็กชุดนั้น เต็มไปด้วยว่าที่สตาร์อย่าง โอซิล, ชไวนี่ และ มุลเลอร์ พร้อมกับตัวเก๋าอย่าง โคลเซ่ และ โพโดลสกี้

แต่ สเปน ก็สามารถฝ่ามาได้อีกครั้งด้วยประตูเดียว จากการรับบทฮีโร่โขกตุงของ การ์เลส ปูโยล พา สเปน เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ บอลโลก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ


นัดชิงแห่งความสดจำ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของรายการ เวิร์ล คัพ 2010 ตอนนั้น ก็คือการทำนายผลของเจ้าหมึกยักษ์ ‘พอล’ โดยการทายผลก่อนหน้านี้ 7 คู่ พอล ทายถูกทุกคู่ และในรอบชิงชนะเลิศ หมึกพอล ได้ทำนายให้ สเปน เป็นผู้ที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครอบครอง

แต่ไม่ว่าใครจะชนะ ทีมชาตินั้นก็จะกลายเป็นชาติที่ 8 ที่คว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติของตัวเอง โดยด้านคู่ชิงอย่าง เนเธอร์แลนด์ ก็มีดีกรีเด่นไม่แพ้กัน ชนะทุกเกมก่อนมาถึงนัดชิง โดยเฉพาะการชนะอีกตัวเต็งอย่าง บราซิล ในรอบก่อนรอง ถือว่าทัพกังหันเองก็มีโอกาสเป็นแชมป์โลกครั้งแรกพอ ๆ กับ สเปน เช่นกัน

เริ่มเกมมา เนเธอร์แลนด์ เปิดมาด้วยการเล่นอย่างดุดัน และทำให้เกมค่อนข้างหนักหน่วง โดยแม้นัดชิงครั้งนี้จะไม่ได้ดูมีคุณภาพเชิงแท็คติคซะเท่าไหร่นัก แต่มันก็แฝงและเต็มไปด้วยช็อตแห่งความทรงจำมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นจังหวะถีบอก อลอนโซ่ ของ ไนเจล เดอ ยอง แต่โชคดีที่โดนแค่เหลือง หรือจะจังหวะ กาซิยาส เซฟลูกหลุดเดียวของ อาร์เยน ร็อบเบน ด้วยเท้าของเขา

เกมต้องดำเนินไปถึงช่วงต่อเวลา หลังจบ 90 นาทียังไม่มีใครทำประตูได้ จนเข้าใกล้ช่วงท้ายขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างคิดว่านัดชิงครั้งนี้ คงจะจบด้วยการยิงจุดโทษแล้ว แต่ทว่าในนาทีที่ 116

กับภาพจำสุดท้ายของเกม ที่ เชส ฟาเบรกัส จ่ายบอลให้ อิเนียสต้า หลุดเข้าไปยิงทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเข้าประตู ก่อนตามมาด้วยเสียงเฮกึกก้อง มันคือประตูที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสเปน

เพราะมันได้ส่งให้พวกเขาคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ และได้กลายเป็นชาติยุโรปทีมแรกที่คว้าแชมป์ เวิร์ล คัพ นอกโซนยุโรปอีกด้วย


ดาวเด่นของทีม

นอกจาก สเปน จะเป็นแชมป์โลกได้อย่างน่าประทับใจ ผู้เล่นของพวกเขาชุดนี้ก็ได้สร้างความประทับใจไว้หลายคนเช่นกัน โดยหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 6 คน ดังนี้

- อิเคร์ กาซิยาส :  กัปตันผู้คว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ จากผลงานเซฟช็อตสำคัญช่วยทีมอยู่หลายต่อหลายหน รวมทั้งยังเป็นนายประตูที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดของรายการ ถึง 5 ครั้ง

- การ์เลส ปูโยล : เซ็นเตอร์ที่เล่นได้ดั่งปราการหินเหล็กกล้า เขาคือคีย์สำคัญที่ทำให้สเปนเก็บคลีนชีตได้ถึง 5 ครั้ง พร้อมยังมีผลงานทีเด็ด เป็นฮีโร่โขกชัยพาทีมเข้าชิงด้วย

- เซร์คิโอ รามอส : กองหลังผู้ยืนเคียงข้าง ปูโยล เขาลงเล่นทุกนาทีของการแข่งขัน ช่วย สเปน ได้เยอะมากทั้งในตำแหน่งแบ็คขวาและเซ็นเตอร์

- ชาบี เอร์นานเดซ : เขาคือชายผู้เป็นศูนย์กลาง คอยควบคุมแดนกลาง การันตีด้วยสถิติจ่ายบอลสำเร็จมากที่สุดของรายการ และมีจำนวนคีย์พาสมากที่สุด และมากกว่าทุกคนอย่างน้อย 10 ครั้งด้วย

- อันเดรียส อิเนียสต้า : เขาเฉิดฉายได้อย่างเต็มที่ จากการเล่นที่ได้รับอิสระ จนโชว์ฟอร์มเก่งได้ตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยผลงานเด็ดสุดแน่นอนคือการยิงประตูชัยในรอบชิงชนะเลิศ และคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ในรอบไฟน่อลด้วย

- ดาบิด บีย่า : บอลโลก 2010 ถือเป็นรายการที่ทำให้เขาได้โชว์คลาสที่แท้จริงของเขา ทั้งเฉียบคม ทั้งเก่ง และทำประตูสำคัญ โดยเฉพาะทำประตูชัยให้ทีมถึง 2 ครั้ง จนเจ้าตัวได้รับรางวัลทั้ง ซิลเวอร์ บู๊ท ด้วยการเป็นดาวซัลโวร่วม รวมถึง บรอนซ์ บอล หรือผู้เล่นยอดเยี่ยม ลำดับที่ 3 ของรายการ

ซึ่งทั้ง 6 คนที่เราได้กล่าวไป ล้วนติด ดรีมทีม หรือทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ทั้งหมด รวมถึงโค้ช สเปน อย่าง เดล บอสเก้ ก็ได้รับการโหวตเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมเช่นกัน


และสุดท้าย-ท้ายสุด ต้องบอกว่าเมื่อได้พูดถึง สเปน ชุดนี้แล้ว ยิ่งทำให้เราตื่นเต้นไปกับ บอลโลก ที่กำลังจะมาถึง เพราะมันทำให้เราได้ย้อนไปรำลึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ว่าแล้วว่าแต่ทุกคนละครับ คิดว่าบอลโลก ครั้งไหนน่าที่เป็นที่จดจำที่สุดสำหรับคุณ?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline