logo-heading

ชื่อของ มาร์ติเนซ ได้รับการจับตามองมานานพอสมควร ตั้งแต่ยังคงสวมเครื่องแบบของ อาร์เซน่อล เป็นเพียงนายด่านมือ 2 ทั้งที่เขาเองก็มีฝีมือ เพียงแต่ว่าไม่ได้รับเวทีในการโชว์ผลงานมากเท่าไหร่นัก

ภาพที่เขานั่งวิดีโอคอลกับครอบครัวในวันที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ยังคงเป็นหนึ่งในช็อตที่นำมาถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่องถึงความสำเร็จของชายจาก มาร์เดล ปาตา จนคว้าความสำเร็จมาครองได้สำเร็จ

จากนั้นการย้ายไป แอสตัน วิลล่า ก็เหมือนกราฟชีวิตลูกหนังของเขาจะพุ่งทะยานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เพราะเจ้าตัวได้รับมอบหมายเป็นตัวเลือกแรกของทีม พร้อมเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มทำให้ทัพ "ฟ้า-ขาว" มีความแข็งแกร่งทั่วแผ่น และประสบความสำเร็จความแชมป์โคปา อเมริกา มาครอง

จากความยอดเยี่ยมที่ผ่านมา มาร์ติเนซ ถูกยกย่องว่าเป็นนายทวารเบอร์ต้นๆ ของโลกแบบไม่ต้องสงสัย นายด่านร่างใหญ่ แต่มีความพลิ้วไหว และปฏิกิริยาที่ว่องไวเหลือเกิน

จนกระทั่งถึงทัวร์นาเมนต์สำคัญ มาร์ติเนซ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญพา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ จากผลงานเซฟอุตลุด แล้วที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์คือการสถาปนาตัวเองเป็นจอมเซฟจุดโทษอย่างสมบูรณ์ พาชาติบ้านเกิดไปถึงฝั่งฝัน รวมไปถึงความสำเร็จของ ลิโอเนล เมสซี่ ก็เหมือนมีเขาที่เข้ามาช่วยเติมเต็ม

แน่นอน มาร์ติเนซ ได้รับเครดิตไปไม่ใช่น้อยกับผลงานที่แสดงออกมาตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ การตาร์ 

ทว่าเรื่องราวในสนามที่ว่าสุดจัดแล้ว ประเด็นนอกสนามกลับเป็นอีกหนึ่งสีสัน หรือจะเรียกว่าเป็นคนเรียกตีนชาวบ้านตัวยงเลยก็ว่าได้

สิ่งที่เราเห็นคือ มาร์ติเนซ เป็นนายทว่าที่โคตรปั่นประสาทมากที่สุดคนหนึ่ง หรือจะเรียกให้พอเข้าใจง่ายๆ คือกวนตีนนั่นแหละครับ

ไม่ว่าจะเป็นลีลาหลังเซฟจุดโทษ การปั่นหัวคู่แข่งระหว่างแข่งขัน ซึ่งถ้าคู่ต่อสู้ตรงหน้าใจไม่แข็งพออาจตบะแตก และกลายเป็นตกหลุมพรางของนายด่านรายนี้ได้ง่ายๆ

เปิดประเด็น \"มาร์ติเนซ\" ทำไมต้องเกรียนใส่ \"เอ็มบัปเป้\" ?

ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่กลายเป็น ช็อต ออฟ เดอะ ทัวร์นาเมนต์ เลยก็ว่าได้คือจังหวะที่เขาขึ้นรับรางวัล นายทวารยอดเยี่ยม ด้วยความเป็นคนปั่นๆ ชอบทำอะไรที่แปลกๆ ว่าแล้วพี่แกก็เอารางวัลถุงมือทองคำไปอยู่ตรงกระเจี๊ยวพรางเอนเอวไปข้างหน้า

แม้ตอนท้ายเจ้าตัวจะออกมาบอกว่าที่ทำไปนั้นเพราะต้องการตอบโต้กองเชียร์ฝรั่งเศสที่โห่ใส่เขา แม้ในสนามจะมีเหล่ากองเชียรของทัพ "ตราไก่" อยู่เพียงหยิบมือ หรือราว 5 พันคนเท่านั้น

แน่นอนมันกลายเป็นประเด็นเรื่องของความเหมาะสม เลยเกิดเป็นเสียงแตกกันทั้ง 2 ฝ่ายว่า สิ่งที่ มาร์ติเนซ ทำนั้นมันสมควรหรือไม่ ถ้าจะหาวิธีตอบโต้มันมีอีกหลายท่วงท่าที่สามารถทำได้

แต่ก็นั่นแหละครับต่างคนต่างมุมมอง มองให้เป็นสีสันก็ย่อมได้ เพราะการกระทำแบบนั้นแทบจะแย่งซีนทุกอย่างไปได้ทั้งหมดเลย

จนกระทั่งถึงประเด็นน่าล่าสุดกับการเย้ยหยัน คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในการงานฉลองแชมป์ฟุตบอลที่ประเทศบ้านเกิด จนเกิดเป็นกระแสดราม่าปะทุขึ้นมาอีกรอบ

โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ มาร์ติเนซ นำหน้ากากที่เป็นรูปของ เอ็มบัปเป้ มาติดไว้กับตุ๊กตาหมีตัวน้อย พร้อมหอบหิ้วขึ้นรถขณะอยู่บนรถขบวนแห่ด้วย

แน่นอนว่าเมื่อภาพดังกล่าวปรากฎต่อสาธารณะย่อมเป็นประเด็นร้อนตามมาถึงเรื่องของความเหมาะสม และการให้เกียรติเพื่อนนักเตะด้วยกัน ทั้งที่หลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศ เราเพิ่งจะเห็นภาพอันสวยวามที่นายทวารรายนี้เข้าไปปลอบใจ เอ็มบัปเป้ ที่นั่งซึมกับความผิดหวังอยู่

ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ความสวยงามตรงนั้นกลับถูกทำลายลงไปอย่างสิ้นซาก ด้วยหน้ากากที่ มาร์ติเนซ ถืออยู่

ย้อนกลับไปช่วงฉลองชัยในห้องแต่งตัว มาร์ติเนซ เคยแซะ เอ็มบัปเป้ ไว้ดอกหนึ่งแล้วด้วยขณะที่ทีมกำลังกระโดดโลดเต้นกัน ในทีมมีการพูดขึ้นมาว่า "ร่วมยืนไว้อาลัย 1 นาทีให้กับ ..." ทันใดนั้น มาร์ติเนซ ก็พุ่งพรวดกล่าวชื่อของ เอ็มบัปเป้ ออกมา

เปิดประเด็น \"มาร์ติเนซ\" ทำไมต้องเกรียนใส่ \"เอ็มบัปเป้\" ?

ต้นตอของเรื่องนี้จากคาดการณ์คงมาจากที่ครั้งหนึ่ง เอ็มบัปเป้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวว่าชาติจากทวีปยุโรปมีความพร้อมในการลุยศึกฟุตบอลโลกมากกว่า เพราะลงสนามในเกมระดับสูงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังพาดพิงไปถึง อาร์เจนติน่า กับ บราซิล ว่าในรอบคัดเลือกพวกเขาไม่ได้เจอกับทีมระดับสูง ที่มีความยากเท่ากับฝั่งยุโรปต้องเจอ

ฉะนั้นแล้วเมื่อบทสัมภาษณ์นั้นไปเข้าคู่ มาร์ติเนซ เจ้าตัวเลยตอบโต้กลับด้วยคำสัมภาษณ์ที่ว่า "เขาไม่รู้เรื่องฟุตบอลมากพอ เขาไม่เคยเล่นในอเมริกาใต้ เมื่อคุณไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ มันอาจจะดีกว่าที่จะไม่พูดถึงมัน แต่ไม่เป็นไร เราเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมได้รับการยอมรับเช่นกัน"

แน่นอนจากประเด็นข้างต้นทำให้เหมือนเป็นการจุดกระแสความบาดหมางต่อทั้ง 2 ฝ่าย แต่สุดท้ายกลายเป็น มาร์ติเนซ ที่เอาชนะไปได้ในยกนี้ 

ส่วนเรื่องคอมเมนต์ในโลกโซเชียลย่อมมีแบ่งเป็น 2 ฝ่ายตามความรู้สึกของแฟนบอลท่านนั้นๆ บ้างก็บอกว่าเป็นเพียงแค่สีสัน บางคนอาจมองไปถึงความเกรียนที่มีอยู่ในตัวของ มาร์ติเนซ แบบเต็มขั้น ส่วนอีกฝั่งอาจมองถึงความให้เกียรติซึ่งกันและกัน

และนี่คือที่มาทั้งหมดของประเด็นร้อนที่ มาร์ติเนซ ไปปั่นประสาทใส่ เอ็มบัปเป้ 

คิดเห็นอย่างไรคอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ครับ ...

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline