จะด้วยความสำเร็จในรอบ 36 ปี หรือการมาถึงเป้าหมายของ ลิโอเนล เมสซี่ ทุกเรื่องราวของทัพ "ฟ้า-ขาว" ย่อมเป็นอีกหน้าตำนานที่ถูกกล่าวขาน และพูดถึงกันอีกยาวนานอย่างแน่นอน
ซึ่งเบื้องหน้าที่เราเห็นคือเหล่าบรรดานักเตะที่ลงไปสู้ในสนามทั้ง 90, 120 หรือ ช่วงดวลจุดโทษ ทุกคนใส่พลังกันอย่างเต็มที่ งัดทุกความสามารถออกมาจนสามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้สำเร็จ
เช่นเดียวกันกับคนเบื้องหลังที่คู่ควรต่อการให้เครดิต และคำชื่นชมไม่น้อยในการเป็นฟันเฟืองสำคัญพาทีมไปจนถึงการเอื้อมมือไปคว้าโทรฟี่ทองคำนั้นไปครอง ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือของทีม หรือเหล่าสต๊าฟฟ์อย่าง ปาโบล ไอมาร์, วอลเตอร์ ซามูเอล, โรแบร์โต้ อยาล่า และคนสุดท้ายที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือ เซร์คิโอ อเกวโร่
ชื่อของ อเกวโร่ ถูกใส่เข้าไปเป็นหนึ่งในทีมงานสต๊าฟฟ์ ตามตำแหน่งที่ระบุว่าคือผู้ช่วยของ สกาโลนี่ ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ แม้เจ้าตัวจะเพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปได้ปีเดียวก็ตาม
แม้เรื่องของประสบการณ์งานโค้ชอาจจะยังไม่มี ไม่เคยผ่านงานในการคุมทีม หรือเป็นผู้ช่วยใครมาก่อน ทว่าการมีพี่ชายคนนี้อยู่ในทีมก็เหมือนเป็นขวัญกำลังใจ และช่วยให้น้องๆ ในทีมผ่อนคลายมากขึ้น เพราะเขาเองก็เคยร่วมงานกับกลุ่มนักเตะชุดนี้มาหลายคน อีกทั้งยังรู้ตื้นลึกเป็นอย่างดีว่านักเตะ หรือทีมต้องการอะไรบ้าง
ย้อนกลับไปสมัยที่ อเกวโร่ ยังคงสวมสตั๊ดไล่หวดลูกหนังเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่เจนจัดเรื่องของการถล่มประตูเป็นอย่างมาก อาจไม่ได้มีรูปร่างที่สูงใหญ่ แต่ทดแทนด้วยความเฉียบขาดในการสอยตาข่าย อีกทั้งเทคนิคต่างๆ ที่เห็นแล้วต้องยอมรับว่าเพลินลูกตาดีนักแล
เด็กหนุ่มจาก บัวโนสไอเรส ไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และประสบความสำเร็จในการพาทีมคว้าโทรฟี่แชมป์ต่างๆ ไม่ว่าจะในระดับทวีป หรือระดับโลก
ซึ่งกับ อเกวโร่ เส้นทางกับทัพ "ฟ้า-ขาว" เขาเริ่มมาตั้งชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ไล่เรียงขึ้นมายัง ยู-20 ก่อนปิดท้ายด้วยการเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2006 เป็นเรื่อยมา พร้อมสถิติลงสนามไปมากถึง 101 เกม ถลุง 41 ตุง รั้งเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 3 เป็นรองเพียง ลิโอเนล เมสซี่ กับ กาเบรียล บาติสตูต้า
ส่วนในเรื่องความสำเร็จ อเกวโร่ ถือว่าเจนจัดกวาดแชมป์กับทีมชุดเล็กมาหลายรายการทั้ง ยู-20 ชิงแชมป์โลก 2 สมัย เมื่อปี 2005 กับ 2007 ซึ่งทีมชุดนั้นก็มีเพื่อนที่เติบโตมาพร้อมๆ กันอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย กับ ลิโอเนล เมสซี่ ร่วมทัพอยู่ด้วย
หรือในรายการ โอลิมปิก เกมส์ ก็จัดการสอยเหรียญทองมาคล้องคอได้เมื่อปี 2008 ซึ่งทีมชุดดังกล่าวต้องบอกว่ามีแต่แข้งดังร่วมอยู่ในทีมทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, ฮาเวียร์ มาสเคลาโน่ หรือ ปาโบล ซาบาเลต้า
แน่นอนกับทีมชุดเล็ก อเกวโร่ ถือว่าเป็นเต้ยกวาดความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ทว่ากับทีมชุดใหญ่เขาเองประสบพบเจอกับความผิดหวังอยู่หลายครั้งทั้งในศึกฟุตบอลโลก หรือ โคปา อเมริกา จนกระทั่งเมื่อปี 2021 ความสำเร็จแบบรูปธรรมแรกก็มาคือการคว้าแชมป์ระดับทวีปมาครองได้สำเร็จ
แม้ในวันนั้นแสงสปอร์ตไลท์ส่วนใหญ่จะฉายไปที่ เมสซี่ ที่คว้าแชมป์แรกกับ อาร์เจนติน่า แต่ในอีกมุมก็คือความสำเร็จของชายผู้นี้เช่นเดียวกัน และเป็นความสำเร็จสุดท้ายก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดเนื่องจากสุขภาพของตนเอง
หลังจากหันหลังให้กับการแข่งขัน อเกวโร่ ก็ยังไม่ได้หายหน้าไปจากสื่อ ยังมีออกมาให้สัมภาษณ์ต่างๆ รวมไปถึงการสตรีมเกมที่กลายเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจที่เขาสร้างตัวตนขึ้นมาจนได้รับความสนใจจากแฟนบอลจำนวนมาก ครั้งหนึ่งตอนที่ยังเป็นนักเตะถึงขั้นเคยโทรหาเพื่อนซี๊อย่าง เมสซี่ กลางไลฟ์มาแล้ว
จนกระทั่งก่อนศึกฟุตบอลโลกเขาถูกแต่งตั้งเป็นหนึ่งในทีมงานสต๊าฟฟ์ของ สกาโลนี่ มองแบบผิวเผินส่วนหนึ่งคือช่วยติวเหล่าบรรดากองหน้าให้มีความเป็นเพชฌฆาตคล้ายสมัยที่เจ้าตัวยังคงโลดแล่น ช่วยคอยวางแผนงานการฝึกซ้อมในสนาม
ในอีกมุมคือการให้เขาเข้ามาช่วยในเรื่องของการปลุกขวัญกำลังใจ เป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่ให้คำปรึกษาน้องๆ ในทีม
ทั้งการเป็นเพื่อนสนิทกับ เมสซี่ และประสบการณ์ในระดับสูงที่นักบอลรุ่นน้องยอมรับ ภาพโดยรวมที่ออกมาถือว่า อเกวโร่ ทำได้ดีเป็นอย่างมากในการช่วยหล่อหลอมให้ทีมมีความกลมเกลียว และรวมใจกันมากที่สุด
บทบาทนี้อาจดูไม่สำคัญ แต่มันคือหนึ่งในปัจจัยที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งมันย่อมดีกับตัวนักเตะอยู่แล้วที่มีรุ่นพี่คอยให้คำปรึกษา คอยซัพพอร์ตเคียงข้างไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์แบบไหน เพราะ อเกวโร่ เองเคยผ่านเหตุการณ์มาร้อยแปดย่อมรู้ดีว่าสภาพจิตใจของนักเตะกำลังเผชิญกับอะไรอยู่บ้าง
เปรียบให้เห็นภาพชัดขึ้นเหมือนพี่ชายที่คอยตามดูแลเหล่ารุ่นน้องทั้งหลาย ...
ไม่แปลกที่เราจะเห็นอากัปกิริยาลุ้นข้างสนาม พร้อมใส่เสื้อนักเตะลุ้นเหมือนไม่ใช่ทีมงานสต๊าฟฟ์ เพราะ อเกวโร่ ก็หวังกับทีมชุดนี้ไว้เยอะ แม้ตัวเองจะไม่ได้ลงสนามแข่งด้วย แต่ก็เหมือนเป็นการแตะมือให้น้องๆ ช่วยให้เขาไปถึงฝั่งฝันที่สมัยเป็นนักเตะไม่สามารถเอื้อมมือไปสัมผัสได้
ฉะนั้นภาพการตีกลองร้องเพลง ได้รับเกียรติให้ชูถ้วย ใส่ชุดคล้ายเป็นนักเตะในทีม หรือกระโดดโลดเต้นในห้องแต่งตัว จึงเป็นหนึ่งในความสุขที่เอ่อล้นของ อเกวโร่ อย่างแท้จริงสำหรับความสำเร็จครั้งนี้
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ออกมาโลกโซเชียลเกี่ยวกับอาการดีใจที่ออกนอกหน้า แต่ อเกวโร่ ก็ออกมาอธิบายถึงเหตุผลทั้งหมดทำให้เราเข้าใจง่ายๆ ว่า
"ผมรู้ แต่สำหรับผม เมื่อปีก่อนผมอยู่กับพวกเขา พวกเขาเป็นเพื่อนของผม เป็นทุกๆ อย่าง เพราะผมไม่สามารถเล่นต่อได้เพราะปัญหาเรื่องหัวใจ แต่สิ่งที่งดงามที่สุดคือหัวใจผมมีความสุข และจะไม่มีวันลืมสิ่งเหล่านี้เลย"
อเกวโร่ ไม่ใช่แค่มารื่นเริงกับแชมป์ที่ทีมคว้ามาได้ แต่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์เบื้องหลังที่เป็นส่วนสำคัญพาทัพ "ฟ้า-ขาว" คว้าความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ให้กับชาติบ้านเกิด
เบื้องหลังคนสำคัญจะด้วยบทบาททีมงานสต๊าฟฟ์, พี่เลี้ยง หรือ พี่ชาย
เซร์คิโอ อเกวโร่ คือหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ช่วยให้ทัพ "ฟ้า-ขาว" เป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ และเป็นแชมเปี้ยนที่คู่ควรมากที่สุด
- Paolinho -