"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เปิดตัวนักเตะใหม่คนล่าสุดไปแล้วนั่นก็คือ "เวาท์ เวกฮอร์สต์" ดีกรีหัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022
ถึงจะเป็นการย้ายมาอยู่กับทีมแค่ช่วงสั้นๆ แต่ชื่อเสียงของเขาเราก็พอจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ในเมื่อเขาได้กลายมาเป็นผู้เล่นของทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ทาง "ขอบสนาม" ก็อยากพาทุกท่านไปทำความรู้กับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ เวาท์ เวกฮอร์สต์ ให้มากยิ่งขึ้นครับ
ประวัติพอสังเขป
เวาท์ เวกฮอร์สต์ หรือชื่อเต็มๆ คือ เวาท์ ฟร็องซัวส์ มาเรีย เวกฮอร์สต์ เกิดวันที่ 7 สิงหาคม ปี 1992 ที่ บอร์เน่ ประเทศฮอลแลนด์ ปัจจุบันอายุ 30 ปี ส่วนสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว หรือ 197 เซนติเมตร ประจำการในตำแหน่งกองหน้า เขาเป็นนักเตะในสังกัดของ เบิร์นลี่ย์ แต่ก่อนจะย้ายมาสวมเบอร์ 27 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยค้าแข้งอยู่กับ เบซิคตัส มาก่อน
เส้นทางค้าแข้ง
เวาท์ เวกฮอร์สต์ เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลกับทีมในระดับท้องถิ่นที่ อาร์เคเอสพี นีโอ ตามด้วย เดโต ทเวนเตแรนด์ ก่อนจะย้ายมาปลุกปั้นในแคมป์อคาเดมี่ของทีมอย่าง วิลเล่ม ทเว ในปี 2011 แต่ก็ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้แม้กระทั่งทีมชุดสำรองหรือทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว ก่อนจะเซ็นสัญญาย้ายไปค้าแข้งกับ เอมเม่น ในปี 2012 ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ในลีกรองของ ฮอลแลนด์
เวาท์ เวกฮอร์สต์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่นั้นโดยเฉพาะสถิติการพังประตูตลอด 2 ปีที่กดไป 21 ประตูจาก 66 นัด หลังจากนั้นก็ย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อกับ เฮราเคิ่ลส์ อัลเมโล่ อีก 2 ปีและก็กดไปอีก 24 ประตูจาก 73 เกม
เท่านั้นยังไม่พอเพราะในปี 2016 เวาท์ เวกฮอร์สต์ ก็ได้โอกาสย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าเดิมนั่นก็คือ อาร์แซ่ด อัลค์มาร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมชั้นนำของ เอเรดิวิซี่ พร้อมกับฝากโปรไฟล์เอาไว้ตลอดช่วง 2 ปีกับการหวดไป 45 ประตูจาก 86 เกม โดยเฉพาะในปีสุดท้ายที่ซัดไป 27 ประตูจาก 37 เกมซึ่งนั่นคือฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้ในเส้นทางค้าแข้ง
ความท้าทายใน 5 ลีกดัง
หลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนตกเป็นข่าวพัวพันกับหลายทีมชั้นนำท้ายที่สุดแล้วก็เป็นทาง โวล์ฟสบวร์ก ที่ได้ตัว เวาท์ เวกฮอร์สต์ ไปครองในปี 2018 ต้องบอกเลยว่าเรื่องผลงานและมาตรฐานนั้นแรงดีไม่มีตกจริงๆ เพราะแค่ปีแรกพี่แกก็เล่นซัลโวไป 17 ประตูบนเวที บุนเดสลีกา คว้าตำแหน่งดาวยิงสูงสุดอันดับ 3 ของลีก แถมยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถทำแฮตทริกให้ทัพ "หมาป่า" ได้ต่อจาก มาริโอ โกเมซ ในปี 2018
หลังจากนั้นอีก 2 ฤดูกาล เวาท์ เวกฮอร์สต์ ก็เหมือนจะยกระดับฝีเท้าตัวเองขึ้นไปอีกมาก โดยเฉพาะสถิติการพังประตูที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น 20 ประตูในปีที่ 2 และ 25 ประตูในปีที่ 3 นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ โวล์ฟสบวร์ก เข้าสู่ยุครุ่งเรื่องด้วยการจบอันดับ 6 ในซีซั่น 2019-20 เบ็ดเสร็จตลอดช่วง 3 ปีครึ่งในสีเสื้อ "หมาป่า" เวาท์ เวกฮอร์สต์ ซัดไปทั้งหมด 70 ประตูจาก 144 เกม เฉลี่ยแล้ว 2 นัดยิงได้ 1 ประตูจัดว่าสถิติดีเยี่ยมเลยจริงๆ
ความท้าทายครั้งใหม่ได้เดินเข้ามาถึงตัวของ เวกฮอร์สต์ ในช่วงต้นปี 2021 เมื่อพี่แกได้ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งทีมเล็กอย่าง เบิร์นลี่ย์ บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเป็นการเซ็นสัญญา 3 ปีครึ่งและมีค่าตัว 12 ล้านปอนด์
แต่นั่นเหมือนเป็นการตัดสินใจครั้งผิดพลาดเพราะตลอดช่วงครึ่งปี เวาท์ เวกฮอร์สต์ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะเขาทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้นจาก 20 เกม และสุดท้ายก็มิอาจช่วยให้ทีมยืนหยัดอยู่บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ต่อไปได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังสูญเสียความมั่นใจไปพักใหญ่ๆ แต่ เวาท์ เวกฮอร์สต์ ก็ใช้เวลาไม่นานในการเรียกความมั่นใจกลับมา เพราะในฤดูกาล 2022-23 กับการย้ายไปอยู่กับ เบซิคตัส แบบยืมตัว 1 ปีได้ลงเล่นไป 18 เกม ทำได้ 9 ประตูและ กดอีก 4 แอสซิสต์ และนั่นก็นำมาซึ่งโอกาสครั้งแรกในชีวิตเมื่อ เอริค เทน ฮาก ได้จัดการทาบทามตัวไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยรายละเอียดของสัญญานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายเงินให้กับ เบซิคตัส ในราคา 3 ล้านยูโร เพื่อฉีกสัญญา เท่ากับว่าตอนนี้จะเป็นการยืมตัวจาก เบิร์นลี่ย์ มาใช้งานจนจบฤดูกาล และก็ได้เปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนไปแล้วพร้อมกับส่วนเบอร์ 27
"แน่นอนว่าผมได้มองหาเบอร์เสื้อที่ว่างอยู่ ที่เลือก 2 กับ 7 แน่นอนว่ามันบวกกันได้ 9 ซึ่งนั่นคือเบอร์เสื้อของกองหน้า และผมก็มีความรู้สึกถึงมัน" และนี่ก็คือเหตุผลที่ เวาท์ เวกฮอร์สต์ เลือกสวมเสื้อหมายเลข 27
เกมเจอกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 18 มกราคม เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจส่ง เวาท์ เวกฮอร์สต์ ประเดิมสนามทันทีในฐานะ 11 ผู้เล่นตัวจริง และก็ได้ลงเล่นไป 70 นาที
ทีมชาติฮอลแลนด์
เวาท์ เวกฮอร์สต์ ได้โอกาสเป็นตัวแทนของชาติครั้งแรกเมื่อปี 2014 กับ ทีมชาติฮอลแลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีและก็ได้เปิดตัวเกมแรกและเกมเดียวในวันที่แพ้ โปรตุเกส 4-5 ซึ่งเกมนั้นเจ้าตัวสามารถใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ดได้ด้วย
จากนั้น 4 ปีในยุคของ โรนัลด์ คูมัน ทาง เวาท์ เวกฮอร์สต์ ก็ได้โอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แต่ก็ยังไม่ถูกมองว่าเป็นกำลังหลักของชาติจนกระทั่งศึก ยูโร 2020 ที่เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเขาก็สามารถทำได้ 1 ประตูซึ่งเกิดขึ้นในเกมนัดเปิดสนามที่เจอกับ ยูเครน
ตลอดจนศึก ฟุตบอลโลก 2022 เวาท์ เวกฮอร์สต์ ก็ถูกวางตัวไว้เป็นกำลังสำคัญของชาติ ถึง ฮอลแลนด์ จะไปถึงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่สำหรับตัวของ เวกฮอร์สต์ ก็ถือว่ามีช่วงเวลาที่น่าจดจำ เพราะเขาทำได้ 2 ประตูช่วยให้ทีมตามตีเสมอ อาร์เจนติน่า 2-2 ก่อนจะไปอกหักในช่วงการดวลจุดโทษ
สไตล์การเล่น
เวาท์ เวกฮอร์สต์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าที่มีจุดเด่นในเรื่องบอดี้สรีระที่หนาและสูงใหญ่ ด้วยส่วนสูง 197 เซนติเมตรทำให้เขาสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นจังหวะลุ้นทำประตูหรือช่วยเกมรับ เขาคือกองหน้าตัวเป้าอย่างแท้จริงเพราะสามารถครองบอล เก็บบอลจากเพื่อนและทำทางต่อได้เพื่อสร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีม
ส่วนจุดที่เป็นทีเด็ดของผู้ชายคนนี้ก็คงจะเป็นทักษะและสัญชาตญาณในการจบสกอร์ที่ดีมากๆ ถ้าดูจากโปรไฟล์ที่ผ่านๆ มานั่นคือเรื่องยืนยันชั้นดีกับการซัดไป 171 ประตูจากการลงเล่น 407 นัดให้กับ 6 สโมสร และนั่นก็ทำให้ชื่อของเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เอดิน เชโก้
การมาของ เวกฮอร์สต์ ในนึงสีเสื้อของ แมนยู น่าจะทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองมากขึ้นอย่างแน่นอน แม้จะไม่ถูกคาดหวัง แต่มันก็น่าลุ้นเหลือเกินว่าเขาจะทำได้ดีขนาดไหน กับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตครั้งนี้
HaMu Dos Santos