logo-heading

โดยเกมก่อนแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 ล่าสุดยังทำได้เพียงเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-2 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 ชนิดที่เกือบแพ้ด้วยซ้ำ

ก่อนที่คู่นี้ จะต้องไปเตะรีเพลย์อีกครั้งหาผู้ชนะ เพื่อผ่านเข้ารอบ ไปดูเรื่องราวน่าสนใจ ที่เกิดขึ้นในเกมนี้กันครับ มันมีหลายประเด็นให้พูดถึง ทั้งเรื่องความผิดพลาดของแนวรับ หงส์แดง และ VAR ที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้

- ลิเวอร์พูล ยังเสียประตู ไม่หยุดหย่อน

จากทีมที่เคยเสียประตูเพียงน้อยนิด แต่ซีซั่นนี้ช่างกลับตรงกันข้าม โดย ลิเวอร์พูล มักเสียประตูแบบง่ายๆอยู่เสมอ ยิ่งชั่วโมงนี้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ต้องพักรักษาตัวประมาณ 1 เดือน ดังนั้นแผงหลังของ ลิเวอร์พูล มีระส่ำมากกว่าเดิมหลายขุม

และ ในเกมเจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ มันไม่ใช่แค่ความผิดพลาดของกองหลัง ที่ยืนประกบตัวกันไม่ดีเท่านั้น แต่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารเบอร์ 1 ของทีม ยังสร้างงานให้กับทีมตัวเองอีกดอก หลังทำพลาดแบบน่าด่า  ในช็อตที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครวิ่งตามมาเพรสซิ่ง แต่ดันเปิดไปติด กอนซาโล่ กูเอเดส ในกรอบเขตโทษ ทำให้ กูเอเดส ยิงเข้าไปแบบง่ายๆลูกหนึ่งในชีวิต

นอกจากนี้ ลูกที่ ลิเวอร์พูล โดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ตีเสมอ 2-2 ก็เสียง่ายๆเช่นกัน มันเป็นจังหวะที่ ฮวาง ฮี-ชาน ได้บอลเก็บตกตรงโซนแนวรับ ลิเวอร์พูล ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครตามประกบเขาสักคน ก่อนจะกระชากกินพื้นที่ เปิดให้ มาเธอุส คุนญ่า สุดเส้นหลัง ตวัดกลับคืนให้ ฮวาง ฮี-ชาน ยิงไปแฉลบ อิบราฮิม่า โกนาเต้ เข้าประตูไป

ทำให้ 5 นัดหลังสุด นับตั้งแต่กลับมาเล่นหลังจาก ฟุตบอลโลก 2022 ลิเวอร์พูล เสียประตูไปเยอะแยะเหลือเกิน โดยมากถึง 9 ประตู และ ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลย นับเป็นปัญหาที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังแก้ไม่ตก เพราะทุกคนในแนวรับ ล้วนโชว์ฟอร์มไม่ได้ตามมาตรฐานของตัวเอง

- ดาร์วิน นูนเญซ กลับมาทำประตูจนได้

ดาร์วิน นูนเญซ กลายเป็นกองหน้าสายคอนเทนต์ไปแล้ว เพราะเขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการจบสกอร์อย่างหนัก ซึ่งทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะมีโอกาสยิงยากง่าย ได้ซัดใกล้หรือไกลเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนมันเป็นประตูได้เลย ถึงขั้นมีสถิติบ่งบอก นูนเญซ เป็นนักเตะที่พลาดโอกาสทองเยอะสุด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 15 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เพราะ นูนเญซ สามารถทำประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ได้สักที ด้วยการยิงตีเสมอ 1-1 ช่วงท้ายครึ่งแรก จากการเปิดอันสุดสวยของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่หยอดข้ามฟากจากด้านขวาม เข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป็น นูนเญซ สปีดมายิงแบบไม่ต้องจับ ซัดเล่นทาง ผ่านมือผู้รักษาประตู วูล์ฟแฮมป์ตัน เข้าไป

จากประตูนี้ ทำให้ ดาร์วิน นูนเญซ ซัดลูกที่ 10 ในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ได้แล้ว และ เป็นตุงแรกของเขาในรอบ 5 นัด ซึ่งน่าจะเรียกความมั่นใจพอสมควร ขณะที่คนแอสซิสต์อย่าง เทรนท์ อาร์โนลด์ ทำสถิติลงเล่นให้ หงส์แดง เป็นนัดที่ 250 พร้อมกับจ่ายให้เพื่อนซัลโวเป็นครั้งที่ 62 ไปแล้ว นับว่าเยอะมากในฐานะนักเตะกองหลัง

- โม ซาลาห์ ยิงแซง เคนนี่ ดัลกลิช

ถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะฟอร์มฝืดมากแค่ไหน แต่กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังสามารถทำประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างต่อเนื่อง โดยลูกที่เขายิงให้ หงส์แดง แซงขึ้นนำ 2-1 จากช็อตที่เหมือนจะล้ำหน้า แต่ โตตี้ โหม่งสกัดไม่ดี ไปเข้าทาง บังโม ยิงด้วยซ้ายเข้าไป

ส่งผลให้ โม ซาลาห์ ยิงในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 173 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2017 สร้างสถิติยิงแซงหน้า เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานแข้งของ หงส์แดง ที่เคยทำไว้ 172 ตุง เรียบร้อย พร้อมขึ้นเป็นดาวซัลโวอันดับ 7 ตลอดกาลของสโมสร

โดยชาลเลนจ์ต่อไปของ ซาลาห์ คือสถิติของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เจ้าของฉายา เดอะ ก็อด ที่ซัลโวให้กับ ลิเวอร์พูล ไปทั้งสิ้น 183 ประตู โดยเหลืออีกเพียงแค่ 10 ลูก เท่านั้น ซึ่งดูแล้วไม่น่าใช่งานยากสำหรับ บังโม และ อาจทำได้ในซีซั่นนี้

- VAR ช่วยชีวิต ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ได้เล่นที่แอนฟิลด์ เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน รองบ๊วยของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรยากเย็น แต่ถ้าใครเป็นสาวก หงส์แดง จะเข้าใจดีว่า ชั่วโมงนี้เจอกับทีมไหน ไม่มีคำว่า ง่าย ขนาดตอนพลิกนำ 2-1 ก็ยังมาโดนตีเสมอ 2-2

ที่เลวร้ายไปกว่านั้น นั่นคือ หงส์แดง เกือบจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และ กระเด็นตกรอบไปแล้ว เนื่องจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายพลิกแซงขึ้นนำ 3-2 จากการยิงไขว้จ่อๆหน้าประตูของ โตตี้ ก่อนที่ไลน์แมนจะตีธงล้ำหน้า

ซึ่งจากภาพช้าตอนแรกในจังหวะขลุกขลิก ก็ไม่แสดงให้เห็นว่าจะมีนักเตะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ล้ำหน้าตรงไหน ทำเอา ฆูเลน โลเปเตกี เฮดโค้ช หมาป่า ออกอาการตีโพยตีพาย โวยวายว่าทีมเขาควรจะได้ประตูขึ้นนำ โดย VAR ก็ไม่ได้เคลียร์ให้ชัดเจน เพราะไม่มีนักเตะ วูล์ฟ ยืนล้ำหน้า จนแฟนบอลคาใจว่ามันออฟไซด์ได้ยังไงกัน

ก่อนที่ท้ายเกม จะมีภาพช้ามาเฉลยอีกครั้งว่า สาเหตุที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดนจับล้ำหน้า เป็นเพราะ มาเธอุส นูเนส วิ่งถอยลงมาเล่น จากจังหวะเตะมุมต่อเนื่อง ถึงแม้ว่า VAR ไม่มีภาพตีเส้นให้ดู แต่ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า ลูกนี้น่าจะออฟไซด์จริงๆ เพราะ นูเนส เป็นตัวต้นเริ่มทำให้ วูล์ฟ ได้ประตู ซึ่งเป็นการไขข้อข้องใจให้กับแฟนบอลส่วนใหญ่ ทำให้สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 2-2

- สรุปฟอร์มเกมแรกของ โคดี้ กัคโป 

สาวก เดอะ ค็อป หลายคน ตื่นมากลางดึก นอกจากจะอยากดูทีมรักแล้ว อีกใจหนึ่งก็คงอยากเห็นฟอร์มของ โคดี้ กัคโป นักเตะใหม่ ที่ ลิเวอร์พูล ซื้อมาล่าตาข่ายในช่วงตลาดเดือนมกราคม นี้

ซึ่งผลงานของ โคดี้ กัคโป ยังไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย แต่กระนั้นอย่างน้อยเขาก็มีส่วนร่วมทำให้ทีมได้ 1 ประตู จากช็อตที่เปิดไปให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ถึงแม้ลูกนี้จะไม่มีแอสซิสต์ เพราะบอลมันไปติดหัวของ โตตี้ ก่อน ทว่าก็ยังได้เห็นอะไรดีๆจากการประสานงานร่วมกัน

ส่วนที่เหลือต่อจากนี้ คือการต้องปรับตัวให้เข้ากับ ลิเวอร์พูล และ เข้ากับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เนื่องจากเขายังมีโอกาสยิงน้อยไปหน่อย ชัดๆก็แค่ช่วงต้นเกม ที่ยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตู วูล์ฟแฮมป์ตัน เท่านั้น มารอดูกันว่า กัคโป จะสามารถช่วยแบ่งเบาเรื่องการทำประตูได้มากน้อยเพียงใด

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline