ถ้าจะพูดถึงผู้เล่นนอกเวที 5 ลีกดังยุโรปที่ผลงานดี จับต้องได้ และน่าสนใจที่สุดคนหนึ่งในชั่วโมงนี้หนึ่งในนั้นก็คือ เมห์ดี้ ตาเรมี่ หัวหอกฟอร์มแรงจาก เอฟซี ปอร์โต้
มีหลายๆ สิ่งที่น่าสนใจในตัวนักเตะคนนี้ ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ ขอบสนาม อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ เมห์ดี้ ตาเรมี่ กันครับ
ประวัติ
เมห์ดี้ ตาเรมี่ เกิดวันที่ 18 กรกฏาคม ปี 1992 ที่ บูเชห์ร ประเทศอิหร่าน ปัจจุบันอายุ 30 ปี ส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว หรือ 187 เซนติเมตร ถนัดเท้าข้างขวา ประจำการในตำแหน่งกองหน้า ปัจจุบันสังกัดอยู่กับ เอฟซี ปอร์โต้ ได้สวมเสื้อหมายเลข 9
เส้นทางค้าแข้ง
เมห์ดี้ ตาเรมี่ เริ่มต้นเส้นทางความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับอคาเดมี่ในทีมท้องถิ่น บาร์กห์ บูเชห์ร ตั้งแต่ปี 2022 ก่อนจะย้ายมาต่อที่ อิหร่านจาวาน ในปี 2006 พอได้สัญญาอาชีพเต็มตัวเขาได้ประเดิมสนามในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ ชาฮิน บูเชห์ร เมื่อปี 2010 เขาได้ลงเล่นไปเพียง 7 นัดเท่านั้น ยิงได้ 1 ประตู แต่ไม่นานก็ต้องโดนสโมสรปล่อยตัวออกไปในช่วงหน้าหนาวปี 2012 เพราะต้องไปเกณฑ์ทหาร
จากนั้นพอออกจากกรมมาก็ได้โอกาสย้ายไปอยู่กับ อิหร่านจาวาน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 และก็ผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมจากการซัดไป 12 ประตูจากการลงเล่น 22 เกม ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของฤดูกาลในฤดูกาล 2013-14
หลังสร้างโปรไฟล์เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมใน อซาเดกาน ลีก นั่นก็ทำให้หลายๆ ทีมเริ่มแสดงความสนใจในตัวผู้ชายคนนี้ แต่สุดท้ายพี่แกก็เลือกย้ายไปอยู่กับ เปอร์เซโปลิส ในปี 2014 และก็ฝากผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมจากการซัดไป 55 ประตูจากการลงเล่น 112 นัดตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลครึ่ง
จากนั้นพอได้โอกาสย้ายไป กาตาร์ กับ อัล-การาฟาในปี 2018 ก็ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดี โดยในช่วงระยะเวลา 1 ปีครึ่งพี่แกเล่นกดไป 22 ประตูจากการลงเล่น 43 นัด มีค่าเฉลี่ย 2 เกมยิงได้ 1 ประตู และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ กาตาร์ สตาร์ คัพ มาครองได้ 1 สมัย
ประสบการณ์ในยุโรป
ความท้าทายครั้งใหม่และบทพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญของ เมห์ดี้ ตาเรมี่ เกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อ ริโอ อาฟ สโมสรในโปรตุเกส ได้มอบประสบการณ์บนเวทียุโรปให้กับเขา และก็ไม่ทำให้แฟนๆ และสโมสรผิดหวังหลังซัลโวไป 21 ประตูจากการลงเล่น 37 นัดในฤดูกาลแรกซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทำแฮตทริกในเกมที่เจอกับ อาเวส และการเรียก 3 จุดโทษให้กับทีม และสังหารเองทั้งหมดในวันที่พา ริโอ อาฟ เอาชนะทีมใหญ่อย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไป 3-2
ซีซั่นแรกของ เมห์ดี้ ตาเรมี่ พี่เล่นครองตำแหน่งดาวซัลโวของศึก พรีเมร่า ลีกา โปรตุเกส ที่ 18 ประตูร่วมกับ ปิซซี่ และ คาร์ลอส วินิซิอุส ของ เบนฟิก้า แต่สุดท้ายพี่แกเป็นฝ่ายได้ครองตำแหน่ง โบล่า ดา พราต้า เพราะจำนวนนาทีการลงเล่นนั้นน้อยกว่า
ปอร์โต้
ซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยผลงานที่เด่นและเข้าตาตลอดช่วงที่ผ่านมานั่นก็ทำให้สโมสรระดับท็อปของ โปรตุเกส อย่าง ปอร์โต้ ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัว เมห์ดี้ ตาเรมี่ มาร่วมทีมพร้อมกับเซ็นสัญญา 4 ปี
พี่แกเปิดซิงในสีเสื้อ ปอร์โต้ ในเกมที่เอาชนะ ปอร์ติโมเนนเซ่ 3-1 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน และนับตั้งแต่วันนั้น เมห์ดี้ ตาเรมี่ ก็เริ่มได้โอกาสมากขึ้น จากตัวสำรองก็ได้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของ ปอร์โต้ แบบเต็มตัว จนตอนนี้ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลพี่แกเล่นหวดไปทั้งหมด 61 ประตู ทำ 42 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 113 เกม เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมมากพอๆ กับการลงเล่นที่ 103 ประตู นับเป็นสถิติที่สุดยอดซึ่งน้อยคนนักที่จะทำได้แบบนี้
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รายการระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคนที่ไม่ใช่แค่นักเตะในยุโรป และสำหรับ เมห์ดี้ ตาเรมี่ พี่แกได้สัมผัสกับประสบการณ์ตรงนี้ในฤดูกาล 2020-21 และไม่นานก็เปิดซิงประตูแรกได้ทันทีในเกม รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เจอกับ ยูเวนตุส นั่นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวอิหร่านคนแรกที่สามารถพังประตูทำประตูได้ในศึก UCL มิหนำซ้ำประตูนั้นยังถูกจารึกว่าเป็นลูกยิงที่ไวที่สุดอันดับ 3 บนหน้าประวัติศาสตร์เพราะใช้เวลาแค่ 63 วินาทีแรกของเกมเท่านั้น
วันที่ 13 เมษายน ของปีเดียวกัน เมห์ดี้ ตาเรมี่ ได้โชว์ลูกจักรยานอากาศซึ่งเป็นประตูชัยในเกมที่เจอกับ เชลซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ถึงแม้ ปอร์โต้ ของเขาจะต้องตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 1-2 แต่ด้วยลูกยิงอันสวยสดงดงามของเขาทำให้ประตูนี้ได้รับเลือกให้คว้ารางวัล ประตูยอดเยี่ยมของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล รวมไปถึง ลูกยิงยอดเยี่ยมของเว็บไซต์ uefa.com อีกด้วย
ล่าสุดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2022-23 เมห์ดี้ ตาเรมี่ ก็กดไป 5 ประตู ทำไปอีก 2 แอสซิสต์จาก 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นดาวซัลโวร่วมกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และเป็นรองแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เท่านั้น พร้อมกับช่วย เอฟซี ปอร์โต้ คว้าตำแหน่งแชมป์ของกลุ่ม บี ทั้งๆ ที่ถูกมองว่าจะเป็นทีมที่ต้องไปเล่น ยูโรปา ลีก ด้วยซ้ำ
ทีมชาติ
เมห์ดี้ ตาเรเมี่ ได้โอกาสเป็นตัวแทนของ ทีมชาติอิหร่าน ตั้งแต่ปี 2011 โดยเริ่มต้นที่รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รวมไปถึงกับชุด ยู-23 ในปี 2023 ถึงโอกาสจะไม่ค่อยมีมากนัก แต่กับ อิหร่าน ชุดใหญ่ พี่แกกลับฝากผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมกับการลงเล่นไป 60 นัด กดไป 28 ประตูตั้งแต่ปี 2015 ถึง ปัจจุบัน
เกมแรกที่ เมห์ดี้ ตาเรมี่ ได้โอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อ ทีมชาติอิหร่าน นั่นก็คือเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ อุซเบกิสถาน ในปี 2015 จากนั้นก็ได้เล่นเกม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในวันที่ดวลกับ เติร์กเมนิสถาน ก่อนจะมาพังประตูแรกได้กับทีมชาติชุดใหญ่ในวันที่ถล่ม กวม ไป 6-0 ในเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นก่อนที่พี่แกจะพังประตูมาได้อย่างต่อเนื่องทั้งในเกมกับ กาตาร์, จีน, อุซเบกิสถาน และเขาก็มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้ไปผจญภัยที่ รัสเซีย เมื่อปี 2018 ด้วย
ปัจจุบันในวัย 30 ปี เมห์ดี้ ตาเรมี่ ก็ยังคงเป็นคีย์แมนสำคัญของ ทีมชาติหร่าน และก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมตีตั๋วไปลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ด้วย
สไตล์การเล่น
ว่ากันว่า เมห์ดี้ ตาเรมี่ เป็นผู้เล่นที่ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรเป็นพิเศษ เรื่องของความเร็วและความคล่องตัวก็ดีอยู่ในระดับหนึ่ง เทคนิคก็ไม่ได้มีมากมายนัก อาศัยความขยันและทุ่มเทอย่างหนัก เรื่องของบอดี้สรีระ ความหนาและส่วนสูง 187 เซนติเมตร ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถเข้าชนและเข้าปะทะกับศัตรูได้ดีรวมไปถึงการเล่นลูกกลางอากาศ
จุดแข็งที่สุดของเขาก็คือเป็นเรื่องเซนส์และสัญชาตญาตในการหาพื้นที่และอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ และยามอยู่ในกรอบเขตโทษขอบอกเลยว่านี่คือกองหน้าพันธุ์แท้ที่สามารถหาจังหวะง้างเท้ายิงได้อยู่เสมอและสามารถหวังผลได้อีกด้วย เรื่องทักษะการจบสกอร์น่าจะเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดสำหรับเขาก็สามารถใช้โอกาสได้ทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับเรื่องของการผ่านบอลและการปั้นเกมก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พี่แกทำได้ดีถ้าถูกจากสถิติผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา
ทีมที่สนใจ
ด้วยผลงานที่โดดเด่นและดีคงเส้นคงวาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของ เมห์ดี้ ตาเรมี่ จะอยู่ในความสนใจของทีมใหญ่ๆ ซึ่งพี่แกเคยมีข่าวว่าเป็นเป้าหมายของ อาร์เซน่อล เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา รวมไปถึง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รวมไปถึง แอตเลติโก มาดริด และอีกหลายๆ ทีมในยุโรปด้วย
ถึงแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 30 ปีแล้วก็จริง แต่ผลงานยังดีและคงเส้นคงวาติดต่อกันมาหลายปีแล้ว การได้โอกาสกับ ปอร์โต้ ก็น่าจะเป็นใบเบิกทางชั้นดี บางทีในเร็วๆ นี้เราอาจได้เห็น เมห์ดี้ ตาเรมี่ ได้โอกาสย้ายเข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวที 5 ลีกดังยุโรป และอาจจะเกิดขึ้นกับทีมใหญ่ๆ ด้วยก็เป็นได้
HaMu Dos Santos