logo-heading

[ สถิตินักเตะ ]

ดาวซัลโว : คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ดาวยิง เปแอสเช และดาวยิง ลิเวอร์พูล นำเป็นท็อปสกอร์ของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ จากผลงานยิงคนละ 7 ประตูเท่ากัน 

ตำแหน่งรองลงมาเป็น 5 ประตู มีด้วยกัน 3 คน ได้แก่ เมห์ดี้ ตาเรมี่ หัวหอก ปอร์โต้, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าคนดังของ แมนฯ ซิตี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ไม่มีโอกาสได้ทำสถิติเพิ่มในปีนี้แล้ว หลัง บาร์เซโลน่า ของเขาชิงตกรอบไปเป็นที่เรียบร้อย

ดาวแอสซิสต์ : ลิโอเนล เมสซี่, เจา คันเซโล่ และ ดิโอโก้ โชต้า

ทั้งสามคนทำเท่ากันคนละ 4 แอสซิสต์ โดย คันเซโล่ ทำได้จากการลงสนาม 6 นัดเต็ม, เมสซี่ ลงสนาม 5 นัด และ โชต้า ลงเพียง 4 นัด ซึ่ง 3 จาก 4 แอสซิสต์ของเขา มาจากเกมที่เขาแฮตทริกแอสซิสต์พา ลิเวอร์พูล ชนะ เรนเจอร์ส 7-1 นั่นเองครับ

แมนออฟเดอะแมตช์ เยอะสุด : คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้

เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ เขาได้รางวัลนี้มากกว่าใครเพื่อน ด้วยจำนวนถึง 4 ครั้ง! จาก 6 เกม จากผลงานที่โดดเด่นในแทบทุกนัด เป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมประตูมากที่สุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ถึง 10 ลูก แบ่งเป็น 7 ประตู กับ 3 แอสซิสต์

น่าเสียดายที่ เปแอสเช ของเขาไม่สามารถจบในตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มได้ เพราะเป็นรอง เบนฟิก้า แค่ประตูนอกบ้านเท่านั้น ทำให้ ปารีส ของ เอ็มบัปเป้ มีโอกาสสูงที่จะต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบ 16 ทีม

วิ่งเร็วสุด : มิไคโล มูดริค กับ อุสมาน เดมเบเล่

คนแรกคือปีกดาวโรจน์ที่กำลังมาของ ชัคตาร์ โดเนตสก์ ส่วนอีกคนรู้จักกันดีปีกดิจิตอลของ บาร์เซโลน่า ทั้งสองคือนักเตะที่ทำ ท็อปสปีด ได้สูงที่สุดใน UCL ซีซั่นนี้ ด้วยความเร็วถึง 36.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่น่าเสียดายที่เราจะไม่ได้ชมสปีดของพวกเขาใน แชมเปี้ยนส์ ฤดูกาลนี้อีกแล้ว เนื่องจากต้นสังกัดของทั้ง 2 ได้ตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย ทั้ง บาร์เซโลน่า และ ชักตาร์ หล่นเป็นเล่น ยูโรปา ทั้งคู่

ชนะการเข้าปะทะมากสุด : ติอาโก้ อัลคันทาร่า

แม้จะลงตัวจริงไปแค่ 3 จาก 5 เกมใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ แต่กองกลางเบอร์ 6 ของ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงแสดงความยอดเยี่ยม และที่เปล่งแสงเป็นพิเศษในช่วงหลัง คือการช่วยเกมรับ ติอาโก้ มีจำนวนชนะการเข้าปะทะมากเป็นอันดันหนึ่งในรายการ ด้วยจำนวนถึง 14 ครั้ง เรียกว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดของ หงส์แดง แบบห้ามป่วยห้ามพัก ห้ามรักโรงบาลเป็นอันขาดครับ

เซฟเยอะสุด : ซิมง มินโญเล่ต์ กับ อนาโตลี่ ทรูบิน

คนแรกรู้จักกันดี มินโญเล่ต์ เขาคือหนึ่งในคีย์แมนที่พา คลับ บรูกก์ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร จากผลงานส่วนตัวถึง 31 เซฟ และยังเป็นผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีตได้เยอะที่สุดในฤดูกาลนี้ที่ 5 ครั้ง

และอีกคนที่ทำ 31 เซฟเท่ากันคือ อนาโตลี่ ทรูบิน นายด่านดาวรุ่งวัย 21 ของ ชัคตาร์ โดเนตสก์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอพาต้นสังกัดของเขาผ่านเข้ารอบ ต้องจบที่อันดับ 3 หล่นไปเล่นใน ยูโรปา ลีก ต่อไป

[ สถิติทีม ]

ทีมที่ทำผลงานดีสุด : บาเยิร์น มิวนิค

ทัพเสือใต้ เป็นเพียงสโมสรเดียวใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ที่สามารถชนะได้ทุกนัด เก็บ 18 แต้มเต็ม และพวกเขายังเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มด้วยสถิติชนะ 100% ได้ถึง 2 ฤดูกาลติด ซึ่งเป็นยุคของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ทั้งสองปี 

และ บาเยิร์น ยังเป็นทีมแรกที่ทำสถิติชนะ 100% ในรอบแบ่งกลุ่มแบบนี้ ได้ถึง 3 ครั้ง จากในรอบ 4 ฤดูกาลหลังสุดครับ

ทีมที่ทำผลงานแย่สุด : เรนเจอร์ส

ทีมดังจากลีกสก็อตแลนด์ ไม่ใช่แค่ทำผลงานห่วยที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่ยังห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์รอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก เลย จากการแพ้ทุกนัด จบ 0 แต้ม และมีลูกได้เสียติดลบ 20 ประตู ทำลายเจ้าของสถิติก่อนหน้าอย่าง ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อซีซั่น 2011/12 ที่รายนั้นมี 0 แต้มเท่ากัน แต่มีลูกได้เสียติดลบ 19 ซึ่งยังดีกว่า เรนเจอร์ส อยู่หนึ่งลูก

อันดับ 2 ที่ผลงานดีสุด : ลิเวอร์พูล

ทีมดังจากแอนฟิลด์ เก็บได้ 15 แต้ม พร้อมมีลูกได้เสียบวก 11 ประตู ถือเป็นการจบอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์รอบแบ่งกลุ่ม UCL เทียบเท่ากับที่ บาร์เซโลน่า เคยทำไว้ในซีซั่น 2020/21

โดยแม้จะดูเป็นอะไรที่น่าเสียดาย แต่มันก็ทำให้เห็นว่า นาโปลี จ่าฝูงเพื่อนร่วมกรุ๊ป A ในปีนี้ นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ และมันก็ทำให้เห็นว่าแม้ หงส์แดง จะมีผลงานขึ้น ๆ ลง ๆ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ แต่ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็ยังประคองตัวผ่านเข้ารอบได้แบบไม่ขึ้เหร่เลย

ทีมที่ยิงเยอะสุด : นาโปลี

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต่อให้ หงส์แดง จะแต้มสูง แต่ก็จบได้แค่เพียงอันดับ 2 ของกรุ๊ป เนื่องจากจ่าฝูงอย่าง นาโปลี ทีมดังแดนเนเปิ้ลส์ นั้นฟอร์มเกมรุกฮ็อตมาก ๆ ยิงได้ถึง 20 ประตูมากที่สุดในซีซั่น และมากกว่าทุกทีมอย่างต่ำ 2 ประตู และยังเป็นการยิงจากในกรอบเขตโทษถึง 19 ประตู มากกว่าทุกทีมอย่างต่ำ 4 ประตู 

โดย ณ ตอนนี้ นาโปลี ยังถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ลำดับ 6 ของรายการ จากที่ตอนก่อนเริ่มไม่ได้ถูกจัดอยู่ในสารบบด้วยซ้ำ

ทีมที่โดนยิงเยอะสุด : วิคตอเรีย พิลเซ่น

เรียกได้ว่าไม่แปลก เพราะพวกเขาเล่นจับไปอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ ร่วมกันเสือ, สิงห์, กระทิง อย่าง บาเยิร์น, อินเตอร์ และ บาร์ซ่า จึงโดนพี่ ๆ เหล่านี้ ถลุงรวมกันมาถึง 24 ประตู เป็นจำนวนการเสียประตูที่มากที่สุดในฤดูกาลนี้

และเทียบเท่าสถิติการเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เท่ากับ ลีเกีย วอร์ซอว์ ในฤดูกาล 2016/17 และ บาเต้ โบริซอฟ ในซีซั่น 2014/15 ครับ

ทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด : แมนฯ ซิตี้ กับ บาเยิร์น มิวนิค

ทีมที่โดนยิงเยอะสุดสุดไปแล้ว มาทีมที่โดนยิงน้อยสุดกันบ้าง นั่นคือ เรือใบสีฟ้า กับ เสือใต้ ที่เสียไปเพียงทีมละ 2 ประตูเท่านั้น โดย แมนฯ ซิตี้ นั้นน่าสนใจมาก เพราะทีมพวกเขาต้องให้นายทวารได้เซฟไปเพียง 9 ครั้งเท่านั้น ถือว่างานน้อยที่สุดในซีซั่นนี้เลย

ทีมที่เก็บคลีนชีตได้เยอะสุด : คลับ บรูกก์ กับ บาเยิร์น มิวนิค

ทั้งสองทีมเก็บคลีนชีตได้ในจำนวนเท่ากันที่ 5 ครั้ง โดย คลับ บรูกก์ จบในอันดับรองจ่าฝูง ส่วน บาเยิร์น จบในตำแหน่งจ่าฝูง และจะเห็นได้ว่า ทัพเสือใต้ เป็นทั้งทีมที่เสียประตูน้อยสุด และเก็บคลีนชีตได้เยอะสุด หรือจะเรียกว่าเป็นทีมที่มีสถิติเกมรับดีที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มนั่นเองครับ

ทีมที่ครองบอลเยอะสุด : แมนฯ ซิตี้

เรียกว่าน่าจะเดากันได้ไม่ยาก เพราะการครองบอลถือเป็นลายเซ็นหลักของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่แล้ว ซึ่งในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา ลูกทีมของเขามีเปอร์เซ็นต์การครองบอลต่อเกม สูงที่สุดในรายการ ถึง 64.2% โดยรองลงมาเป็น บาร์เซโลน่า และ เชลซี ที่ 62.5% และ 60.8% ตามลำดับครับ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline