logo-heading

โดยตลอดเกมทั้ง 90 นาทีอาจจะไม่ค่อยหวือหวาเร้าใจมากนัก แต่ทว่าก็มีหลากหลายประเด็นพอให้ได้หยิบจับมาพูดคุย 

ว่าแล้ว ขอบสนาม เลยทำเลยรวบรวมช็อตเด็ดๆ จากเกมนี้มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน จะมีอะไรไปไปติดตามกันได้เลย

การจัดทัพ

เริ่มต้นที่การจัดทัพ ภายหลังพลพรรค "ฟ้า-ขาว" ออกสตาร์ทเกมแรกด้วยความพ่ายแพ้ต่อ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 ส่งผลให้นัดนี้ ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือของทีมจัดการเปลี่ยน 11 ตัวจริงมากถึง 5 ราย

เกมรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ของ คริสเตียน โรเมโร่ จับคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ส่วนในรายอื่นๆ ที่ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองประกอบไปด้วย นิโกลัส ตายาฟิโก้ ,เลอันโดร ปาเรเดส , มานูเอล โมลิน่า และ อเลฮานโดร โกเมซ

ส่วนคนที่ถูกหยิบจับลงสนามมาแทนก็มี กอนซาโล่ มอนเทียล,  กีโด้ โรดริเกซ, มาร์กอส อคุนย่า และ เล็กซ์ แม็คอัลลิสเตอร์ ถือว่าพวกเขาปรับโฉมมากพอสมควรจากเกมแรก

ส่วนทางฝั่ง เม็กซิโก เกมรุกยังคงหวังพึ่งพา หลุยส์ ชาเวส, เออร์วิง โลซาโน่ และ อเล็กซิส เวก้า ส่วน กีเยร์โม่ โอชัว นายด่านฮีโร่จากเกมก่อนยังคงยืนเฝ้าเสาเหมือนเช่นเคย

หลังเกม "อาร์เจนฯ" เก็บ 3 แต้มเหนือ "เม็กซิโก" ลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้าย

รูปเกมที่น่าผิดหวัง

เชื่อว่าก่อนเกมแฟนบอลหลายๆ คนคงหวังอยากจะเห็นเกมที่มีคุณภาพจากทั้ง 2 ฝั่ง เพราะด้วยสถานการณ์ที่คล้ายกันคือต้องการชัยชนะเพื่อเพิ่มโอกาสกรุยทางเข้าสู่รอบต่อไป

ทว่า 45 นาทีแรกกลายเป็นความน่าเบื่อที่ชวนแฟนบอลง่วงเสียเหลือเกิน อาร์เจนฯ แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้สร้งสรรค์โอกาสทำประตูได้มากเท่าไหร่นัก แถมจังหวะของทัพ "ฟ้า-ขาว" ดูจะไม่ขาด ก็เกินไปในหลายๆ จังหวะ ส่วนหนึ่งเพราะ เม็กซิโก เดินเข้าหา และใช้เกมหนักในการเข้าแลกด้วย

ส่วนช่วงครึ่งหลังอาจมี 2 ประตูแบบสุดสวยจาก ลิโอเนล เมสซี่ กับ เอ็นโซ่ แฟร์นาเดซ ทว่ารูปเกมโดยรวมก็ยังไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก สิ่งที่ อาร์เจนติน่า ดีกว่าคือเรื่องของความเฉียบขาดในการเข้าทำสังเกตุได้จาก 2 ประตูที่พวกเขาทำได้ในเกมนี้

แม้ภาพรวมจะรูปเกมออกมาไม่สวยงามนัก ติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง แต่ก็ได้ 3 คะแนนสำคัญมากครอง สถิติหลังเกมบ่งบอกว่าทัพ "ฟ้า-ขาว" ดูดีกว่าเล็กน้อยทั้งครองบอล 59% โอกาสยิงไป 5 ครั้ง ตรงกรอบ 2 ครั้ง เป็น 2 ประตู ซึ่งนี่คือความเฉียบขาดที่สามารถสร้างความแตกต่าง และเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ 

ส่วน เม็กซิโก นอกจากการไล่จัดเกมแบบหนักหน่วงแล้วเป็นเกมที่พวกเขาไม่ได้มีอัตราความอันตรายในแผงเกมรุกเท่าไหร่นัก ตลอด 90 นาที มีโอกาสทำประตูเพียง 4 ครั้ง เท่านั้น 

หลังเกม "อาร์เจนฯ" เก็บ 3 แต้มเหนือ "เม็กซิโก" ลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้าย

สถิติของ ลิโอเนล เมสซี่

ประตูของ เมสซี่ ในเกมดวล เม็กซิโก ถือว่าเป็นการปลดล็อคที่มาได้ถูกช่วงเวลาดีเหลือเกิน ช่วยให้ทำลดความกดดัน และเป็นส่วนสำคัญในการเก็บ 3 คะแนน เพื่อโอกาสลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไปในเกมสุดท้ายที่ต้องดวบกับ โปแลนด์

ซึ่งในเกมล่าสุดของ เมสซี่ เจ้าตัวได้รังสรรค์สถิติใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่สถิติที่เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยและมากที่สุดในการทำประตู และแอสซิสต์ในเกมเดียวกันในศึกฟุตบอลโลก

ย้อนกลับไปเมื่อฟุตบอลโลก 2006 ในเกมที่ทัพ "ฟ้า-ขาว" ดวลกับ เซอร์เบีย เจ้าตัวทำสถิติดังกล่าวไว้ที่วัย 18 ปี 357 วัน ส่วนล่าสุดก็จัดการทำ 1 ประตู 1 แอสซิสต์ เป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่ทำได้ในเกมเดียวด้วยวัย 35 ปี 155 วัน

ส่วนอีกสถิติต่อมาคือการทำประตูในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ตอนนี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 8 ประตู เทียบเท่ากับตำนานของทีมชาติอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า แต่ทว่ายังคงเป็นรอง กาเบรียล บาติสตูตา ที่จำนวน 10 ประตู

ซึ่งด้วยความห่างเพียง 2 ประตู ดูแล้วไม่ใช่เรื่องยากในการเทียบเท่า และเร่งสปีดแซงได้ของ เมสซี่ ทว่าปัจจัยตรงนั้นอาจไม่สำคัญเท่าการผ่าเข้าสู่รอบต่อไปของทีมในตอนนี้

สถานการณ์กลุ่ม C

สถานการณ์ของกลุ่ม C หลังจบเกมที่ 2 ไป ต้องบอกว่าลุ้นกันสนุกเลยทีเดียว ปัจจุบัน โปแลนด์ นำเป็นจ่าฝูงอยู่ที่ 4 คะแนน ส่วน อาร์เจนติน่า รั้งอันดับ 2 ด้วยการมี 3 คะแนน เท่ากับ ซาอุดิอาระเบีย ส่วน เม็กซิโก รั้งท้ายเก็บไปได้เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น

โปรแกรมนัดสุดท้ายที่ต้องตามลุ้นทัพ "ฟ้า-ขาว" ดวลกับ โปแลนด์ คิดตามหลักการง่ายๆ คือใครจัดการคว้า 3 คะแนนได้ก็ตีตั๋วผ่านเข้ารอบต่อไปในทันที ทว่าทัพ โปแลนด์ อาจได้เปรียบนิดหน่อยตรงที่สามารถยื้อผลเสมอเมื่อกรุยทางผ่านเข้ารอบต่อไปได้เช่นกัน

ส่วนอีกคู่ระหว่าง ซาอุฯ กับ เม็กซิโก ทัพ "จังโก้" แม้จะมีเพียงแต้มเดียวแต่ก็ยังคงมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไป และไปวัดผลการแข่งขันของอีกสนาม

จากคาดการณ์ตอนแรกกลุ่มนี้คงไม่ยากเกินไปสำหรับ อาร์เจนติน่า กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกทีมสามารถผ่านเข้ารอบได้หมด ทำให้ลุ้นสนุกยันวินาทีสุดท้ายอย่างแน่นอน

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline