logo-heading

แต่ชัยชนะนัดกล่าว ก็ทำเอาสาวก เดอะ ค็อป หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนกัน เพราะ ไก่เดือยทอง บุกแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ในช่วง 45 นาทีหลัง ทั้งยิงชนคาน และ เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา แต่ก็ได้แค่ลูกเดียวจาก แฮร์รี่ เคน สุดท้ายก็เป็น หงส์แดง ที่รักษาสกอร์เอาไว้ได้ ซึ่งเกมนี้มีสถิติหลายๆอย่างเกิดขึ้น และ การลุ้นท็อปโฟร์ที่สู้กันสนุกมากจริงๆ เอาเป็นว่าไปติดตามประเด็นที่น่าสนใจในเกมนี้กันครับ

- โม ซาลาห์ กลับมาปังแล้ว

ช่วงออกสตาร์ทซีซั่น ผลงานของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นับว่าตกลงไปเยอะมาก ด้วยความที่เขาต้องถ่างออกไปเล่นริมเส้น ทำให้โอกาสทำประตูน้อยลง และ ส่งผลไปถึงฟอร์มการเล่นของทีม

แต่หลังจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ปรับระบบให้ ซาลาห์ ขยับเข้ามาอยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น ทำให้ บังโม กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง เหมือนเกมที่เขาซัด 2 ประตู ช่วยให้ หงส์แดง บุกไปเด็ดปีก ไก่เดือยทอง ถึงถิ่น

เท่ากับว่าตอนนี้ โม ซาลาห์ ซัดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงเล่น 10 นัดหลังสุด ทุกรายการ และ เป็นประตูที่ 125 บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เทียบเท่ากับ นิโกล่าส์ อเนลก้า โดยเป็นการบ่งชี้ที่ชัดเจนเลยว่า การให้ ซาลาห์ เล่นเป็นกองหน้า หรือ ขยับเข้าใกล้กรอบเขตโทษมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ 4-4-2 หรือ 4-3-3 เขาจะแสดงประสิทธิภาพได้ดีเหลือเกิน

ดังนั้นชั่วโมงนี้ ลิเวอร์พูล ต้องรักษาสภาพร่างกายของ ซาลาห์ ให้ดีที่สุด ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ก่อนถึงช่วงพักเบรก ฟุตบอลโลก 2022 เพราะเขาจะเป็นคนสำคัญที่จะช่วยพา หงส์แดง กลับไปชิงตำแหน่งท็อปโฟร์

- ถึง สเปอร์ส จะพ่ายแพ้ แต่ยังพอเห็นข้อดีอยู่บ้าง

ช่วง 5 นัดที่ผ่านมา ใครเป็นแฟนบอล สเปอร์ส คงมีปัญหาด้านหัวใจกันบ้าง เพราะพวกเขามักจะเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งแทบทุกนัด แต่ก็จะกลับมายิงตีเสมอ และ พลิกแซงเก็บ 3 คะแนนได้อย่างปาฏิหาริย์ เหมือนอย่างเช่นเกมพลิกนรกเอาชนะ บอร์นมัธ 3-2 ทั้งๆที่โดนนำไปก่อน 0-2 รวมถึงนัดพลิกแซงเอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยสกอร์ 2-1

เรียกว่าเกมรับค่อนข้างแย่ เสียประตูอยู่ตลอด เช่นกันกับเกมเจอ ลิเวอร์พูล พวกเขาก็ทำผิดพลาด จากช็อตที่ เอริค ไดเออร์ จะโหม่งคืนหลัง แต่ดันไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกข้ามหัว อูโก้ ยอริส ถึงแม้ สเปอร์ส จะตีตื้นมาจาก แฮร์รี่ เคน แต่คู่แข่งเป็น หงส์แดง จึงไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีก

จากการเสียประตู 2 นัดล่าสุด ทำให้ สเปอร์ส โดนคู่แข่งกระซวกไส้ไปแล้วถึง 8 ลูก จาก 4 นัดหลังสุด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับว่าเป็นสิ่งที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะมิเช่นนั้นตำแหน่งท็อปโฟร์ที่พวกเขาครองอยู่ อาจหลุดไปในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของ สเปอร์ส ในวันที่พ่ายแพ้ ก็คือการได้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ กลับคืนสู่ทีม ในวันที่ต้องเสีย ซน ฮึง-มิน แนวรุกคนสำคัญออกไป เพราะอย่างในเกมนี้ คูลูเซฟสกี้ ลงสนามมาเป็นตัวสำรอง เขาเล่นไปเพียง 1 นาที 21 วินาที ก็สามารถทำแอสซิสต์ให้กับ แฮร์รี่ เคน ได้ทันที ดังนั้นอย่างน้อยการมีนักเตะรายนี้ น่าจะทำให้ สเปอร์ส มีเกมรุกที่น่ากลัวเหมือนเดิม

- คล็อปป์ พาทีมเก็บชัยเกมเยือนนัดแรก

อาถรรพ์ที่ยังตามมาหลอกหลอนแฟนบอล ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ไม่เลิก ก็คือผลงานเกมเยือน บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะก่อนหน้าจะมาบุกถิ่น ไก่เดือยทอง พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย โดยเกมเยือนล่าสุดคือบุกไปแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บ๊วยของลีก ด้วยสกอร์ 0-1

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล สามารถทำลายอาถรรพ์เกมเยือน บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ จากการบุกมาปราบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำให้ หงส์แดง คว้าชัยเกมเยือนได้เป็นนัดแรก จากการลงสนาม 6 นัด โดยก่อนหน้านี้แบ่งเป็นเสมอ 2 นัด และ แพ้ถึง 3 นัด

นอกจากนี้ การบุกมาคว้า 3 แต้มใหญ่ จากอ้อมอก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังเป็นการตอกย้ำว่า เมื่อไหร่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทัพ หงส์แดง เจอกับ ไก่เดือยทอง แทบไม่เคยพบกับความปราชัย โดย 17 นัดหลังสุดที่พบกัย ลิเวอร์พูล แพ้ไปแค่นัดเดียวเท่านั้น โดยชนะได้ถึง 10 นัด และ เสมออีกเพียงแค่ 6 นัด

- ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งท็อปโฟร์

การพ่ายแพ้ต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รวมถึงการโดน ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกตบคาบ้าน ทำให้ความหวังการลุ้นติดท็อปโฟร์ของ ลิเวอร์พูล ยากดั่ง เข็นครกขึ้นภูเขา แต่กระนั้นการที่บุกมาเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นั้น ทำให้ หงส์แดง ขยับจากอันดับ 9 ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 จากการแข่ง 13 นัด เก็บไป 19 คะแนน

เรื่องลุ้นแชมป์ให้ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะการไล่ตาม อาร์เซน่อล ถึง 15 คะแนน แทบเป็นไปได้ยากมากที่จะตามทัน ดังนั้นตำแหน่งท็อปโฟร์คือสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องโฟกัส ยิ่งสัปดาห์นี้ ทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ทั้งคู่ ทำให้ลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ เริ่มขยับเข้ามาหายใจรดต้นคอมากขึ้น

อยู่ที่ว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้มันสม่ำเสมอได้หรือไม่ เพราะจากตารางคะแนน พวกเขาตามหลัง ไก่เดือยทอง อันดับ 4 อยู่ 7 คะแนน นับว่าช่องว่างยังห่างพอสมควร ดังนั้น หงส์แดง จะต้องต่อยอดจากการชนะ สเปอร์ส ให้ได้ อย่าทำตัวเป็น โรบินฮู้ด ที่มักเอาแต้มไปแจกให้กับทีมท้ายตาราง

ฮาย ฮาวดี้
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline