logo-heading

ทำให้สถานการณ์โอกาสผ่านเข้ารอบของกลุ่มพลิกผันทันที และ อาจจะรู้ผลได้ทันทีในการแข่งนัดต่อไป เอาเป็นว่าหลังจากผ่านเกมแรก กรุ๊ป ออฟ เดธ ที่หลายคนมอง ชาติไหนจะได้ไปต่อ หรือ ต้องพอแค่นี้ มาวิเคราะห์พร้อมๆกันครับพี่น้อง

สเปน

ทีมชาติสเปน ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ โดนวิจารณ์แบบจัดหนัก ตั้งแต่ลิสต์ 55 คนแรก เพราะไม่ยอมเรียกตัว ดาบิด เด เคอา นายทวารจอมหนึบจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 ทั้งๆที่ฟอร์มยอดเยี่ยม ไหนจะตัดชื่อ เซร์คิโอ รามอส กับ ติอาโก้ อัลคันตาร่า 2 ตัวเก๋า ออกไปอีก จึงมีหลายๆคนแอบแช่งให้ กระทิงดุ ตกๆไปซะ

อย่างไรก็ตาม เอ็นริเก้ ก็ตอกกลับคำวิจารณ์เหล่านั้นอีกครั้ง ด้วยการเลือกตัวผู้เล่นที่เขามองว่าเหมาะสมกับทีม และ จัดการไล่ถล่ม คอสตาริกา แบบเละเทะ 7-0 เป็นชาติที่ยิงประตูได้มากสุดแล้ว ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 หนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดาวรุ่ง และ ยังยึดตัวหลัก กระทิงดุ ได้อีกหลายปี

ชัยชนะเหนือ คอสตาริกา ทำให้สถานการณ์ของ สเปน มีโอกาสที่จะตีตราจองสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้วล่ะครับ ต่อให้เกมหน้าจะต้องพบกับศึกหนักอย่าง เยอรมัน แต่กระนั้นถ้าหาก กระทิงดุ หยิบผลเสมอมาได้เป็นอย่างน้อย โอกาสเข้ารอบก็จะมีมากกว่า 80 % เพราะพวกเขาจะมี 4 คะแนน ได้เปรียบ อินทรีเหล็ก แบบเต็มประตู โดยเฉพาะลูกได้-เสีย ที่สะสมเอาไว้

ถึงแม้ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ สเปน นัดถล่ม คอสตาริกา จะใช้กองหน้าแบบ ฟอลส์-ไนน์ เหมือนกับทีมชาติเยอรมัน แต่จากการยิง 7 เม็ด คงทำให้นักเตะแต่ละคนผ่อนคลายมากขึ้น ผิดกับแข้ง อินทรีเหล็ก ที่จะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นลูกทีม หลุยส์ เอ็นริเก้ พร้อมลุยเต็มอัตราศึก ฟอร์มขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวทีมไหนอีกแล้ว

เยอรมัน

หรือว่าเจ้าของแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 อย่างทีมชาติเยอรมัน จะกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่ม เวิลด์ คัพ 2 สมัยซ้อน ? เนื่องจากผลงานประเดิมสนาม ด้วยการพ่ายแพ้ ญี่ปุ่น 1-2 เป็นอะไรที่เสียหายอย่างใหญ่หลวง เพราะมันเป็นนัดที่พวกเขาควรจะคว้า 3 แต้ม

แต่เพราะความประมาท และ ชะล่าใจจนเกินไป เหมือนท่าวิ่งสับขาของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ที่ทำใส่นักเตะทีมชาติญี่ปุ่น กลับมาย้อนทำร้ายพวกเขาเอง โอกาสมากมายที่จะปิดกล่องตอกฝาโรง ทว่าความเฉียบคมคือสิ่งที่ เยอรมัน ชุดนี้ ดูจะขาดหาย การไม่มีหน้าเป้าอาชีพ เริ่มส่งผล เนื่องจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ ยังไม่ตอบโจทย์ในตำแหน่งนี้

นัดต่อไปของ เยอรมัน คือแมตช์ชี้ชะตาเลยว่า จะต้องออกจากทัวร์นาเมนต์ หรือ ยังได้ลุ้นต่อ โดยพวกเขาจะต้องเจอกับทีมชาติสเปน ซึ่งข้อแม้เดียวที่ต้องไม่เกิดขึ้น ก็คือทัพ อินทรีเหล็ก ห้ามแพ้ กระทิงดุ โดยเด็ดขาด หรือ ต่อให้เสมอ ก็อาจไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบน็อคเอาท์ด้วยซ้ำ

เพราะลองคิดดูว่า ถ้า เยอรมัน เสมอกับ สเปน พวกเขาจะมีแค่ 1 แต้ม ส่วน กระทิงดุ 4 แต้ม และ หาก ญี่ปุ่น เอาชนะ คอสตาริก้า ก็จะมี 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบทันที ทำให้นัดสุดท้ายของ อินทรีเหล็ก ต้องยิงใส่ คอสตาริกา แบบยับๆ เพราะลูกได้-เสียเป็นรองหลายช่วงตัว และ ต้องหวังว่าผลอีกคู่จะเป็นใจ คือยืมจมูกคนอื่นหายใจนั่นล่ะ 

ซึ่งดูจากนี้ตรงนี้มีเปอร์เซ็นต์ที่ เยอรมัน จะตกรอบมากกว่า ดังนั้นถ้าไม่อยากยืมจมูกทีมอื่นหายใจ ก็ต้องชนะใน 2 แมตช์ที่เหลือให้ได้สถานเดียว นับเป็นโจทย์ที่ยากมาก แต่ก็ใช่ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ได้

ญี่ปุ่น

หลังรู้ผลการจับสลากแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 แอบเสียดายทีมชาติญี่ปุ่น ที่ต้องมาอยู่ร่วมสายกับ เยอรมัน และ สเปน เพราะตามหน้าเสื่้อแล้ว ใครๆก็มองว่า กระทิงดุ กับ อินทรีเหล็ก น่าจะกอดคอกันผ่านเข้ารอบ แต่ขุนพลเลือดซามูไร ทำให้เห็นแล้วว่า "เอเชีย ไม่ใช่หมูไว้ให้ทีมอื่นเคี้ยว"

เพราะ ญี่ปุ่น ชุดนี้ มีผู้เล่นค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปมากถึง 19 จาก 26 คน นำมาโดย มายะ โยชิดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ หรือ คาโอรุ มิโตมะ เป็นต้น ดังนั้นเรื่องของประสบการณ์ พวกเขาไม่เป็นสองรองใคร และ ไม่จำเป็นต้องกลัวทั้ง สเปน หรือ เยอรมัน 

ซึ่งเลือด ซามูไร ก็ทำให้เห็นด้วยการทำผลงานช็อคโลก พลิกนรกกลับมาเอาชนะ เยอรมัน 2-1 แบบที่แฟนบอลทั่วโลกต้องลุก สแตนดิ้ง โอเวชั่น โดยเฉพาะฟอร์ม 45 นาทีหลัง ที่ไล่บี้ ไล่บด ไล่กด จนทาง อินทรีเหล็ก ไปไม่เป็นเหมือนกัน ซึ่งคนที่ทำประตูได้ก็คือ ทาคุมะ อาซาโนะ กับ ริทสึ โดอัน ก็เป็น 2 นักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในเยอรมัน ทั้งหมด

จากการเอาชนะ เยอรมัน แบบสุดเซอร์ไพรส์ ทำให้ความหวังผ่านเข้ารอบของทีมชาติญี่ปุ่น ดูสดใสมากกว่าเดิมขึ้นมาทันที เพราะนี่คือ 3 แต้มใหญ่ที่ได้มาจาก เยอรมัน ดังนั้นถ้านัดต่อไปขุนพล ซามูไร เอาชนะ คอสตาริกา ได้ล่ะก็ จะเก็บ 6 แต้ม โอกาสผ่านเข้ารอบมากกว่า 90 % แต่ก็ประมาทไม่ได้ โดยยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง สเปน กับ อินทรีเหล็ก อีกทีนึง

คอสตาริกา

ถึงแม้ว่ายังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด ให้ลงเล่น แต่ต้องกราบเรียนกันตามตรงเลยว่า โอกาสตกรอบของ คอสตาริกา มีสูงมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะนอกจากความซวยที่จับสลากมาอยู่ กรุ๊ป ออฟ เดธ แล้ว ยังต้องมาประเดิมแมตช์แรก ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการแพ้ สเปน แบบเละเทะ 0-7

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า เวิลด์ คัพ จะใช้เกณฑ์วัดเข้ารอบเป็นคะแนน และ ตามมาด้วย ลูกได้-เสีย ดังนั้นการเสียถึง 7 ประตู แทบจะหมดความหวังไปต่อ เว้นแต่ว่า คอสตาริกา จะสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการเอาชนะทั้ง ญี่ปุ่น และ เยอรมัน ในอีก 2 นัดที่เหลือ

ซึ่งในทางทฤษฎีมันย่อมเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติมันดูยากเย็นเหลือเกิน เพราะเราได้เห็นแล้วว่า ญี่ปุ่น เผ็ดร้อนขนาดนั้น ถึงกับทำเรื่องช็อคโลกเอาชนะ เยอรมัน มาได้ ส่วนทัพ อินทรีเหล็ก ก็ต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสการผ่านเข้ารอบเช่นกัน

ยิ่งมาเห็นฟอร์มของ คอสตาริกา จากนัดแพ้ สเปน ยิ่งได้รู้ว่าพวกเขายังมีเรื่องต้องให้ไปเรียนรู้อีกเยอะ .. นักเตะหลายๆคนมีประสบการณ์มากก็จริง แต่เกินครึ่งทีม ที่รับใช้ชาติมาตั้งแต่ เวิลด์ คัพ 2014 ซึ่งพอเจอเกมเร็วๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดังนั้นสำหรับ คอสตาริกา ก็ทำผลงานให้ดีที่สุด ไว้เป็นความทรงจำก่อนสุดเส้นทาง เวิลด์ คัพ

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline