logo-heading

ด้วยผลงานอันโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รูปร่างอาจไม่ได้สูงใหญ่ ที่ทดแทนด้วยพละกำลังอันยอดเยี่ยมในการวิ่งไล่ตัดเกมแดนกลางของคู่แข่ง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวกลางเบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

อีกทั้งการันตีด้วยการถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษ และเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์หลักของ แกเร็ธ เซาธ์เกต โดยเฉพาะในช่วงทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 ที่ทีมคว้าอันดับ 2 มาครอง

ทว่ากับสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ดูเหมือนจะสวนทางกับอดีตที่ผ่านมาพอสมควร ทั้งเรื่องของสภาพร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง รวมไปถึงผลงานที่ไม่เหมือนเก่า อีกทั้งล่าสุดมีข่าวว่าน้ำหนักขึ้นจน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องตัดออกจากทีม

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปไล่เรียงไทม์ไลน์ชีวิตลูกหนังของ ฟิลลิปส์ กันหน่อยว่าจากตอนแรกที่ผลงานสุดแจ่ม ทำไมทุกอย่างมันถึงพลิกตาลปัตรกลับด้านแบบนี้

ตัวตึงแห่ง ลีดส์ ยูไนเต็ด

คาลวิน ฟิลลิปส์ ถือว่าเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาจากอคาเดมี่ของสโมสรอย่างแท้จริง เข้ามาเป็นสมาชิกของทีมตั้งแต่อายุ เพียง 15 ปี เท่านั้น ก่อนค่อยๆ เก็บเกี่ยวชั่วโมงบินในการฝึกซ้อมทุกๆ วัน จนกระทั่งได้รับโอกาสก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับทัพ "ยูงทอง" เมื่อช่วงปี 2015 ในเกม แชมเปี้ยนสชิพ ดวลกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 

จากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มขยับขึ้นมามีบทบาทกับทีมมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นกองกลางคนสำคัญของทีมแบบเต็มตัวในซีซั่น 2016-17 ภายใต้การคุมทีมของ แกรี มังก์ พร้อมได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคมในปี 2016 อีกด้วย

ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา ฟิลลิปส์ คือจิ๊กซอว์สำคัญของทีมมาตลอด พร้อมผลงานที่พอจับต้องได้ หลักฐานสำคัญคงเป็นการติดทีมของ 2 สถาบันทั้ง ทีมยอดเยี่ยมแชมเปี้ยนชิพ ซีซั่น 2018-19 และ ทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในฤดูกาลถัดมา

แน่นอนว่าซีซั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดคงเป็นฤดูกาลที่เขาพา ลีดส์ กลับมาโลดแล่นบนลีกสูงสุดอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะผลงานของเขาที่คอยรังสรรค์ออกมา จนเริ่มได้รับการจับตามองแล้วว่าแข้งจากลีกรองรายนี้มีความโดดเด่น และน่าสนใจมากเหลือเกิน

\"คาลวิน ฟิลลิปส์\" : จากตัวตึงแห่ง\" ลีดส์\" สู่ดาวโรยทัพ \"เรือใบ\"

พรีเมียร์ลีก ครั้งแรก

หลังจากโชว์ผลงานได้อย่างเร่าร้อนในลีกล่างก็ถึงเวลาแห่งการฉายแสงบนลีกสูงสุด ว่าแล้ว คาลวิน ฟิลลิปส์ ก็สามารถทำลายกำแพงวิจารณ์ของใครหลายคนว่าเก่งแต่ลีกรองได้สำเร็จด้วยผลงานในสนาม

ภาพรวมอาจจะไม่ได้โดดเด่นจนได้รับการพูดถึงแบบตลอด แต่ผลงานของเขาถือว่ารักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่เพิ่งเป็นขวบปีแรกกับการสัมผัสศึกพรีเมียร์ลีกที่เต็มไปด้วยเหล่านักล่าไม่ว่าจะเป็น เสือ, สิงห์ หรือ กระทิง

ซีซั่นแรกผ่านไปภาพที่คอยตัดเกม ไล่บี้คู่แข่งแดนกลางถือว่าเป็นอะไรที่ชินตามากพอสมควร ทั้งจังหวะแท็คเคิล, แย่งบอลจากคู่แข่ง หรือ การเคลียร์บอล 

ทว่ากับฤดูกาลที่ 2 ความโชคร้ายเริ่มเข้ามาเยือนมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั้นก็คืออาการบาดเจ็บ

ฟิลลิปส์ ต้องหายหน้าจากสนามไปนานกว่า 3 เดือน จากอาการบาดเจ็บบริการแฮมสตริง ส่งผลให้พลาดลงสนามไปยาวนาน ซึ่งกว่าจะกลับมาได้ก็เจ้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายซีซั่น 2021-22 แล้ว แต่ทว่าก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในการมี ฟิลลิปส์ เข้ามาเติมเต็มพร้อมพาต้นสังกัดรอดตกชั้นได้สำเร็จ

ก้าวสำคัญของชีวิตลูกหนัง

ซัมเมอร์ 2022 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่พิเศษอีกครั้งของ ฟิลลิปส์ ที่เจ้าตัวได้มีโอกาสโยกย้ายออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ กับทีมชั้นนำของประเทศอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ใช่ครับ... นี่คือการย้ายทีมครั้งแรกของเจ้าตัวในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ หลังค้าแข้งกับ ลีดส์ มาอย่างยาวนาน พร้อมลงสนามไปมากกว่า 230 เกม

และแน่นอนว่าบทบาทกับทัพ "เรือใบสีฟ้า" ทีมต้องการตัวเขาเข้ามาช่วยแบ่งเบา โรดรี้ ในการคอยตัดเกม สลับหมุนเวียนตามโปรแกรมที่ลงสนามที่ถี่ยิบในซีซั่นนี้ อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพแดนกลางให้มีความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม

ทว่าดูเหมือนว่าความคิดนั้น กับความเป็นจริงชั่งสวนทางกันเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฟิลลิปส์ เพิ่งลงสนามให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปเพียง 4 เกมเท่านั้น รวมแล้วเป็นเวลาเพียง 53 นาทีถ้วน 

ซึ่งสิ่งที่เหนี่ยวรั้งเขาไว้คือเรื่องของอาการบาดเจ็บที่เล่นงานตั้งแต่ต้นซีซั่นกว่าจะกลับมาได้ก็เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ก่อนได้รับโอกาสลงสนามในศึกลีก คัพ ที่ดวล เชลซี 40 นาที 

และนั่นเองกลายเป็นจุดที่น่าจะทำให้ เซาธ์เกต เห็นว่าจิ๊กซอว์ตัวนี้กลับมาแล้วเลยจัดการหิ้วขึ้นเครื่องไปกาตาร์สู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยนั้นเอง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ตามมาเป็นห่างว่าวก็ตามถึงความเหมาะสมทั้งที่นักเตะเพิ่งหายเจ็บกลับมา และลงเล่นไปเพียงหยิบมือเดียว

\"คาลวิน ฟิลลิปส์\" : จากตัวตึงแห่ง\" ลีดส์\" สู่ดาวโรยทัพ \"เรือใบ\"

กราฟเริ่มปักหัว

กระทั่งล่าสุดก็เกิดประเด็นให้ได้พูดถึงเกี่ยวกับแข้งรายนี้ขึ้น แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน อย่าวที่กล่าวไปว่า ฟิลลิปส์ มีชื่อไปลุยศึกฟุตบอลโลกกับ อังกฤษ โอเคแหละครับว่าโอกาสลงสนามของเขาอาจจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยร่างกายก็ควรต้องฟิต และมีการฝึกซ้อมออกตลอด

ซึ่งจากเกมล่าสุดที่ แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในศึกลีก คัพ เหล่าบรรดาแข้งทัพ "สิงโตคำราม" ก็ต่างมีชื่อในทีมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช หรือ ไคล์ วอล์คเกอร์ ทว่าทางฝั่ง ฟิลลิปส์ กลับเป็นแข้งรายเดียวจากทีมชาติอังกฤษที่ชื่อหลุดโผออกไป ก่อนที่ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะออกมาเผยถึงประเด็นนี้ว่า

"เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขามีน้ำหนักเกิน เขาไม่ได้มาในสภาพที่พร้อมสำหรับการฝึกซ้อม และลงเล่น"

ชัดเจนครับ... ว่า ฟิลลิปส์ ปล่อยตัวให้น้ำหนักขึ้นจนไม่อยู่ในสภาพที่กุนซือต้องการใช้งาน และแน่นอนว่ากับฟุตบอลอาชีพเรื่องการดูแลร่างกายคือสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ

แต่กับ ฟิลลิปส์ ที่มีเกมลงเล่น แถมเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทว่าสภาพที่ออกมากลายเป็นหล่นจากมาตรฐานไปไกล และยิ่งมีตัวเปรียบเทียบเป็นเพื่อนร่วมแคมป์ยิ่งได้เห็นภาพที่ชัดเจน

ที่ผ่านมาเราได้เห็นกันแล้วว่านักเตะที่ไม่ได้มีพฤติกรรมนอกสนามแย่ ดูแลร่างกายไม่ดีจุดจบมันเป็นอย่างไร ไม่ต้องมองไปไหนไกลแค่ในอังกฤษด้วยกันนักเตะอย่าง แดนนี ดริงค์วอเตอร์ หมดสภาพทันทีหลังย้ายออกจาก เลสเตอร์ หรือ เดเล่ อัลลี อดีตดาวรุ่งที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นอนาคตของอังกฤษ ตอนนี้กราฟชีวิตปักหัวลงอย่างชัดเจน

ฉะนั้นถ้า คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่อยากจะเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวคงต้องกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นให้ได้อีกครั้ง ด้วยวัย 27 ปี ที่เปรียบเหมือนหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตค้าแข้ง

เรื่องฝีเท้าเราเห็นแล้วว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ ยอดเยี่ยมขนาดไหน ต่อจากนี้อยู่ที่ทัศนคติอของเขาเองแล้วว่าจะพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แบบไหนมากกว่า

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline