logo-heading

โดยเฉพาะ น้องจู๊ด เบลลิงแฮม ที่เจิดจรัสมากจริงๆ รวมถึง แฮร์รี่ เคน ก็สามารถประเดิมตุงแรกในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ได้แล้ว 

นับเป็นผลงานที่ดีของทีมชาติอังกฤษ อีกครั้ง เวลาเจอกับทีมจากทวีปแอฟริกา ซึ่ง 8 ครั้ง ขุนพล สิงโตคำราม ชนะไปถึง 5 เกม และ หลุดเสมอ 3 เกม พร้อมยิงได้ถึง 11 ประตู เสีย 3 ลูก และ เก็บ 6 คลีนชีต 
นอกจากนี้ยังมีอะไรให้พูดถึงหลายอย่าง โดยเฉพาะสถิติส่วนตัวที่น่าสนใจของนักเตะ อังกฤษ ดังนั้นไปติดตามกันเลยครับ

- น้องจู๊ด โคตรโหด

ได้เห็นฟอร์มของ จู๊ด เบลลิงแฮม แบบนี้แล้ว บอกเลยว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เตรียมปักป้ายเพิ่มราคากำหนดค่าตัวของนักเตะรายนี้เอาไว้เลย เพราะถ้าถึงตลาดซัมเมอร์ปีหน้าเมื่อไหร่ เชื่อว่าคงรั้ง น้องจู๊ด ไว้ไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะบรรดาทีมยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กำลังจ้องตาเป็นมัน

ที่สำคัญอย่าลืมว่า จู๊ด เบลลิงแฮม เพิ่งอายุแค่ 19 ปี และ ได้เล่น ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรก แต่เขาโชว์ฟอร์มเหมือนเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์โชกโชน โดยลูกแรกก็เป็นคนแอสซิสต์ให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนลูกที่ 2 เขาก็เป็นคนสร้างจังหวะพาบอลมาจากแดนตัวเอง ก่อนลากเลื้อยหนีคู่แข่ง ส่งให้กับ ฟิล โฟเด้น เบิ้ลต่อมาให้กับ แฮร์รี่ เคน ซัดประตูขึ้นนำ 2-0 เรียกว่า จู๊ด เบลลิงแฮม มีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตู 

นอกจากนี้ น้องจู๊ด ไม่ได้โชว์ผลงานโดดเด่นแค่ในเกมรุกเท่านั้น แต่เรื่องเกมรับเขาช่วย อังกฤษ ไว้ได้มากมายเหลือเกิน โดยมีสถิติชนะในการดวลคู่แข่ง 9 ครั้ง, แท็คเกิ้ลชนะคู่แข่ง 4 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง และ เก็บบอลจังหวะ 2 ได้ถึง 5 ครั้ง ย้ำอีกครั้งว่านี่คือเด็กอายุ 19 ปี ที่อนาคตจะเป็นกำลังหลักทีมไปอีกยาวๆ

- ลิเวอร์พูล คอนเนคชั่น ?

ประตูแรกที่ อังกฤษ ยิงขึ้นนำ เซเนกัล 1-0 เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล คงมีหัวใจอ่อนระทวยกันอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นการประสานงานกันระหว่าง จู๊ด เบลลิงแฮม กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตัน หงส์แดง โดย จู๊ด แอสซิสต์ปาดมาให้กับ เฮนโด้ วิ่งมาจบสกอร์ เรียกว่าปั้นรุ่นพี่ให้ทำประตูแรกบนเวที เวิลด์ คัพ

ทำให้มีการแซวกันบนโลกโซเชี่ยลว่า หรือนี่จะเป็น ลิเวอร์พูล คอนเนคชั่น ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจาก จู๊ด เบลลิงแฮม ตกเป็นข่าวว่าต้องการย้ายมาร่วมทีม หงส์แดง มากที่สุด เพราะชื่นชอบสไตล์การเล่นของสโมสรแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้ก็มี เอเย่นต์เทรนท์ อาร์โนลด์ ทำหน้าที่คอยตามจีบอยู่ หลังไปเดินเที่ยวเมืองโดฮา กาตาร์ มาด้วยกัน

ซึ่ง จู๊ด เคยบอกไว้ว่าการมี เฮนโด้ อยู่ในทีม ทำให้เขาเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เพราะไม่ต้องไปกังวลกับเกมรับมากนัก โดย เฮนเดอร์สัน เอง ก็ผลงานยอดเยี่ยม มีสถิติระบุไว้ว่า สัมผัสบอล 55 ครั้ง ผ่านบอลแม่นยำ 89 %, วางบอลยาวแม่นยำ 100 %, ชนะ แท็คเกิ้ล 2 ครั้ง และ เก็บตกจังหวะสอง ได้อีก 6 ครั้ง พร้อมทำได้ 1 ประตู 

ดังนั้นเล่นเข้าขา รู้ใจกับ จู๊ด ขนาดนี้ มารอดูกันว่าสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะสามารถคว้าตัว จู๊ด มาร่วมทีมได้หรือไม่ เพราะเรื่องศักยภาพไม่มีใครสงสัยของสโมสรไม่มีใครสงสัย ยิ่งอยู่ในมือของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่เรื่องค่าตัว น้องจู๊ด อาจสูงถึง 150-200 ล้านยูโร มันจึงเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆว่า หงส์แดง พร้อมทุ่มเงินมากขนาดนั้นหรือไม่

- แฮร์รี่ เคน ประเดิมตุงแรก

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า การที่ทีมชาติอังกฤษ ซัลโวกระซวกคู่แข่งในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม ได้ถึง 9 ประตู แต่กลับไม่มีชื่ออยู่ของ แฮร์รี่ เคน หัวหอกกัปตันทีม อยู่บนสกอร์บอร์ดเลยสักนัดเดียว 

แต่กระนั้นก็ใช่ว่า เคน จะไม่มีส่วนร่วมกับทีม เพราะเขาเป็นคนสร้างจังหวะให้กับเพื่อนๆทำประตูในหลายๆลูก และ เป็นคนแอสซิสต์ให้กับน้องๆซัลโวได้ถึง 3 ลูก นับว่าเป็นคนสำคัญที่ สิงโตคำราม จะขาดไปไม่ได้เลย

กระทั่งวันปลดแอกก็มาถึง แฮร์รี่ เคน ประเดิมสกอร์แรกให้กับตัวเอง บนเวที เวิลด์ คัพ 2022 เรียบร้อย หลัง โฟเด้น แอสซิสต์มาให้ ก่อนจะหลุดเดี่ยวไปยิงสวนตัว เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไป ให้ อังกฤษ ขึ้นนำ 2-0 จากช็อตที่ แฮร์รี่ เคน ซัลโวได้นั้น ทำให้เขายิงประตูทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทั้ง ฟุตบอลโลก และ ยูโร ไปแล้วทั้งสิ้น 11 ประตู แซงหน้า แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานกองหน้า สิงโตคำราม ที่เคยยิงรวมไว้ 10 ลูก เรียบร้อยแล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ เคน ตามหลัง เวย์น รูนี่ย์ เจ้าของดาวซัลโวตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ ที่เคยทำไว้ 53 ประตู อยู่เพียงแค่ 1 ลูก มารอดูกันว่า หัวหอก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะทำลายได้ในศึก เวิลด์ คัพ ครั้งนี้ เลยหรือไม่

- เซเนกัล เพรสโหด แต่จบไม่ได้

"เซเนกัล มาได้ไกลเพียงนี้ นับว่าก็ดีเกินพอ" เพราะก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น ต้องเสียดาวยิงเบอร์ 1 ของทีม อย่าง ซาดิโอ มาเน่ จากอาการบาดเจ็บ ทว่าพวกเขาก็ผ่านเข้ารอบมาด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ด้วยการชนะ 2 นัด แพ้ 1 นัด ซึ่งนัดชี้ชะตาก็เอาเฉือน เอกวาดอร์ มาได้ 2-1

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ และ ความเก๋า ขุนพล เซเนกัล ยังทำได้ไม่ดีพอ ถึงแม้จะเริ่มต้นด้วยการไล่เพรสซิ่งโหดๆ ทำให้ อังกฤษ เสียบอลแดนตัวเองหลายครั้ง และ มีโอกาสฉาบฉวยที่จะยิงประตูขึ้นนำได้ก่อนด้วยช่วงครึ่งแรก แต่จบสกอร์ไม่คมแบบเหน่งๆ 2 ครั้ง รวมถึงมีช็อตที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟเอาไว้ได้

ทำให้ เซเนกัล ชุดนี้ ไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับยุคตำนาน ที่เคยผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2002 โดยเป็นอีกหนึ่งทีมจากทวีปแอฟริกา ที่ร่วงตกรอบ และ จอดป้ายหยุดอยู่เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น 

- โฟเด้น คู่ควรกับการเป็นตัวจริง

ย้อนกลับไป 2 นัดแรกรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะนัดที่ อังกฤษ ทำได้เพียงเสมอกับ สหรัฐอเมริกา 0-0 ทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต โดนดราม่าอย่างหนักว่า ทำไมไม่ยอมส่ง ฟิล โฟเด้น ลงมา ในช่วงที่ทีมต้องการประตู ทั้งๆที่ โฟเด้น กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ทั้งยิงและจ่าย ตอนเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่กลับนั่งเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง

อย่างไรตาม หลังจากนั้น เซาธ์เกต ส่ง โฟเด้น ลงมาเล่นเป็นตัวจริง และ มันก็เห็นผลทันตา เพราะ โฟเด้น ยิงได้ 1 ประตูในเกมถล่ม เวลส์ เละเทะ 3-0 ก่อนจะต่อยอดมาทำอีก 2 แอสซิสต์ให้กับ สิงโตคำราม นัดถล่ม เซเนกัล 3-0 

ทำให้ โฟเด้น กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยสุด ด้วยวัยเพียง 22 ปี 190 วัน ที่ทำ 2 แอสซิสต์ ใน 1 เกม ของ ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ ต่อจาก โรนัลโด้ ตำนานหัวหอกโล้นทองคำของ บราซิล ที่เคยทำเอาไว้เมื่อครั้ง เวิลด์ คัพ 1998 ซึ่งตอนนั้น R9 อายุ 21 ปี 284 วัน

ดังนั้นในช่วงที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ต้องกลับไปจัดการปัญหาที่บ้าน หรือ แม้กระทั่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด จะยิงจนเป็นดาวซัลโวของทีม แต่ฟอร์มของ โฟเด้น คู่ควรกับการเป็นยึดตัวจริงยาวๆ เพราะมีประโยชน์มากเหลือเกินในเกมรุกของทีมชาติอังกฤษ การจ่ายบอลของเขาให้เพื่อนได้ลุ้นทำประตูอยู่ตลอด ดังนั้นด้วยฟอร์มแบบนี้ ไม่มีเหตุผลเลยที่ เซาธ์เกต ต้องดรอปเป็นสำรอง

และ นี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจที่เกิดขึ้น ในเกม อังกฤษ ถล่ม เซเนกัล 3-0 มารอดูกันว่าชาติที่ยิงไปแล้ว 12 ประตู พร้อมเก็บ 3 คลีนชีต ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอกับ ฝรั่งเศส ใครจะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เดี๋ยวเราจะได้รู้กันในวันที่ 10 ธันวาคม

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline