logo-heading

ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือ “หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้” ซึ่งคนส่วนใหญ่น่าจะพอรู้จักชายคนนี้แค่ว่า คือโค้ชที่มาจาก สเปน ชุด U-21 และเคยคุมทีม สเปน ชุด โอลิมปิก ครั้งล่าสุดมา

แต่แน่นอน เมื่อมาเป็นถึงโค้ชทีม สเปน ชุดใหญ่แบบนี้ เราก็อยากจะเรารู้จักเขาให้ลึก และมากขี้นกว่านี้ถูกไหมครับ? ฉะนั้นว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเรา จึงอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ คนนี้ ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน และทำไม สเปน ถึงเลือกเขาเข้ามาคุมทีมครับ …

ทำไม สเปน ถึงเลือกคนนี้

เริ่มจากคำถามที่สำคัญที่สุดก่อนเลย ทำไม สเปน ถึงเลือกชายคนนี้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ สำหรับคำตอบเราได้วิเคราะห์และพบ 2 เหตุผลหลักที่เป็นไปได้ นั่นก็คือ “ประสบการณ์” และ “ความคุ้นเคย”

เด ลา ฟวนเต้ ปัจจุบันมีอายุ 61 ปี มีประสบการณ์การคุมทีมมามากกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นประสบการณ์กับทีมชาติ สเปน เกือบ 10 ปี! โดยเป็นกับทีมชุดเยาวชน

เขาเริ่มคุมทีมเยาวชน สเปน มาตั้งแต่ปี 2013 กับทีมชาติ สเปน ชุด U-19 ต่อด้วย U-21 รวมถึงได้คุมชุด โอลิมปิก ด้วย 

ประสบความสำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ ยูโร U-19 ต่อด้วยแชมป์ เมดิเตอร์เรเนียน เกม ในปี 2018 และแชมป์ ยูโร กับชุด U-21 รวมถึงคว้าเหรียญเงินหรือรองแชมป์ โอลิมปิก ครั้งล่าสุดที่ โตเกียว

ซึ่งจากประสบการณ์ในทีมเยาวชน สเปน ตลอดเกือบทศวรรษหลัง จึงทำให้ เด ลา ฟวนเต้ มีความคุ้นเคยกับผู้เล่นทีมชาติ สเปน ชุดใหญ่ปัจจุบันหลายคนมาก เนื่องจากเคยคุมกันมาตั้งแต่เป็นเยาวชน 

ไม่ว่าจะเป็นกับ เปดรี้, กาบี้, โรดรี้, ฟาติ, โอลโม่, อเซนซิโอ้, เปา ตอร์เรส, เฟร์รัน ตอร์เรส, การ์ลอส โซแลร์, อูไน ซิม่อน, เอริค การ์เซีย และอีกมากมาย

และแม้ เด ลา ฟวนเต้ จะยังไม่เคยคว้าแชมป์ในศึกฟุตบอลระดับซีเนียร์ แต่แชมป์ที่เขาเคยได้ ก็มาจากผู้เล่นหลายคนของ สเปน ชุดปัจจุบันนั่นเอง 

บวกกับภาพลักษณ์ของ เด ลา ฟวนเต้ ที่ดูซอฟและนุ่มนวลกว่า หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือคนก่อนอย่างชัดเจน เขาจึงเป็นตัวเลือกที่ “เซฟที่สุด” และนั่นคือสาเหตุหลัก ๆ ที่เขาถูกเลือกเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมชาติ สเปน ครับ

สไตล์การคุมทีม

และสำหรับคำถามต่อมา สไตล์การคุมทีม ซึ่งแน่นอนด้วยความที่ เด ลา ฟวนเต้ ก็เป็นกุนซือเลือดกระทิง ปรัญชาการเล่นต่อบอล เน้นครอบครองบอลนั้นมีอยู่แล้ว แต่ ๆ ทุกคนจะสบายใจได้กว่า และง่วงนอนน้อยกว่า

เพราะกุนซือใหม่คนนี้ นั้นมีการเล่นบอลแบบเปลี่ยนจังหวะช้าไปเร็ว หรือให้ลูกทีมกล้าคิด กล้าเข้าทำแบบฉับไวมากกว่า เอ็นริเก้ กุนซือคนก่อน 

ส่วนแผนหรือระบบหลักที่ เด ลา ฟวนเต้ มักเลือกใช้ก็เป็นพวกระบบยอดฮิตอย่าง 4-3-3 และ 4-2-3-1 ซึ่งเป็นที่คุ้นชินของผู้เล่น สเปน ชุดใหญ่ทุกคนอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการปรับให้เข้ากันครับ เพราะมีความคุ้นเคยกันทั้งเรื่องประสบการณ์ร่วม และสไตล์การเล่นในทำนองเดียวกัน


เคยเป็นนักเตะมาก่อน

จะว่าไปแล้วเราพูดเรื่องการเป็นโค้ชของ เด ลา ฟวนเต้ มาเยอะพอสมควร ท้ายนี้จะมาขอย้อนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเขา ในวงการฟุตบอลหน่อย

โดยจริง ๆ แล้วสมัยก่อน เด ลา ฟวนเต้ นั้นเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ในช่วงระหว่างปี 1980-1994 ลงเล่นในตำแหน่ง “แบ็คซ้าย” กับสโมสร แอธเลติก บิลเบา ต่อด้วย เซบีย่า และ อลาเบส

ลงเล่น ลาลีกา มามากกว่า 250 เกม จาก 13 ฤดูกาล เคยคว้าแชมป์ ลาลีกา มาถึง 2 สมัย และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ กับ โกปา เดล เรย์ อีกอย่างละสมัย ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1994

และเริ่มอาชีพโค้ชในปี 1999 กับ ปอร์ตูกาเลเต้ ทีมในระดับภูมิภาค ต่อด้วยอีกปีถัดมากับทีมในระดับ เซกุนด้า เบ สเปน ที่ชื่อ ออเรร่า ก่อนจะถูกปลด

และเขาก็รอจนมีโอกาสได้กลับมา แอธฯ บิลเบา สโมสรเก่า ด้วยการเริ่มคุมจากทีมสำรอง และต่อด้วยการขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ เด ลา ฟวนเต้ ได้คุม บิลเบา ไปกว่า 80 เกม จากนั้นในปี 2011 ก็ได้ย้ายไปคุม อลาเบส อีกสโมสรเก่าสมัยเป็นนักเตะของเขา แต่ก็คุมได้ไม่กี่ 10 เกมก็ถูกปลดออกมา


ซึ่งจะเห็นได้ว่า จากประสบการณ์คุมทีมในช่วงต้นของเขาไม่ได้สวยหรู หรือแทบจะตรงข้ามเลย จนในที่สุดก็จับผลัดจับผลูได้มาคุมทีมเยาวชน สเปน เมื่อปี 2013 

จากนั้น เด ลา ฟวนเต้ ก็เริ่มได้คุมทีมแบบต่อเนื่อง มีคว้าแชมป์ มีขยับขึ้นมาคุมทีมชุด U-21 และชุด โอลิมปิก จนกระทั่งล่าสุดได้มีโอกาสมาคุมทัพ กระทิงดุ ชุดใหญ่แล้ว ซึ่งถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตกว่า 61 ปีของเขาเลย

และเขาจะได้ประเดิมงานใหม่สองนัดแรกในปีหน้า ช่วงเดือนมีนาคม 2023 กับศึก ยูโร 2024 รอบคัดเลือก เจอกับ นอร์เวย์ และ สก็อตแลนด์ ไว้ตอนนั้นเราค่อยมาดูผลงานของ เด ลา ฟวนเต้ กันครับ.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline