logo-heading

กลับสู่บ้าน

ย้อนไปในช่วงวัยรุ่น เขามีเส้นทางอาชีพที่คล้ายกับเพื่อน ๆ ชาวสเปนอย่าง เชสก์ ฟาเบรกัส หรือ ชาบี อลอนโซ่ หรือ อัลบาโร อาร์เบลัว กับการที่ ปิเก้ ตัดสินใจย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่อายุยังน้อย

และแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่สามารถเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอ แต่เขาก็ได้รับประสบการณ์การคว้าแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะแข้งดาวรุ่ง

ก่อนที่ในปี 2008 เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้มาคุมทีมบาร์เซโลน่า ปิเก้ ก็ได้ทำการกลับมาสานฝันกับสโมสรที่เขาอยู่มาตั้งแต่เยาวชน ซึ่งอาจจะเป็นการพูดได้ว่า นี่เป็น 'การตัดสินใจที่ดี' ของเขาเลยนะ กับการย้ายออกไปงอกเงยใน พรีเมียร์ลีก เพื่อกลับมายิ่งใหญ่และเติบโตใน ลาลีกา อย่างเต็มที่ครับ

ประตูแรกกับ บาร์ซ่า

ไม่แน่ใจว่าหลายคนยังจำกันได้ไหม? โดย เคราร์ด ปิเก้ เปิงซิงสกอร์แรกให้กับทีมรักของเขาได้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2008 นัดที่พาทีมชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 5-2

ก่อนจากนั้นจะตามมาอีกกว่าครึ่งร้อย รวมเบ็ดเสร็จเขาทำไป 53 ประตูกับ บาร์ซ่า ถือเป็นตัวเลขที่ใช้ได้เลยสำหรับผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ และมันก็ยังทำให้เขาถูกจดจำในฐานะกองหลังที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมทั้งเกมรับ และการคอยช่วยเกมรุกครับ

ชนะ 6-2 ใน เบร์นาเบว

คงเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่ ปิเก้ ไม่มีวันลืม กับเกมสุดอัศจรรย์ที่เขาพาทีมรักบุกไปชนะ เรอัล มาดริด ทีมคู่แค้นตลอดกาลแบบคาบ้าน ด้วยสกอร์ถึง 6-2 เมื่อปี 2009

และ ปิเก้ ก็คือชายผู้ยิงปิดสกอร์ลูกสุดท้าย พร้อมวิ่งดีใจดึงเสื้อ บาร์ซ่า โชว์แผ่หล้าต่อหน้าแฟน ๆ ราชันชุดขาว ในสนาม และนั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มความเป็นโคตรอริต่อทีม ๆ นี้ของเขา

ภาพจำ ชูห้านิ้ว

ก็อย่างที่เราบอก ปิเก้ นั้นได้กลายมาเป็นหนึ่งในวายร้ายสำหรับแฟน เรอัล มาดริด และหนึ่งในภาพจำของเขาก็คือการ ชูมือ 5 นิ้ว ให้แฟน ๆ ที่ คัมป์ นู เพื่อแทนสัญลักษณ์ หลังเกมที่พา บาร์เซโลน่า ถล่มชนะ ราชันชุดขาว ไปถึง 5-0

และ ปิเก้ เองก็เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ดี ๆ ใน เอล กลาซิโก้ หลายต่อหลายครั้ง ทั้งการชนะ 6-2, 5-0, 5-1, 4-0, 3-0 เขาล้วนผ่านช่วงความทรงจำดี ๆ ในการเจอทีมคู่อริมามากมาย

กลับมาเหยียบ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ปิเก้ เคยให้คำนิยาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ว่าเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของเขา เมื่อ บาร์เซโลน่า ได้จับฉลากมาเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่า ปิเก้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2019

และ ปิเก้ ก็ได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม พาทีมบุกมาชนะ 1-0 ก่อนไปชนะที่ คัมป์ นู ต่ออีก 3-0 ย้อนไปเรายังก็คิดว่าไม่น่าเชื่อ ว่า ยูไนเต็ด จะยอมปล่อยตัวแข้งรายนี้กลับมา บาร์ซ่า ด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านยูโร เมื่อปี 2008

ประกาศศักดา เวทียุโรป

แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของ ปิเก้ กับ บาร์ซ่า เกิดขึ้นจากการเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่าเขา ในรอบชิงเมื่อปี 2009 ซึ่งทางด้าน ปีศาจแดง หวังจะกลายเป็นทีมแรกที่รักษาแชมป์ UCL แต่ทำไม่สำเร็จ

เพราะต้องพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า แต่ทว่าส่วนหนึ่งเหตุการณ์อาจจะต่างออกไป หากในจังหวะช่วงต้นเกมที่ วิคตอร์ บัลเดส เซฟลูกฟรีคิกกระฉอก แล้วเกือบโดนผู้เล่น แมนยู ซ้ำ แต่ได้ชายที่ชื่อ ปิเก้ นอนสกัดตวัดได้ทัน

และจากจุดนั้น ปิเก้ ก็สามารถสานต่อความสำเร็จในถ้วยยุโรป ด้วยการคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์กับ บาร์ซ่า ได้ถึง 3 ครั้ง

สะสมตาข่าย

หนึ่งในจุดที่หลายคนน่าจะจำได้ คือการที่ เคราร์ด ปิเก้ มักจะตัดตาข่ายโกล มาสะสมในเกมที่เขาสามารถคว้าแชมป์ได้ โดยเจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์กับ ทัพอาซูลกราน่า ได้มากถึง 30 รายการ! 

และครั้งหนึ่งเจ้าตัวไม่ได้ทำแค่การตัดตาข่าย แต่เอาไปแม้งทั้งหมดเลย คือเมื่อครั้งที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2011 ที่สนาม เวมบลี่ย์ นั่นเอง

แชมป์โลก

นี่สิ่งที่เหล่านักเตะทุกคนใฝ่ฝัน แต่น้อยคนนักที่จะทำมันให้เป็นจริงได้ โดย ปิเก้ ได้เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของทีมชาติ สเปน ชุดคว้าแชมป์โลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ 

ด้วยการออกสตาร์ลงตัวจริงทั้ง 7 เกม เคียงคู่กับเซ็นเตอร์เพื่อนร่วมสโมสรอย่าง การ์เลส ปูโยล ทั้งสองโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอดรายการ ช่วยให้ชาติเสียเพียงแค่ 2 ประตู และเก็บคลีนชีตได้ตลอด 4 นัดในรอบน็อคเอาท์ 

ซึ่งแม้ผู้คนมักจะจดจำช็อต อันเดรส อิเนียสต้า ยิงประตูชัยใส่ เนเธอร์แลนด์ ในนัดรอบชิง แต่หนึ่งคีย์สำคัญของความสำเร็จ อย่างการเล่นเกมรับของ ปิเก้ ในทัวร์นาเมนต์นั้น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ

แชมป์ ยูโร

ไม่เพียงแค่คว้าแชมป์โลก ปิเก้ สานต่อความสำเร็จกับทีมชาติ สเปน ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่พาชาติคว้าแชมป์ทวีปยุโรปในอีก 2 ปีถัดมา ซึ่งคราวนี้เขาได้ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ เซร์คิโอ รามอส นักเตะจากสโมสรคู่อริ เรอัล มาดริด

และมันก็เป็นอีกทัวร์นาเมนต์ที่เกมรับทัพกระทิงดุ ได้เป็นหนึ่งในปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จ ด้วยการเก็บคลีนชีต 5 นัดติดต่อกัน รวมถึงการชนะ อิตาลี 4-0 ในรอบชิงชนะเลิศ และ ปิเก้ ก็ได้รับการการันตีความเก่งกาจ จากการมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นั้นด้วย

ทริปเปิ้ลแชมป์ ถึง 2 ครั้ง!

การคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ คือหนึ่งในสิ่งที่มีผู้เล่นไม่เพียงไม่กี่คนที่ทำได้ แต่ เคราร์ด ปิเก้ กลับทำมันได้ถึง 2 ครั้ง! หลังกองหลังชื่อดังพา บาร์เซโลน่า คว้าทั้งแชมป์ ลาลีกา, แชมเปี้ยนส์ ลีก และ โคปา เดล เรย์ ในซีซั่น 2008/09 ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ทีมถูกเรียกว่า ‘ต่างดาว’

และเขาก็พา อาซูลกราน่า ทำมันได้อีกครั้ง ในอีก 6 ปีถัดจากนั้น ในยุคของ หลุยส์ เอ็นริเก้ หรือยุคที่ผู้คนมักจะเรียกว่า MSN

โดยนั่นได้ทำให้ ปิเก้ กลายเป็นเพียงหนึ่งใน 7 ผู้เล่น บาร์ซ่า ที่สามารถคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้ถึง 2 ครั้ง เคียงข้างกับเหล่าผู้เล่นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, ชาบี เอร์นานเดซ หรือ อิเนียสต้า ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะและเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน


และ ปิเก้ ก็เตรียมจะมีอีกโมเมนต์ดี ๆ ทิ้งท้าย ในคืนวันเสาร์นี้ กับเกมอำลาของเขาที่สนาม คัมป์ นู ที่จะเจอกับ อัลเมเรีย เวลา 3.00 น. พลาดไม่ได้เลย

และท้ายที่สุดนี้ แม้อาชีพค้าแข้งของเขากับ บาร์ซ่า กำลังจะจบลง แต่ดูเหมือนในอนาคตเราน่าจะเห็นชายคนนี้กลับมาในสโมสรที่เขารักอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะ ‘ประธานสโมสร’ แบบที่เขาฝัน ซึ่งมันก็คงเป็นสักวันใดวันหนึ่ง และก็อย่างที่ ปิเก้ ได้พูดในคลิปอำลาและครับว่า

“พวกคุณทุกคนรู้จักผมดี ไม่ช้าก็เร็ว ผมจะกลับมา”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline