logo-heading

แข้งวัย 23 ปี ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในนักเตะระดับพรสวรรค์คนหนึ่งของวงการลูกหนังแดน "ฝอยทอง" ผลงานที่มาพิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่าเด็กคนนี้มีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน รวมไปถึงโอกาสที่จะพัฒนายกระดับตัวเองไปสู่ระดับโลกนั้นมันไม่ได้ไกลเกินเอื้อมแต่อย่างใด

เด็กหนุ่มจาก วิเซอู เมืองตอนกลางของ โปรตุเกส เริ่มฉายแววเด่นตั้งแต่เด็ก ได้เข้าร่วมอคาเดมี่ของ เอฟซี ปอร์โต้ ก่อนมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ เบนฟิก้า ซึ่งซีซั่น 2018-19 คือขวบปีที่ชื่อของเขากระฉ่อนไปทั่ววงการหลังได้รับโอกาสลงสนามกับ "เหยี่ยวลิสบอน" ค่อนข้างสม่ำเสมอ พร้อมผลงานที่จับต้องได้

ซีซั่นดังกล่าว เฟลิกซ์ กระหน่ำไป 20 ประตู จากการลงสนาม 43 นัดในทุกรายการ แน่นอนว่าไฮไลท์คงอยู่ที่การทำแฮตทริกได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก ยูโรปา ลีก ที่พบกับ แฟร้งค์เฟิร์ต พร้อมสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถยิงแฮตทริกได้ในรายการดังกล่าว ด้วยวัยเพียง 19 ปี กับ 152 วัน

ซึ่งหลังจากวันนั้นกลายเป็นแสงสปอร์ตที่ส่องเขาหาตัวเขาแบบไม่ขาดสาย ...

จากดาวรุ่งฟอร์มดี สู่แข้งราคาแพงที่ แอต.มาดริด พร้อมจ่ายเพื่อหวังพาเข้ามาเป็นอนาคตของทีม เงินจำนวน 126 ล้านยูโร คือมูลค่าที่ทัพ "ตราหมี" ยอมจ่ายให้เด็กที่เพิ่งอายุแตะหลัก 20 ปีในวันนั้น อีกทั้งเพิ่งพุ่งพรวดฟอร์มเด่นได้เพียงซีซั่นเดียว ทว่ารายละเอียดเรื่องฝีเท้ามันควรค่าแกการพาตัวมาเป็นขุมกำลังทั้งปัจจุบัน และอนาคต

แอต.มาดริด พร้อมสัญญายาวถึง 7 ปี ให้กับ เฟลิกซ์ แน่นอนว่ามันคือจำนวนที่ยาวนานเหลือเกินต่อการเซ็นสัญญา 1 ครั้ง และในมุมมองของทีมบริหารของ "ตราหมี" คงหวังใช้งานเด็กคนนี้แบบยาวๆ แม้พวกเขาจะขึ้นชื่อเรื่องของการเฟ้นหากองหน้ามาประดับวงการก็ตาม

ซึ่งถ้าลองไล่เรียงเฉพาะเรื่องของสถิติ เฟลิกซ์ กับ แอต.มาดริด มันอาจดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก และมันอาจต่ำกว่าความคาดหวังที่แฟนบอลตั้งไว้ เนื่องด้วยทั้งชื่อเสียงที่ได้รับการยกยอว่ายอดเยี่ยม รวมไปถึงค่าตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

ซีซั่นแรกกับ แอต.มาดริด หนึ่งในความโชคร้ายของ เฟลิกซ์ คือโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ตลอดฤดูกาล พักรักษาตัวครั้งหนึ่งต้องหายจากสนามไปอย่างน้อย 3-4 เกม ทำให้ผลงานอาจไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่นัก รวมแล้วลงสนามไป 36 นัด ทำไปได้เพียง 9 ประตู เท่านั้น

หลังจากนั้นก็ใช่ว่าสถิติของ เฟลิกซ์ จะสวยงาม ใน 2 ฤดูกาลถัดมาก็ทำได้เพียงซีซั่นละ 10 ประตู เท่านั้น 

เจา เฟลิกซ์ : แข้งอนาคตไกล แต่ทำไมต้องย้ายออกจาก ตราหมี ?

แน่นอนว่ามันคือตัวเลขที่น้อยเอามากๆ เมื่อเทียบกับค่าตัวที่ทีมจ่ายออกไป อีกทั้งผลงานของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นถึงขนาดที่ต้องจับตามอง หรืออยู่ท่ามกลางกระแสชื่นชมในความยอดเยี่ยมเหมือนที่ผ่านมา

จนกระทั่งถึงฤดูกาลล่าสุด ดูเหมือนภาพต่างๆ จะเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้วว่าระบบการเล่นของ แอต.มาดริด ภายใต้การทำทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ไม่ได้เอื้อกับบทบาทของ เฟลิกซ์ มากเท่าไหร่นัก

แบบแผนการเล่นของ "เอล โชโล่" ในซีซั่นนี้มีการปรับเปลี่ยนบ่อยครั้งตามสถานการณ์คู่แข่งที่ได้พบ บางเกมปรับมาใช้งานในบทบาทหลัง 3 คน รูปแบบ 3-5-2 ซึ่งด้วยบทบาทของ เฟลิกซ์ เป็นนักเตะในสไตล์หน้าต่ำทำให้บทบาทตรงนี้มันน้อยลงไป เพราะโค้ชเลือกอัดกองกลางธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน 

แม้ เฟลิกซ์ จะสามารถดันขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าได้ แต่ ซิเอโอเน่ มีตัวเลือกในใจอยู่แล้วทั้ง อัลบาโร่ โมราต้า, อังเคล คอร์เรอา หรือ อ็องตวน กรีซมันน์ ที่คอยสลับใช้งานอยู่บ่อยครั้ง

ฉะนั้นเมื่อปรับมาเล่นปราการหลัง 3 คน โอกาสของ เฟลิกซ์ เลยย่อมน้อยตามไปด้วย เพราะด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่สอดครอง และขุมกำลังที่โค้ชมีเขามั่นใจในศักยภาพว่าสามารถตอบโจทย์กับสิ่งที่ต้องการมากกว่า

หรือในกรณีที่เกมไหนยืนแนวรับแบบ 4 คน ส่วนใหญ่ ซิเมโอเน่ จะมาในระบบ 4-1-4-1 หรือ 4-4-2 อย่างในระบบแรกก็เลือกใช้ตัวตัดเกมหนึ่งคน และตัวด้านบนจะใช้ โกเก้ เล่นร่วมกับ กรีซมันน์ อีกทั้งตัวริมเส้นก็ใช้บริการของ มาร์กอส ยอเรนเต้ กับ ยานนิค การาสโก้ หรือ มันเตอุส กุนญ่า

ส่วนบทบาทกองหน้าอย่างที่บอก ซิเมโอน่ ไว้ใจในตัวของ โมราต้า เป็นหัวหอกตัวเลือกแรกในตอนนี้

จะเห็นได้ว่าโอกาสโชว์ผลงานของ เฟลิกซ์ น้อยลงไปจากเดิมหลายเท่าตัว ฤดูกาลนี้เพิ่งออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ทีมในทุกรายการไปเพียง 11 นัดเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ กับเด็กที่เพิ่ง 23 ปี แบบเขา 

แม้ ซิเมโอเน่ จะออกมาบอกว่า เฟลิกซ์ ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม เปรียบไปคล้ายจิ๊กซอว์ที่ทีมเอาไว้ใช้งาน ทว่าถ้ามองในมุมของนักเตะอาจไม่ปลื้มเท่าไหร่นักกับโอกาสที่จำกัด และไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าในหนึ่งเกมจะได้ลงไปวาดลวดลายในสนามกี่นาที อย่างบางนัดมีเวลาในสนามไม่ถึง 10 นาที ด้วยซ้ำ

เมื่อเหตุผลสำคัญคือการลงเล่น ไม่แปลกที่เขาจำเป็นต้องหาต้นสังกัดใหม่เพื่อพื้นที่ที่เปิดกว้างมากกว่าเดิม และสามารถการันตีได้ว่าย้ายไปแล้วจะสามารถเป็นตัวหลัก และแกนสำคัญในการต่อสู้ในช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือ

กับข่าวที่ออกมากับ เชลซี ไม่แปลกเลยสักนิดถ้าคิดในมุมของโอกาสนักเตะทัพ "สิงห์บลูส์" กำลังมีปัญหาโดยเฉพาะเกมรุกที่ไม่สามารถคาดหวังการทำประตูได้ และการที่ได้ เฟลิกซ์ เข้าไปจะเป็นการเพิ่มมิติไปจากเดิมในการสร้างสรรค์เกม รวมไปถึงอาวุธในการไล่ล่าประตูคู่แข่ง คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าผู้เป็นโค้ชจะใช้งานเขาในบทบาทไหน

เจา เฟลิกซ์ : แข้งอนาคตไกล แต่ทำไมต้องย้ายออกจาก ตราหมี ?

วกกลับเรื่องค่าตัวของ เฟลิกซ์ อีกครั้ง อย่างที่กล่าวไปมูลค่าการย้ายมาเป็นสมาชิกของทัพ "ตราหมี" เรียกได้ว่ารุนแรงพอสมควร อีกทั้งสัญญาที่ยังเหลือถึงปี 2026 ทำให้การย้ายทีมแบบถาวรอาจเป็นเรื่องยากไปหน่อยในเร็วๆ นี้ 

ฉะนั้นมันไม่แปลกที่ค่าตัวในการยืมจะสูงถึง 11 ล้านยูโรตามรายงานข่าวที่ออกมา และไม่แปลกเช่นกันว่าทีมที่ตกเป็นข่าวด้วยจะถอนสมอในการดึงตัวมาร่วมทีม

ซึ่งถามว่าแพงไปไหม กับนักเตะที่มีสัญญายืมตัวเพียง 6 เดือน ?

แน่นอนมันคือมูลค่าที่แพงหูฉีกเลยแหละครับ ทว่าในเมื่อมีคนตั้งราคา และมีคนที่กล้ายอมจ่ายทุกอย่างมันก็ วิน-วิน รวมไปถึงตัวนักเตะที่ได้ย้ายไปหาประสบการณ์ในเวทีใหม่ๆ และที่สำคัญคือโอกาสลงสนามที่มากขึ้นไปกว่าเดิม

แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคืออนาคตหลังจากนี้ของ เฟลิกซ์ จะไปในทิศทางไหน ถ้าผลงานกับ เชลซี เฉิดฉาย แอต.มาดริด ก็พร้อมดึงตัวกลับไปใช้งานตามสัญญาที่ยังคงมีอยู่ ทว่าถ้ามันออกมาในอีกมุมบางทีคงเป็นเรื่องใหญ่ที่บอร์ดบริหารของทัพ "ตราหมี" และโค้ชมานั่งพิจารณากันอีกรอบ

เพราะถ้าคิดจะปล่อยดาวเตะรายนี้ออกจากทีม มูลค่าคงไม่ใช่ถูกๆ แม้ราคาประเมินตอนนี้จะอยู่แค่เพียง 50 ล้านยูโรก็ตาม

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline