logo-heading

ยิ่งแบ็กขวา ที่มี เจา กานเซโล่ หนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นทั้งเกมรุก และ เกมรุก มีสกิลเรื่องการแอสซิสต์เป็นเลิศ รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาเบอร์ 1 ทีมชาติอังกฤษ เรียกว่าใครที่เป็นดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตำแหน่งนี้ แทบไม่มีโอกาสได้โผล่พ้นขึ้นมาหายใจ

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีที่กล่าวมาถูกพังทลายไปเรียบร้อย เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้สร้างตัวละครลับใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า ริโก้ ลูอิส เด็กอะคาเดมี่จากสโมสร ที่ได้รับโอกาสลงเล่นตำแหน่งแบ็กขวา และ ทำผลงานได้ดีสุดๆ ถึงขั้นเบียดทั้ง กานเซโล่ และ วอล์คเกอร์ นั่งเป็นสำรอง ตั้งแต่จบ ฟุตบอลโลก 2022

ใครคือ ริโก้ ลูอิส และ ทำไม เป๊ป ถึงให้โอกาสกับเจ้าหนูคนนี้ เกมไหนคือจุดเปลี่ยน ขอบสนาม จะพาไปให้รู้จักกันมากขึ้น

- เป็นเด็กลูกหม้อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ริโก้ ลูอิส เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2004 ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ปัจจุบันอายุ 18 ปี แต่เขามีเชื้อสายจาเมก้า ตามสายเลือดครอบครัว ซึ่งคุณพ่อของเขาเป็นอดีตนักมวย ดีกรีแชมป์สหราชอาณาจักร พร้อมเปิดเป็นค่ายมวยเป็นของตัวเอง

ซึ่ง ริโก้ ลูอิส ก็ได้อิทธิพลจากคุณพ่อของเขามาเต็มๆ เพราะคุณพ่อชอบเปิดคลิปให้ดูมวยไทย และ เรื่องราวของ มูฮัมหมัด อาลี ยอดนักชกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล  แต่สาเหตุที่เจ้าหนูรายนี้ชื่นชอบฟุตบอล ก็เพราะเวลาที่เขาไปอยู่ค่ายมวย มักจะได้เตะบอลเล่นๆกับคุณพ่ออยู่เสมอ ซึ่งทำให้ ลูอิส ชื่นชอบฟุตบอลไปโดยปริยาย

จากนั้น ริโก้ ลูอิส ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ อะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ 8 ขวบ ซึ่งเจ้าหนูรายนี้ มีความสามารถหลากหลาย โดยหลักๆแล้วจะชื่นชอบในตำแหน่งแบ็กขวา แต่สามารถถูกดันขึ้นไปเล่น โฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ได้อีกด้วย

- จุดเปลี่ยนก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่

เจ้าหนู ริโก้ ลูอิส ฉายแววตั้งแต่อยู่ในทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สมัยที่เขาอายุ 15 ขวบ แต่แบกน้ำหนักขึ้นมาเล่นให้กับทีม ยู-18 ของสโมสร ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันของทีมชุดนี้ เมื่อซีซั่นก่อน เขามีสปีดที่รวดเร็ว, ไปกับบอลได้อย่างว่องไว และ ทักษะการวางบอลอันแม่นยำ ตามแบบฉบับฟูลแบ็กยุคใหม่ที่ควรพึงมี

แต่กระนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ริโก้ ลูอิส เริ่มมีโอกาสได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ ก็คือช่วงไปทัวร์ปรีซีซั่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยเกมเขาได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง ทั้งเกมเฉือน บาเยิร์น มิวนิค 1-0 และ คลับ อเมริกา 2-1

ทำให้ ลูอิส ได้รับโอกาสลงสนามบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นนัดแรกในชีวิต เกมที่ เรือใบสีฟ้า ถล่มเอาชนะ บอร์นมัธ 4-0 ซึ่งวันนั้นเขาลงเล่นเป็นตัวสำรอง และ มีเวลาอยู่ในสนามประมาณ 8 นาที โดยลงมาแทน ไคล์ วอล์คเกอร์ และ นั่นคือจุดแรกเริ่มของ ลูอิส กับการมีชื่อในทีมชุดใหญ่

- สร้างสถิติบนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

หลังได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองไปแล้ว ก็มาถึงคิวที่ ริโก้ ลูอิส ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมันเกิดขึ้นในเวทีระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลยทีเดียว โดยเป็นเกมที่ต้องเจอกับ เซบีย่า สโมสรชั้นนำจาก ลา ลีกา สเปน

ไม่ใช่แค่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเท่านั้นนะครับ เพราะ ริโก้ ลูอิส ถึงขึ้นสามารถซัลโวได้ด้วยในเกมนั้น เรือใบสีฟ้า โดยเป็นคนยิงประตูตีเสมอให้กับทีม ก่อนที่ เรือใบสีฟ้า จะแซงเอาชนะ เซบีย่า ไปด้วยสกอร์ 3-1

ประตูที่ ริโก้ ลูอิส ซัดได้นั้น ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 17 ปี 346 วัน ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนัดแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ สามารถทำประตูได้ทันที

- ไอดอลของ ลูอิส

ด้วยความที่  ริโก้ ลูอิส เล่นแบ็กขวา ทำให้เขามีไอดอลเป็นนักเตะในตำแหน่งนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้เล่นที่เขามองเป็นต้นแบบมีอยู่ 2 คน โดยคนแรกคือ ดานี่ อัลเวส ตำนานฟูลแบ็กทีมชาติบราซิล และ บาร์เซโลน่า รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ รุ่นพี่ของเขาในทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ซึ่ง ลูอิส ยอมรับว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ มีอิทธิพลกับเขาอย่างมากตั้งแต่ถูกดันขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขาแทบไม่ต้องเดินไปร้องขอวิชาอะไรจากนักเตะรายนี้ แต่ วอล์คเกอร์ มักจะให้คำแนะนำกับเขาอยู่เสมอ

"ผมแทบไม่ได้เข้าไปร้องขออะไรจาก ไคล์ วอล์คเกอร์ มากนักหรอก แต่เขามักจะให้คำแนะนำเล็กๆน้อยๆกับผมอยู่เสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมยังสามารถพัฒนาฝีเท้าไปได้อีกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"

- ตัวจริงหลัง ฟุตบอลโลก จบลง

ด้วยความที่ ฟุตบอลโลก 2022 จบลง ให้หลังเพียงแค่ไม่กี่วัน ทีมจากอังกฤษ ต้องกลับมาฟาดแข้งกันต่อเลย ดังนั้นพวกเหล่านักเตะที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นต้นไป อาจยังไม่ได้กลับมารายงานตัว 

ทำให้เกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปะทะกับ ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น คาราบาว คัพ .. ริโก้ ลูอิส ได้ลงสนามเป็นตัวจริง และ เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีส่วนทำให้ เรือใบสีฟ้า เอาชนะ หงส์แดง 3-2 ถึงขั้นที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกปากว่า เล่นดีขนาดนี้ ถ้าจะให้ดรอปเป็นสำรองนัดต่อไปก็คงไม่แฟร์

จริงๆแล้วฟอร์มของ ริโก้ ลูอิส ไม่ได้โดดเด่นถึงขั้นข้ามหน้า ข้ามตา ไคล์ วอล์คเกอร์ หรือ เจา กานเซโล่ หรอกครับ แต่เมื่อผลงานเขาของมันน่าประทับใจ ก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องรีบเร่งใช้งานตัวหลักทั้ง 2 คน เรียกว่าให้เวลาพักฟื้นเต็มที่

ดังนั้น ริโก้ ลูอิส จึงได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้งเกมบุกไปชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 และ เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ถึงแม้ว่าเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเยือน เชลซี เขาจะกลับไปนั่งเป็นสำรองอีกครั้ง แต่นั่นก็คือสัญญาณว่าในอนาคตข้างหน้า เขาอาจได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และ มีโอกาสที่จะเป็น ฟิล โฟเด้น คนต่อไป ที่ก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมี่ สู่ตัวจริงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ฮาย ฮาวดี้
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline