logo-heading

เรียกว่ารูปเกมช่าง "ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย" ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติจริงๆ

ตลอด 90 นาที ไบรท์ตัน ทำผลงานได้เหนือกว่า ลิเวอร์พูล จนลืมคิดว่าไปว่าใครคือทีมหัวกระทิของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึงขั้นที่ ซอลลี่ มาร์ช ซึ่งเป็นคนทำ 2 ประตู ออกปาหให้สัมภาษณ์ว่าควรถล่ม หงส์แดง มากกว่า 3 เม็ดด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นในเกมนี้ มีสถิติอะไรที่ต้องพูดถึง ไปติดตามกันครับ

- ไบรท์ตัน ของแสลง ลิเวอร์พูล

ใครเป็นแฟนบอล ลิเวอร์พูล ย่อมรู้ดีว่า การเจอกับ ไบรท์ตัน ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย เพราะต่อให้ หงส์แดง อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุด ก็แทบเอาชนะไม่ได้เลย โดยเฉพาะเวลาบุกมาเยือนถิ่น นกนางนวลแห่งเกาะอังกฤษ

ช่วง 6 นัดหลังสุดที่พบกัน ฝั่ง ลิเวอร์พูล ชนะได้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ที่เหลือเป็นเสมอ 3 นัด และ แพ้ 2 นัด เห็นไหมครับว่า ไบรท์ตัน คือของแสลงสำหรับ หงส์แดง ชัดๆ ซึ่งการพ่ายแพ้ครั้งนี้ มันยังถีบส่งให้ลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ร่วงไปอยู่อันดับ 8 และ ไบรท์ตัน ก้าวแซงขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง 

ซึ่งเครดิตตรงนี้ก็ต้องให้กับ โรแบร์โต้ แดร์ เซร์บี กุนซือคนใหม่ ที่มานั่งเก้าอี้แทน เกรแฮม พ็อตเตอร์ เพราะรูปแบบการเล่น ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ไม่มีคำว่า "สาละวันเตี้ยลง" แต่อย่างใด โดยตอนนี้พา ไบรท์ตัน ชนะมาแล้ว 3 เกมรวด ยิงได้มากถึง 12 ประตู นับเป็นโค้ชที่เข้ามาแล้ว ยังทำให้สโมสรเดินไปได้อย่างมั่นคง

- นักเตะ ไบรท์ตัน โคตรโดดเด่น
โดยเฉพาะ ซอลลี่ มาร์ช ซัด 2 ประตู

ต้องปรบมือรัวๆให้กับนักเตะ ไบรท์ตัน ทุกคน ที่โชว์ฟอร์มกันได้เข้าฝักทุกคน โดยเฉพาะ ซอลลี่ มาร์ช พระเอกของทีม ที่รับจบด้วยการยิง 2 ประตู ช่วงต้นครึ่งหลัง และ แอสซิสต์ให้กับ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงฝัง หงส์แดง จมสู่เหวนรก ซึ่ง ซอลลี่ มาร์ช กำลังอยู่ในช่วงกำลังพีคสุดๆ เพราะ 5 นัดหลังสุดในลีก เขายิงได้ 4 ลูก และ จ่ายให้เพือนอีก 2 ครั้ง 

แต่อย่างที่บอกครับ ไม่ใช่แค่ ซอลลี่ มาร์ช คนเดียวที่โดดเด่น ยังมี คาโอรุ มิโตมะ แนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น ที่ผลงานจี๊ดจ๊าดเหลือเกิน เผาเครื่องกองหลัง ลิเวอร์พูล จนไหม้เกรียม ไม่เชื่อก็ลองไปถาม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดูได้ โดยประตูแรกที่ ไบรท์ตัน ซัดเข้าไป คาโอรุ มิโตมะ ก็มีส่วนอย่างยิ่ง เชื่อว่าฟอร์มแบบนี้ ทีมขั้นนำจ้องกันตาเป็นมันแน่นอน

อีกคนที่เป็นตัวปิดทองหลังพระ แต่โคตรสำคัญก็คือ มอยเซส ไคเซโด้ มิดฟิลด์ตัวรับ โดยเขามีสถิติสามารถเอาบอลกลับมาครอบครองให้กับทีมได้มากถึง 11 ครั้ง มากที่สุดในทีม นอกจากนี้ยังชนะการปะทะกับนักเตะ ลิเวอร์พูล ถึง 5 ครั้ง และ แท็คเกิ้ลสำเร็จได้อีก 3 ครั้ง ด้วยกัน เรียกว่าเป็นนักเตะที่คอยขัดขวางเกมรุก หงส์แดง ได้ดีจริงๆ

- เกมเยือน หงส์แดง ย่ำแย่เกินห้ามใจ

เกมเยือนของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ต้องบอกเลยว่า ย่ำแย่เกินห้ามใจจริงๆ ไม่ว่าจะถือเคล็ดเลิกใส่ชุดสีขาว เปลี่ยนมาเป็นสีแดง หรือ เขียวเหนี่ยวทรัพย์ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะผลงานยังออกทะเลเหมือนเดิม

จากการบุกไปพ่าย ไบรท์ตัน ในเกมนี้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล เพิ่งชนะเกมเยือนไปเพียงแค่ 3 นัด เท่านั้น รวมทุกรายการ โดยแพ้ไปถึง 7 นัด และ เสมออีก 3 นัด เรีบกว่าไปเตะถิ่นใคร เตรียมทิชชู่มาเช็ดน้ำตารอได้เลย

นอกจากนี้ การพ่ายไบรท์ตัน ยังมีสถิติแย่ๆอีกมายมากเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยิงตรงกรอบเพียงแค่ 6 ครั้ง ตลอด 90 นาที เป็นจำนวนครั้งน้อยที่สุด นับตั้งแต่เกมเจอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016

เท่านั้นยังไม่พอ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ในเกมวันเสาร์ ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงเวลาบ่าย 3 โมง (ตามเวลาประเทศอังกฤษ) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 ปิดฉากสถิตินี้หลังไร้พ่ายมา 32 นัด เรียบร้อย

- โอกาส ลิเวอร์พูล ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

การพ่ายแพ้นัดนี้ของ ลิเวอร์พูล มันเป็นการตอกย้ำว่า โอกาสจบท็อปโฟร์ เพื่อคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่างยากเย็นแสนเข็ญ เหมือนความหวังแฟนบอล ลิเวอร์พูล ที่ตายไปพร้อมๆกัน

ต่อให้ยังมีอีกครึ่งซีซั่น ที่ต้องฝ่าฟัน และ ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อันดับ 4 อยู่ 8 คะแนน แต่ถ้ามองดูผลงาน ลิเวอร์พูล และ ยังฟอร์มแย่แบบนี้ แทบเป็นไปไม่ได้ ที่จะก้าวขึ้นไปติดท็อป 4 เพราะไหนจะมี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ฟูแล่ม และ ไบรท์ตัน ที่อันดับเหนือกว่าพวกเขาไปอีก

ฉะนั้นต่อจากนี้ สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ควรโฟกัส คือนำโมเมนตั้มกลับมาให้ได้เร็วที่สุด ชัยชนะคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างให้ หงส์แดง กลับมาเชิดหน้าชูตาอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวัง แต่พวกเขายังมีอีกครึ่งฤดูกาลให้ต้องพิสูจน์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

- สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ควรแก้ไข

จากอาการบาดเจ็บที่เข้ามาเล่นงานนักเตะ ลิเวอร์พูล อย่างไม่หยุดหย่อน อย่าง 2 รายล่าสุดก็คือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ ซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นเลยว่า พวกเหล่าตัวสำรอง ไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้เลย โดยเฉพาะ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งช่วงหลังได้รับโอกาสต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้โชว์ของอะไรออกมาให้เห็น รวมถึงการขาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คนเดียว ทำเอาแผงหลัง หงส์แดง อ่อนปวกเปียกเหลือเกิน

กองกลางที่ใช้วันนี้พร้อมกัน ประกอบไปด้วย ติอาโก้ อัลคันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ซึ่ง 2 คน อายุ 30 ปี+ ส่วนอีกคนกำลังจะก้าวเข้าสู่เลข 3 ในไม่ช้า ไม่ได้สดใหม่เหมือนวัยรุ่นอีกแล้ว ซึ่ง ติอาโก้ ยังโอเคมาก แต่ เฮนโด้ กับ ฟาบี้ ไม่มีเค้าโครงสมัยพีคๆอยู่เลย ไหนข่าวจะต่อสัญญาเพื่อเก็บ นาบี เกอิต้า หรือ อ็อกซ์เลด เอาไว้ ให้ฆ่าทิ้งไปได้เลย

เพราะสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ควรทำตอนนี้คือการเสริมนักเตะมิดฟิลด์เข้ามาอีกให้ได้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์อันเลวร้าย แน่นอนว่าการไปคว้า จู๊ด เบลลิงแฮม ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ในเวลาอีก 15 วัน ก่อนตลาดนักเตะเดือนมกราคม จะปิดตัวลง ทีมงานสตาฟฟ์ และ บอร์ดบริหาร ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ว่าใครที่เป็นไปไม่ได้ และ เข้ามาทำช่วยแก้ไขผลงานของ หงส์แดง ได้ไม่มากก็น้อย

ฮาย ฮาวดี้
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline