logo-heading

เพราะต่อให้จะยิงประตู หรือ ทำแอสซิสต์ให้กับ หงส์แดง ได้แค่ไหน แต่กระนั้นเขาไม่สามารถสลัดภาพเจ้าของฉายา "แอนดี้ แคร์โรลล์ เวอร์ชั่น 2.0" ไปได้เลย

ก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น เหมือนว่า นูนเญซ เริ่มจะปรับฟอร์มให้จูนเข้ากับ ลิเวอร์พูล ได้แล้ว โดย 4 นัด ตลอดเดือนพฤศจิกายน ที่ลงเล่น เขาซัลโวให้ หงส์แดง ไป 3 เม็ด พร้อมทำอีก 1 แอสซิสต์ เรียกว่าความมั่นใจเต็มเปี่ยม

แต่กระนั้นหลังจาก อุรุกวัย ตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก และ นูนเญซ กลับมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล เพียงแค่นัดแรกในแมตช์อย่างเป็นทางการ ที่แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย เจ้าของฉายา "แคร์โรลล์ เวอร์ชั่น 2.0" ก็กลับมาดังกึกก้องในหัวใจอีกครั้ง

ทำไม นูนเญซ สลัดภาพลักษณ์นี้ไม่ออก ขอบสนาม อินไซด์ จะพาไปหาคำตอบกันครับ

1. ผลงาน ฟุตบอลโลก ช่างย่ำแย่

ดาร์วิน นูนเญซ เดินทางไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 รับใช้ทัพ จอมโหด ในฐานะตัวความหวังใหม่ของชาติ เนื่องจาก เอดินสัน คาวานี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ก็อยู่ในช่วงไม้ใกล้ฝั่ง จะไปแบกน้องๆเหมือนสมัยก่อนๆไม่ได้แล้ว

นูนเญซ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้ง 3 นัด เกมที่เสมอกับ เกาหลีใต้ 0-0, แพ้ โปรตุเกส 0-2 และ ชนะ กาน่า 2-0 แต่กระนั้นกลับไม่มีชื่อของเขาเป็นผู้ทำประตู หรือ เป็นผู้แอสซิสต์ หนำซ้ำยังมีช็อตยิงวืดหน้าประตู กลายเป็นถูกล้อไปอีกดอก

ยิ่งในวันที่ อุรุกวัย แพ้ให้กับ โปรตุเกส 0-2 เกมนั้นเขาโดนวิจารณ์มากมายบนโลกโซเชี่ยล หลังไม่มีส่วนร่วม หรือ สร้างความอันตรายใดๆให้กับทีมได้เลย โดยเขาได้สัมผัสบอลแค่ 29 ครั้ง, ทำเสียถึง 13 ครั้ง, ไม่ชนะลูกกลางอากาศเลย จากทั้งหมด 2 ครั้ง, ครอสเข้ากรอบเขตโทษ 2 ครั้ง ก็ไม่ตรงเพื่อน และ มีโอกาสยิงแค่ 1 ครั้ง ตลอด 72 นาที ที่อยู่ในสนาม

ประโยคที่เหมือนแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจของ นูนเญซ ก็มีทั้ง "หลุยส์ ซัวเรซ ที่อายุ 35 ปี ยังดูเก่งกว่า ดาร์วิน นูนเญซ" 

อีกรายบอกว่า "เปเป้ กองหลังวัย 39 ปี ของ โปรตุเกส เก็บ นูนเญซ ใส่กระเป๋า"

และที่เจ็บที่สุดก็คือ "ฟากุนโด้ เปยิสตรี ลงสนามมาแค่ 5 นาที สร้างความอันตรายได้มากกว่า ดาร์วิน นูนเญซ เจ้าของค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ตลอดทั้งเกมเสียอีก"

นั่นแหละครับ ยิ่ง นูนเญซ โชว์ฟอร์มออกทะเลเมื่อไหร่ หรือ โชว์ช็อตฮาๆเมื่อใด ภาพความทรงจำเกี่ยวกับ "แคร์โรลล์ เวอร์ชั่น 2.0" จะเด้งเข้าในหัวทันที ไม่มีวันจางหายไปได้เลย ยกเว้นเสียแต่ว่าเขาจะกลับมาทำผลงานอันยอดเยี่ยมอีกครั้ง

2. ยิงทิ้งยิงขว้าง จบสกอร์ไม่ได้

ถึงแม้ ดาร์วิน นูนเญซ จะซัลโวให้กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 9 ประตูในซีซั่นนี้ นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่เลว กับนักเตะที่ต้องปรับตัวกับลีกใหม่ และ ภาษาที่เขาไม่คุ้นเคยมาก่อน แต่ว่า นูนเญซ มักสร้างคอนเทนต์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ กับช็อตทำหมูหก หรือ มีโอกาสใส่สกอร์ แต่กลับยิงพลาดไปดื้อๆ

อย่างเกมนัดแรก ที่ นูนเญซ กลับมาลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล หลังจาก ฟุตบอลโลก 2022 ปิดฉากลง เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง เล่นร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เวอร์ชั่น คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เกมนั้น ลิเวอร์พูล แพ้ไปด้วยสกอร์ 2-3 จริงๆแล้วต่อให้รูปเกมจะเป็นรอง แต่โอกาสการหาจังหวะทำประตู ก็มีเยอะไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในรายของ ดาร์วิน นูนเญซ เขามีโอกาสได้ล่อเป้าหน่ง ได้ซัดแบบไม่มีตัวประกบในกรอบเขตโทษ ประมาณ 2-3 ครั้ง

แต่ นูนเญซ กลับยิงหลุดออกเสาสองไปทุกครั้ง อารมณ์เหมือนฉายภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีลูกนึงทำเอา เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกับเบนหน้าหนี ..

เมื่อเป็นเช่นนั้น แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ที ก็จัดการล้อเลียน ดาร์วิน นูนเญซ ทันที ด้วยการตะโกนว่า "เอ็ง มันก็ แอนดี้ แคร์โรลล์ ห่วยๆเท่านั้นแหละว่ะ"

ต่อมาอีก 2 นัด ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 และ เฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหวิวๆ ต่อให้เขาจะมีช่องว่างมากแค่ไหน มีโอกาสเหน่งๆมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย

นูนเญซ มีสถิติที่มีโอกาสลุ้นทำประตูมากถึง 52 ครั้ง ในซีซั่นนี้ แบ่งเป็นโอกาสทองถึง 14 ครั้ง แต่เขาเปลี่ยนมันเป็นสกอร์ได้แค่ 4 ลูก.. 

เห็นไหมครับว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ ดาร์วิน นูนเญซ ทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ภาพการถูกล้อเลียนว่า เป็น แอนดี้ แคร์โรลล์ 2.0 จะผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด .. ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเขาแล้วว่า ถ้ากลับมาเรียกฟอร์มสมัยอยู่ เบนฟิก้า จะสามารถรักษาผลงานแบบนั้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

ทุกอย่างดีหมดแล้ว หาช่อง, สปีดจีดจ้าน หรือ จ่ายให้เพื่อนทำประตู เหลือเพียงแค่ความมันชัดในการยิงเท่านั้น

อีกอย่าง วันที่เขาโดนวิจารณ์อย่างหนัก ควรจะต้องสงบปากสงบคำไว้บ้าง ไม่ต้องไปตอบโต้ซะทุกเรื่อง แค่โฟกัส และ ทำผลงานกับ ลิเวอร์พูล ให้ดีก็เพียงพอ

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline